SOUNDBOX..Charlie Puth Nine Track Mind Tour 2016

คอนเสิร์ต

SOUNDBOX..Charlie Puth Nine Track Mind Tour 2016

  • calendar-white

    วันที่แสดง วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559

  • pin-linear-white

    สถานที่แสดง GMM Live House @ Central World Fl.8

  • clock-white

    ประตูเปิด 18.00 น.

  • calendar-sale-white

    วันเปิดจำหน่าย วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2559, 10:00 น.

แชร์
SOUNDBOX..Charlie Puth Nine Track Mind Tour 2016

ผังการแสดง & รอบการแสดง

GMM Live House @ Central World Fl.8

ราคาบัตร

วันที่แสดง
เวลา
วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559

  • ลูกค้าที่ซื้อแพ็คเกจพิเศษ จะต้องมีบัตรชมคอนเสิร์ต SOUND BOX แล้วเท่านั้น
  • ลูกค้าจะไม่สามารถใช้แพ็คเกจพิเศษได้ หากไม่มีบัตรเข้าชมการแสดงคอนเสิร์ต
  • ทั้งนี้ทางผู้จัดฯสามารถปฏิเสธการใช้สิทธิแพ็คเกจได้โดยไม่มีเงื่อนไข
  • สิทธิประโยชน์ต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นกับศิลปิน
  • ซื้อบัตรระหว่าง 10:00 - 12:00 น. ผ่านทาง Website รับชำระผ่านบัตรเดบิต/เครดิตเท่านั้น และ ไม่จำหน่ายบัตรผ่าน Call Center 12:00 น. เป็นต้นไป เปิดจำหน่ายบัตรผ่าน Call Center ตามปกติ สำหรับ WEBSITE 12:00 น. เป็นต้นไป สามารถชำระเงินสด ภายใน 2 ชั่วโมง

 ** สำหรับลูกค้าที่ซื้อแพ็คเกจพิเศษ จะได้รับการติดต่อแจ้งรายละเอียดอีกครั้งก่อนวันแสดง **

ทางผู้จัดฯ ได้จัด Safe Zone สำหรับผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี เพื่อความปลอดภัยผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปีที่ไม่มีผู้ปกครองมาด้วยจะต้องชมการแสดงในพื้น Safe Zone ที่กำหนดเท่านั้น

รายละเอียด


หนุ่มหล่อเสียงดี “ชาร์ลี พุท”

เตรียมเปิดคอนเสิร์ตในเมืองไทย 12 สิงหาคมนี้
 
กลับมาอีกครั้งสำหรับงานดนตรีคุณภาพ ซาวด์บ็อกซ์(SOUNDBOX) ที่คอเพลงทุกคนจะได้เปิดประสบการณ์และสัมผัสการแสดงสดระดับโลกของศิลปินน้องใหม่มาแรง ล่าสุด ไลฟ์ เนชั่น ร่วมกับ บีอีซี-เทโร นำหนุ่มหล่อสุดฮอต เสียงดี ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) เจ้าของเพลงฮิตติดท็อปชาร์ท อย่าง “ซี ยู อะเกน” (See You Again), วัน คอล อะเวย์ (One Call Away), มาร์วิน เกย์ ฟีท. เมแกน เทรนเนอร์ (Marvin Gaye Feat. Meghan Trainor) และอีกหลายเพลง มาเปิดการแสดงสดครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมแขกรับเชิญพิเศษจากกลุ่มศิลปินมากฝีมือ ออซโม (OZMO) และ รูม39 (Room39) ที่จะมาร่วมสร้างความสนุก ในงาน “ซาวด์บ็อกซ์” (SOUNDBOX) ในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคมนี้ ที่เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮ้าส์ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์
 
ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) เป็นศิลปินหนุ่มสุดหล่อมากความสามารถ ทั้งในเรื่องการร้อง การแต่งเพลง และการโปรดิวซ์ หนุ่มวัย 24 ปีคนนี้โด่งดังเป็นพลุแตกและกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในชั่วข้ามคืน จากผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ฟาสท์ แอนด์ ฟิวเรียส 7 (Fast And Furious 7) ในเพลง “ซี ยู อะเกน” (See You Again) ที่เขาได้ร่วมร้อง ร่วมแต่ง และร่วมโปรดิวซ์กับ วิซ คาลิฟา (Wiz Khalifa) ซึ่งเป็นเพลงฮอตฮิตติดชาร์ทอันดับ 1 ในกว่า 100 ประเทศ และได้รับการยกย่องให้เป็นเพลงแพลตตินัม และกวาดรางวัลจากเวทีอันทรงเกียรติมากมาย ในขณะที่มิวสิควีดีโอเพลงนี้ก็มียอดเข้าชมในยูทูปทะลุมากกว่าพันล้านวิวเลยทีเดียว จากนั้นเขาได้เปิดตัวอัลบั้มแรก “ไนน์ แทร็ค มายด์” (Nine Track Mind) อย่างยิ่งใหญ่และนำร่องด้วยซิงเกิ้ลแพลตตินั่มที่ได้รับการยกย่องจาก RIAA อย่าง “มาร์วิน เกย์” (Marvin Gaye) ซึ่งเป็นเพลงที่ได้ร่วมร้องกับ เมแกน เทรนเนอร์ (Meghan Trainor) และเพลง วัน คอล อะเวย์ (One Call Away) ที่แรงทะยานขึ้นชาร์ทเพลงทั่วโลก
 
ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) ได้รับเชิญไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดังมากมาย ทั้ง เดอะ เลท เลท โชว์ วิธ เจมส์ คอร์เดน (The Late Late Show with James Corden) ทางช่อง ซีบีเอส (CBS) และได้แสดงสดเพลง “วัน คอล อะเวย์” (One Call Away) ในรายการ จิมมี่ คิมเมล ไลฟ์! (Jimmy Kimmel Live!) ทางช่อง เอบีซี (ABC) รายการ ทูเดย์ (TODAY) ช่อง เอ็นบีซี (NBC) และรายการ เอลเลน ดีเจนเนอเรส โชว์ (Ellen DeGeneres Show) นอกจากนี้เขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อีกหลายรางวัลด้วย

ขณะนี้ ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) กำลังหอบผลงานเพลงในอัลบั้ม “ไนน์ แทร็ค มายด์” (Nine Track Mind) ออกแสดงไปทั่ว อเมริกา และยุโรป โดยเริ่มต้นทัวร์ที่ ซาน ฟรานซิสโก เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตในรอบดังกล่าวถูกขายหมดเกลี้ยง จากนั้นนักร้องหนุ่มจะเดินทางมาเยือนเอเชียและเปิดการแสดงในบ้านเราเป็นที่แรกในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม ก่อนที่จะเดินทางไปแสดงต่อยังประเทศ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และเข้าร่วมงานเทศกาลดนตรี ซัมเมอร์ โซนิค ที่ประเทศญี่ปุ่นอีก 2 รอบ    
 
เตรียมกรี๊ดต้อนรับและชมการแสดงสดแบบจัดเต็มของหนุ่มฮอตมาแรง ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) เจ้าของเพลงดัง “ซี ยู อะเกน” (See You Again) และ วัน คอล อะเวย์ (One Call Away) พร้อมอุ่น เครื่องความสนุกและความมันส์ทางดนตรีกับกลุ่มศิลปิน EDM ระดับแถวหน้าของเอเชีย ออซโม (OZMO) และศิลปินไทยมากฝีมือ รูม39 (Room39) ในงานดนตรีคุณภาพ “ซาวด์บ็อกซ์” (SOUNDBOX) ในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคมนี้ ที่เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮ้าส์ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ บัตรเข้าชมราคา 2,000 บาท มีจำนวนจำกัด! พร้อมแพ็คเกจพิเศษเพิ่มเติมที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดศิลปินสุดๆ กับ แพ็คเกจ Dressing Room, แพ็คเกจ Meet & Greet และ แพคเกจ Early Entry เปิดจำหน่ายบัตรและแพ็คเกจพิเศษพร้อมกันในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ ตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2262-3838 ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่ www.bectero.com, www.facebook.com/bectero ทวิตเตอร์ @BEC_Tero_Ent และอินสตราแกรม BECTERO_ENTERTAINMENT
 
อีกหนึ่งโปรดักชั่นคุณภาพจาก บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
 



แพ็คเกจพิเศษ
(ลูกค้าที่ซื้อแพ็คเกจพิเศษ จะต้องมีบัตรชมคอนเสิร์ต SOUNDBOX แล้วเท่านั้น ลูกค้าจะไม่สามารถใช้แพ็คเกจพิเศษได้ หากไม่มีบัตรเข้าชมการแสดงคอนเสิร์ต)

แพ็คเกจ Dressing Room ราคา 8,800 บาท
(1 แพ็คเกจ ต่อ 2 ท่าน และ ต้องมีบัตร Concert 2 ใบ)
  • รับสิทธิในการเข้าห้องแต่งตัวศิลปิน พร้อมชมการแสดงอะคูสติกจากชาร์ลี พุท (Charlie Puth) อย่างใกล้ชิด 1 เพลง
  • รับสิทธิถ่ายภาพคู่และเซลฟี่ กับ ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) 1 ภาพ
  • รับป้ายคล้องคอที่ระลึก 1 ชิ้น
  • รับโปสเตอร์ VIP ลิมิเต็ด อิดิชั่น 1 ชิ้น
  • รับซีดีอัลบั้ม “Nine Track Mind” พร้อมลายเซ็น 1 ชิ้น
  • รับสิทธิในการเข้าประตูก่อนใครเพื่อเกาะติดขอบเวที
  • รับสิทธิเลือกซื้อของที่ระลึกลิขสิทธิ์ก่อนใคร
 
แพ็คเกจ Meet & Greet ราคา 2,700 บาท
(จำนวน 30 แพ็คเกจ)
(1 แพ็คเกจ ต่อ 1 ท่าน และ ต้องมีบัตร Concert 1 ใบ)
  • รับสิทธิถ่ายภาพคู่กับ ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) 1 ภาพ
  • รับป้ายคล้องคอที่ระลึก 1 ชิ้น
  • รับโปสเตอร์ VIP ลิมิเต็ด อิดิชั่น 1 ชิ้น
  • รับซีดีอัลบั้ม “Nine Track Mind” พร้อมลายเซ็น 1 ชิ้น
  • รับสิทธิในการเข้าประตูก่อนใครเพื่อเกาะติดขอบเวที
  • รับสิทธิเลือกซื้อของที่ระลึกลิขสิทธิ์ก่อนใคร
 
แพ็คเกจ Early Entry ราคา 1,300 บาท
(จำนวน 50 แพ็คเกจ)
(1 แพ็คเกจ ต่อ 1 ท่าน และ ต้องมีบัตร Concert 1 ใบ)
  • รับโปสเตอร์ VIP ลิมิเต็ด อิดิชั่น 1 ชิ้น
  • รับซีดีอัลบั้ม “Nine Track Mind” พร้อมลายเซ็น 1 ชิ้น
  • รับสิทธิในการเข้าประตูก่อนใครเพื่อเกาะติดขอบเวที
  • รับสิทธิเลือกซื้อของที่ระลึกลิขสิทธิ์ก่อนใคร
** สำหรับลูกค้าที่ซื้อแพ็คเกจพิเศษ จะได้รับแจ้งรายละเอียดอีกครั้งทางอีเมลล์ก่อนวันแสดง **

ประวัติ
 
ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) ออกผลงานชุดแรกในชื่อ “ไนน์ แทร็ค มายด์” (Nine Track Mind) เราจะย้อนกลับไปดูเส้นทางดนตรีของนักร้อง โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงมากความสามารถคนนี้ หลังจากที่เขาเดินทางถึงลอสแองเจลลิสในฐานะดาวรุ่งดวงใหม่ เมื่อเดือน กรกฏาคม 2557 เขาได้เซ็นสัญญากับค่ายแอตแลนติก เรคคอร์ดส รวมถึงได้ร่วมแต่งและร่วมโปรดิวซ์เพลง “ซี ยู อะเกน” (See You Again) กับ วิซ คาลิฟา (Wiz Khalifa) เพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง ฟาสท์ แอนด์ ฟิวเรียส 7 (Fast And Furious 7) ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเพลงแพลตตินัม x4 และทะยานขึ้นชาร์ทบิลบอร์ด ท็อป 100 นาน 12 สัปดาห์ ทำสถิติเป็นเพลงแร็พที่ขึ้นอันดับ 1 ยาวนานที่สุด และติดชาร์ทอันดับ 1 ในกว่า 100 ประเทศ ขณะที่มิวสิควิดิโอเพลงนี้มียอดวิวทะลุพันล้านวิวในยูทูป จากนั้นเขาปล่อยเพลง “มาร์วิน เกย์” (Marvin Gaye) ที่ร่วมร้องกับ เมแกน เทรนเนอร์ (Meghan Trainor) ซึ่งท็อปชาร์ทเพลงในสหราชอาณาจักร ทำให้เพลงของพุทได้รางวัลแพลตตินัมอีกครั้ง และเป็นเพลงที่ 2 ของเขาที่ขึ้นอันดับ 1 ท็อป 40 ชาร์ทในสหรัฐอเมริกา จนเขาได้รับเชิญไปร่วมรายการดังมากมาย ทั้ง Saturday Night Live, The Today Show, The Tonight Show with Jimmy Fallon ก่อนร่วมทัวร์คอนเสิร์ตในสหรัฐกับ เมแกน เทรนเนอร์ (ซึ่งแฟนๆ ต่างร้องเพลงของเขาตามได้ทุกคำ) ก่อนสิ้นปี 2558 เขาได้รับสองรางวัลจาก Teen Choice Awards, Hollywood Film Award 1 รางวัล, American Music Award 2 รางวัล, รางวัล MTV Video Music Award และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล MTV Europe Award
 
ขณะเดียวกัน ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) ได้เขียนและโปรดิวซ์เพลงให้กับศิลปินป๊อบชื่อดังมากมาย ทั้ง ลิล เวย์น (Lil Wayne), เจสัน เดรูโล (Jason Derulo), สตีวี่ วันเดอร์ (Stevie Wonder), เมแกน เทรนเนอร์ (Meghan Trainor), เทรย์ ซองซ์ (Trey Songz), เฟอร์กี้ (Fergie) และอีกหลายๆ คน นิตยสารฟอร์บสเคยคาดการณ์ไว้ว่า ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) จะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก และดูเหมือนจะเป็นความจริง เพราะเห็นได้จากการทัวร์ยุโรปและเอเชียของเขา บวกกับการที่มีปาปารัซซี่ตามติดเขาที่ฝรั่งเศส และมีแฟนเพลงที่ฟิลิปปินส์หลายพันเรียกร้องที่จะพบกับเขา “ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีแฟนเพลงมากมายรู้จักผมในฐานะศิลปิน” ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) กล่าว “ผมเล่นต่อหน้าแฟน 7,000 คนที่ฟิลิปปินส์ และพวกเขารู้เนื้อเพลงทุกคำ แม้แต่เพลงที่ยังไม่ปล่อยออกมาด้วยซ้ำ”
 
ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก นับตั้งแต่วัยเด็กที่เขาเล่นเป็นผู้จัดการของตัวเอง ทำเป็นโทรไปหาค่ายเพลงต่างๆ ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) ซึ่งมาจากรัฐนิวเจอร์ซี่ตอนนี้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก แต่เขายังคงเป็นศิลปินคนเดิม อัลบั้มเพลงป๊อบที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของโซลในชื่อ “ไนน์ แทร็ค มายด์” (Nine Track Mind) ถือเป็นงานคุณภาพที่ชนะใจผู้ฟัง “อัลบั้มนี้สะท้อนตัวตนของผม ที่บางครั้งผมก็ปิดตัวเอง และในขณะเดียวกันก็เปิดเผยด้วย” เขาเล่า “บางครั้งผมดูจะขี้อาย ผมว่าผมเป็นคนขี้อายนะ แต่ผลงานเพลงชุดนี้ มีความเป็นตัวของผมเองมาก ที่เปิดเผยให้คนทั้งโลกได้ฟัง”

สำหรับเพลงร้อนแรงอย่าง “มาร์วิน เกย์” (Marvin Gaye) ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) อยากให้เป็นเพลงแห่งความกล้า   สำหรับผู้ชายขี้อายอย่างเขา ทุกๆ เพลงในอัลบั้มนี้สะท้อนบางอย่างที่เขารู้สึกขณะเขียนมันขึ้นมา เช่นความรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน เวลาที่เขางานยุ่งจนไม่สามารถดูแลเพื่อนได้ อย่าง “วัน คอล อะเวย์” (One Call Away) การหลงรักใครสักคนทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ค่อยฉลาดนัก ในเพลง “แดนเจอรัสลี่” (Dangerously) หรือตอนที่เขารู้สึกลนลานเมื่อไม่สามารถปิดอัลบั้มเพลงนี้ได้ ใน “ลูสซิ่ง มาย มายด์” (Losing My Mind) เขาเริ่มแต่งเกือบทุกเพลงในห้องนอนของเขา แม้ต่อมาจะไปร่วมเขียนต่อกับนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์คนอื่นๆ ก็ตาม อย่าง “มาย กอสเปล” (My Gospel) ซึ่งแต่งกับ จอช เคียร์ (Josh Kear) แครี่ อันเดอร์วูด (Carrie Underwood), ลูค ไบรอัน (Luke Bryan) โปรดิวเซอร์ดังจากแนชวิลล์ “เราร่วมแต่งเมโลดี้ด้วยกัน แถมยังเสร็จภายในวันเดียวด้วย” ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) เล่า “ผมชอบเวลาทำงานได้เร็ว” เขาได้ร่วมงานกับ บรียาน ไอแซค (Breyan Isaac) เดวิด เกตตา (David Guetta), พิทบูล (Pitbull) ในเพลงเซ็กซี่อย่าง “ซัฟเฟอร์” (Suffer) ซึ่งเกี่ยวกับความทรมานที่ต้องเผชิญเมื่อคนที่คุณต้องการ กำลังเล่นตัวกับคุณ เป้าหมายของ ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) คือต้องการให้ทุกเพลง “มีความเป็นโซล มีเมโลดี้ที่ชัดเจน มีความเป็นป๊อบ แต่ต่างจากเพลงป๊อบทั่วไปที่คนเคยฟัง เขาอธิบาย “เพลงมีกลิ่นความเป็นโซล มีฮิปฮอปเล็กน้อย และเนื้อเพลงที่ทุกคนเข้าถึงได้ ผมอยากให้คนฟังได้ฟังถึงความแท้จริงในเพลง ผมว่าทุกวันนี้คนฟังรู้สึกว่าเพลงป๊อบสมัยนี้  คนแต่งเป็นคนใส่สูท จึงทำให้ผมใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขึ้นคอนเสิร์ต ผมอยากให้ผู้ฟังเห็นผมเป็นคนธรรมดา ที่ดื่มด่ำไปกับดนตรีมากกว่า ผมอยากให้พวกเขาได้รับแรงบันดาลไปพร้อมกับสิ่งที่ผมกำลังทำ คือเดินตามฝัน เพราะตั้งหลายปีที่ผมกลัวที่จะทำตามความฝันในเส้นทางดนตรี แต่ตอนนี้เพลงที่ผมบันทึกในห้องนอน มีคนนับล้านได้ฟังมันแล้ว”
 
ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) ตกหลุมรักเสียงดนตรีขณะที่เขาโตขึ้นที่หาดรัมสัน ในนิวเจอร์ซี่ “บ้านผมไม่ได้ร่ำรวยอะไร” เขาบอก “พ่อกับแม่ผมทำงานอย่างหนัก พวกเขาเริ่มจากศูนย์คือไม่มีอะไรเลย” พ่อแม่ของเขาสนับสนุนให้เขาได้เรียนดนตรี และบอกว่า เจมส์ เทย์เลอร์ (James Taylor) คือไอดอลของเขา “แม่เปิดเพลงของเขา และเอาหูฟังมาแนบใส่ท้อง” หลังจากนั้นพ่อของเขาเป็นคนแนะนำให้เขาฟังอาร์แอนด์บี ทั้ง แบรี่ ไวท์ (Barry White), ดิ อิสลีย์ บราเธอร์ส (The Isley Brothers) และ มาร์วิน เกย์ (Marvin Gaye) แม่ของเขาเป็นครูสอนเปียโน และเปิดเพลงคลาสสิค และสอนให้เขาเล่นเปียโนตอนอายุ 4 ขวบ
 
ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) เล่นเปียโนมาตลอดวัยเด็ก และเริ่มเรียนดนตรีแจ๊สตอนอายุ 10 ขวบ ช่วงมัธยมปลาย ทุกเช้าวันเสาร์เขาต้องเดินทางไปเรียนดนตรีคลาสสิคและแจ๊สที่ Manhattan School of Music ในฮาร์เล็ม “ผมนึกว่าผมจะได้เป็นนักเปียโนแจ๊ส แต่ผมก็สนใจเพลงป๊อบ เพราะพ่อแม่ผมฟังเพลงป๊อบ” เขาเล่า “ผมพยายามใส่ความเป็นป๊อบลงไปในแจ๊สตลอด” เขาเริ่มฟังเพลงป๊อบมากขึ้น และหลงใหลในการผลิตเพลง ป๊อบ โดยเฉพาะงานของ แม็กซ์ มาติน ช่วงปลายยุค 90 ทำให้เขาซื้อคีย์บอร์ดมาแต่งเพลงตอนอายุ 11
 
และทำซีดีเพลงตัวเอง ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เริ่มแต่งเพลง และโพสต์ลงในยูทูป รวมถึงเพลงคัฟเวอร์ด้วย ในปี 2011 เอเลน เดเจเนอร์เรส (Ellen DeGeneres) เชิญเขาไปออกรายการจากผลงานคัฟเวอร์เพลง “ซัมวัน ไลค์ ยู” ของ อเดล ที่โด่งดังไปทั่ว ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) ออกรายการของเอเลน 2 ครั้ง และเริ่มมีแฟนเพลงทั่วโลก “เหมือนผมอยู่ต่อหน้าคน 30 ล้านคน” เขากล่าว “มันพาผมไปถึงจุดที่ผมไม่เคยคิดว่าจะไปถึง”
 
ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) ได้ร่วมงานกับ แม็กซ์ มาร์ติน (Max Martin) ในเพลง “เด็น แดร์ส ยู” (Then There’s You) และได้กลับไปออกรายการของเอเลนร่วมกับ วิซ คาลิฟา ในเพลง “ซี ยู อะเกน” (See You Again) เขาหวังว่าแฟนเพลงจะได้แรงบันดาลใจจากเพลงของเขา เช่นเดียวกับที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของคนอื่นๆ “ผมได้รับข้อความที่มีพลังมากมายจากแฟนเพลง มีเด็กสาวคนหนึ่งที่โดนพ่อแม่ทำร้ายร่างกาย เธอหนีออกจากบ้าน โดยที่มีเพลงของผมในไอพอด ตอนที่เธอหนีออกมา ผมติดต่อเธอ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่เป็นไร ผู้คนต้องเผชิญกับเรื่องบ้าๆมากมายในโลกนี้ และพวกเขาต้องการซาวด์แทร็คให้ผ่านมันไปได้ ผมว่ามันดีที่มีเสียงเพลงที่คอยให้กำลังใจ ท่วงทำนองชะโลมใจ ช่วยให้เราผ่านมันไป”