ฟัง Backstreet Boys พูดถึง งานชุดใหม่, เวิลด์ทัวร์, BTS และความรู้สึกที่ถูกเรียกว่า บอยแบนด์

บันเทิง
ฟัง Backstreet Boys พูดถึง งานชุดใหม่, เวิลด์ทัวร์, BTS และความรู้สึกที่ถูกเรียกว่า บอยแบนด์

26 ปี อาจเป็นอายุของคนๆ หนึ่งที่เพิ่งจะก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ แต่ 26 ปี สำหรับวงการเพลง มันคือการบ่งบอกถึงเส้นทางอันยาวไกลของศิลปินกลุ่มหนึ่งบนถนนสายดนตรี

หากใครที่โตมากับการฟังเพลงช่วงยุค 90s คงไม่มีใครไม่รู้จัก Backstreet Boys ที่ประกอบไปด้วย 5 หนุ่มอันได้แก่ AJ McLean, Howie Dorough, Nick Carter, Kevin Richardson และ Brian Littrell

นอกเหนือจากยอดขายอัลบั้มกว่า 100 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก พวกเขายังเป็นเจ้าของเพลงฮิตอมตะนิรันดร์กาลอย่าง I Want It That Way, Everybody (Backstreet's Back), As Long as You Love Me, Quit Playing Games (with My Heart), Larger than Life, Shape of My Heart ฯลฯ

และถึงแม้ว่าจะอยู่ในวงการเพลงมาแล้วกว่า 2 ทศวรรษ แต่ดูเหมือนว่า กระแสความนิยมที่มีต่อ Backstreet Boys แทบจะไม่จืดจางลงไปเลย

พิสูจน์ได้จากความสำเร็จของ Backstreet Boys: Larger Than Life โชว์คอนเสิร์ตใน ลาส เวกัส ที่มีตารางการแสดงยาวเหยียดตั้งแต่ 1 มี.ค. 2017 - 27 เม.ย. 2019 งานชุดใหม่ซึ่งเป็นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 10 ที่มีชื่อว่า DNA ก็ทะยานขึ้นถึงอันดับหนึ่งของบิลบอร์ด ชาร์ต

ล่าสุด Backstreet Boys เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกกันแล้วในทวีปยุโรป และแน่นอนว่า ประเทศไทยของเราคือหนึ่งในที่หมายที่พวกเขาจะมาเยือนด้วย

เพราะฉะนั้น เราขอใช้พื้นที่ตรงนี้ไปฟัง Backstreet Boys พูดถึงรายละเอียดลึกๆ เกี่ยวกับ อัลบั้มชุดใหม่, DNA World Tour ที่กำลังเกิดขึ้น, ความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อ BTS รวมทั้งความรู้สึกที่พวกเขาถูกเรียกว่า บอยแบนด์


DNA อัลบั้มที่ได้ใจทั้งแฟนเก่าๆ และพร้อมจะเข้าไปครองใจแฟนกลุ่มใหม่ๆ

สำหรับ อัลบั้ม DNA ถือเป็นงานชุดแรกที่ขึ้นถึงอันดับหนึ่งในบิลบอร์ดชาร์ตนับตั้งแต่อัลบั้ม Black & Blue ที่ออกมาเมื่อปี 2000

ว่ากันว่า นอกจากจะเป็นอัลบั้มที่ทำขึ้นมาเพื่อเอาใจกลุ่มแฟนเพลงเดิมที่ติดตามกันมาอย่างเหนียวแน่นแล้ว เพราะเพลงอย่าง Don’t Go Breaking My Heart เรียกบรรยากาศแบบที่เราคุ้นเคยจากของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

Backstreet Boys ยังหวังให้เพลงในงานชุดนี้อย่าง Chances ซึ่งได้ Shawn Mendes ศิลปินหนุ่มเจ้าของฉายา Prince of Pop มาร่วมแต่ง เจาะเข้าไปสู่กลุ่มแฟนเพลงรุ่นใหม่อีกด้วย

"ผมคิดว่ามันยังต้องมีอะไรบางอย่างที่พาทุกคนย้อนกลับไปรำลึกถึงช่วงเวลาดีๆ ในอดีต" AJ McLean อธิบาย "ผมเชื่อว่าแฟนๆ ยังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคนั้น พวกเขาต้องการได้รับการบรรเทาด้วยความรู้สึกดีๆ ในตอนนั้น ในขณะเดียวกัน แฟนๆ ก็ต้องก้าวไปข้างหน้า และเติบโตไปพร้อมๆ กับเราด้วย"

"ซึ่งนั่นทำให้เราต้องทำอะไรบางอย่างที่เหมาะกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ด้วย แต่ก็ไม่เหมือนกับสิ่งที่เคยมีอยู่แล้วไปซะหมด" Kevin Richardson เสริม "เรานำเอาซาวนด์และท่วงทำนองเหล่านั้นมาทำให้เข้ากับเสียงร้องของพวกเราทั้ง 5 คน นอกจากนั้น เรายังเอาอิทธิพลที่ได้จากดนตรี อาร์ แอนด์ บี, คันทรี่, ป๊อป, ร็อค และ ฮิพฮอพ มาผสมผสานลงไปด้วย"

หลังจาก 26 ปีที่อยู่ในวงการเพลง ตอนนี้ Backstreet Boys รู้สึกยังไงบ้างกับคำว่า บอยแบนด์

"คุณจะต้องเติบโตต่อไป" Brian Littrell พูด "ผมคิดว่าก่อนหน้านี้สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเราไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่คือ การติดอยู่ในกรอบที่คนในสังคมและสื่อต่างๆ ได้ขีดเอาไว้ เช่น 'โอ้ พวกนายหน้าตาดี คงร้องเพลงกันไม่ค่อยเป็นหรอก พวกนายก็แค่ บอยแบนด์ วงหนึ่ง เต็มที่เลยคงดังได้แค่ซักเดือนหนึ่ง หรือถ้าโชคดีหน่อยก็เป็นปี จากนั้นก็ดับ'"

"พวกเราคิดอยู่เสมอว่าเราเป็น วงประสานเสียง ซึ่งในอัลบั้มชุดใหม่ (DNA) มีเพลงแบบ อะแคปเปล่า อยู่ด้วยหนึ่งเพลง เราไม่ได้ทำเพลงแบบนี้กันมาตั้งแต่งานชุดแรกๆ แล้ว" AJ แสดงความเห็น


ความสำเร็จของ BTS คือสิ่งที่ Backstreet Boys เคยทำได้มาแล้วก่อนหน้านี้!

แน่นอนว่า หากพูดถึงสุดยอด บอยแบนด์ แห่งยุคนี้ BTS คงเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง อย่างไรก็ตาม ปฎิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ความสำเร็จของ BTS นั้น ส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลของ โซเชียล มีเดีย ที่สามารถเจาะไปถึงกลุ่มคนฟังทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย

ในขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่า Backstreet Boys เคยก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จในระดับเดียวกันนั้นมาแล้ว ในยุคที่สังคมออนไลน์ยังไม่เฟื่องฟูถึงขีดสุดอย่างทุกวันนี้

"ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ" AJ  พูด "เพราะมันแสดงให้เห็นว่า ดนตรี สามารถทำลายกำแพงทุกอย่างได้ ซึ่งพวกเราเคยทำสิ่งเหล่านี้สำเร็จมาแล้ว"

"มันทำให้เรานึกย้อนกลับไปถึงช่วงที่พวกเราเริ่มต้นกันใหม่ๆ" Nick Carter เพิ่มเติม "ตอนที่เราเดินทางไปยังประเทศต่างๆ และร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษ เราได้ยินแฟนๆ ร้องตามเพลงของเราได้ทุกคำ ซึ่งทำให้พวกเราอึ้งไปเลย"

DNA World Tour ทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกสำหรับแฟนๆ Backstreet Boys ทุกคน!

อย่างที่เราทราบกันว่า ก่อนหน้านี้ พวกเขาประสบความสำเร็จแบบสุดๆ กับโชว์คอนเสิร์ต Backstreet Boys : Larger Than Life - Las Vegas โดยโชว์สุดท้ายเพิ่งจะเสร็จสิ้นไปเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา

กระนั้นก็ตาม สมาชิก Backstreet Boys ทุกคนต่างรู้ดีว่า ยังมีแฟนๆ ทั่วโลกที่รอคอยการไปเยือนของพวกเขาอยู่ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ DNA World Tour เกิดขึ้น

"พวกเรารู้ดีว่ามีแฟนของเราอีกมากมายที่ไม่มีโอกาสมาดูพวกเราที่เวกัส" Nick พูด "พวกเรามีฐานแฟนเพลงกลุ่มใหญ่มาก เรารู้ว่าพวกเขาอาจจะได้ดูโชว์นี้ของเราผ่านทาง ยูทูป หรือได้ยินเกี่ยวกับมันผ่านตามสื่อต่างๆ ว่าโชว์นี้มีอะไรบ้าง"

"ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องนำสิ่งเดียวกันนั้นมามอบให้แก่พวกเขา และเราเชื่อว่าเราสามารถมอบสิ่งเหล่านั้นให้กับแฟนเพลงได้ ทั้งในส่วนของ เวที ที่เราออกแบบไว้เป็นพิเศษแล้วเรียบร้อย ทุกเพลงฮิต ทุกซิงเกิ้ล ที่พวกเขาชื่นชอบ ซึ่งจะทำให้พวกเขาย้อนกลับไปรำลึกถึงความรู้สึกดีๆ ในอดีต ไปจนถึง โปรดักชั่น ที่ยิ่งใหญ่อลังการ ด้วยทั้งหมดที่ผมพูดมา ทำให้เรารู้สึกว่าแฟนๆ จะต้องประทับกับสิ่งใจในสิ่งที่พวกเราได้เตรียมไว้ให้ในคอนเสิร์ตนี้อย่างแน่นอน"

แฟนๆ ในเมืองไทย เตรียมพบกับพวกเขาได้
ใน Backstreet Boys DNA World Tour Live in Bangkok
วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม นี้ ที่ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5-6



เครดิตภาพ : Billboard