ความไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ดีที่สุด! เปิดช่วงเวลาความสุข ความทุกข์ กับ POTATO

บันเทิง
ความไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ดีที่สุด! เปิดช่วงเวลาความสุข ความทุกข์ กับ POTATO

เป็นอีกหนึ่งการสัมภาษณ์ที่เต็มด้วยความตื่นเต้นกับหนึ่งในศิลปินวงโปรด ซึ่งเราเจอะเจอพวกเขาตามคอนเสิร์ตบ่อยครั้ง เป็นอีกหนึ่งวงที่อยู่ในทุกช่วงอายุของเรา นั่นก็คือ POTATO นั่นเอง

ถึงจะไม่ได้เป็นแฟนพันธ์แท้ตัวยงแต่บอกเลยว่าเราร้องได้แทบจะทุกเพลง ไม่ให้เธอไป, กล้าพอไหม, ที่เดิม,ปากดี, รักแท้ ดูแลไม่ได้, เพียงพอ, นี่แหละคือความเสียใจ, ทนพิษบาดแผลไม่ไหว, เธอยัง, ไม่รู้จะอธิบายยังไง, ทิ้งไว้กลางทาง  และอีกมากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็นเพลงฮิต ซึ่งถ้าให้พิมพ์ทั้งหมดก็คงจะนานพอสมควร 
 

เราสงสงสัยว่าตอนนี้ วง POTATO อยู่กับเรามานานแค่ไหนแล้ว POTATO นับกันอยู่นาน เมื่อเราถามแบบนั้น ปั๊บบอกกับเราว่า “น่าจะย่างเข้า 17 ปีครับ" และหันไปขอความเห็นจากสมาชิกในวง "ย่างเข้าใช่ป่ะ?” หั่งช่วยพูดเสริม “เริ่มต้นปี 2544 ย่างเข้า 19 ปีครับ” 
 
และเราได้ข้อสรุปว่า อายุวง POTATO กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่สนุกที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ อย่างตอนนี้เราเชื่อว่า พี่ๆ วง POTATO ก็อาจจะกำลังคิดแบบนั้น เพราะพวกเขาทั้ง 4 (ยังไม่นับทีมงานเบื้องหลังมากมาย) กำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ที่สุดในชีวิตถึง 2 วันด้วยกันกับ Chang Music Connection presents POTATO Magic Hours Concert #มันคือเรื่องจริง จึงเป็นโอกาสดีที่ทำให้ TTM VARIETY ได้มาพูดคัยกันแบบ EXCLUSIVE 
 
 
TTM VARIETY : ย้อนกลับไปทำไมทุกคนถึงอยากมาเป็นนักดนตรี นักร้อง

กานต์ : ตอนแรกผมก็เริ่มเห็นนักดนตรีเป็นไอดอลก่อนแล้วก็เริ่มเล่นดนตรีอย่างวง X Japan พอมาเริ่มเล่นดนตรีมันก็เริ่มจริงจังเป็นสเต็ป เริ่มอยากเรียนดนตรี พอจริงจังปุ๊บเราก็อยากมีสายอาชีพเป็นนักดนตรีครับ จนมันก็มีความฝันว่า เป็นนักดนตรีมันก็ต้องมีผลงาน ประมาณนั้นครับ

โอม : เด็ก ๆ ไม่เรียนครับ ขี้เกียจเรียน เลยต้องหากิจกรรมทำครับ

ปั๊บ : เรียน แต่เรียนไม่บ่อย

โอม : คนอื่นเขาเรียน 3 ปี ผมเรียน 4 ปีครับ  (ล้อเล่น)

หั่ง : ของผมจะติดพี่ชายครับ พี่ชายจะเล่นดนตรีก่อน ตอนนี้พี่ชายเลิกเล่นดนตรีไปแล้ว เราก็ยังเล่นต่อมาเรื่อย ๆ คือเล่นตามพี่ชายครับ

ปั๊บ : ของผมชอบร้องเพลงครับ เหตุผลหาไม่เจอเหมือนกันแต่ชอบมาตั้งแต่เด็กแหละ เด็กเล็ก ๆ เลย 5 ขวบ 6 ขวบ ก็จะร้องตามพวกการ์ตูนแปลงร่างต่าง ๆ จนไล่มาเปลี่ยนเป็นพี่เบิร์ด พี่ติ๊ก ชีโร่ ชอบร้องเพลงมาเรื่อย ๆ แล้วก็มีโอกาสได้มามีวงดนตรีวงแรกที่กรุงเทพฯ เป็นวงเพื่อนที่มหาวิทยาลัยครับ แล้วก็ได้ทำกิจกรรมนู่นนี่และก็ไหลมาเรื่อย ๆ ก็ยังได้ทำสิ่งที่ชอบอยู่ก็คือร้องเพลงครับ 
 
 
TTM VARIETY : หลาย ๆ เหมือนช่วงแรกเริ่มเล่นดนตรีเพราะว่าสาวกรี๊ด เรามีอารมณ์นั้นบ้างไหม
 
ปั๊บ : ของผมถ้าเล่นกีตาร์โปร่ง เล่นเพราะว่ารู้สึกเบื่อกับการที่เหมือนต้องเปิดเทปแล้วก็เปิดเทปอีกอันนึงเรคคอร์ดแล้วร้องทับไปครับ มันช้าก็เลยต้องฝึกเล่นกีตาร์เองเพื่อที่จะอัดเสียงตัวเองลงไปในเครื่องบันทึกเทป นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเล่นกีตาร์เลย โชว์สาวไม่ได้ เล่นไม่ดี (หัวเราะ)

หั่ง : ของผมนี่ตัดได้เลยครับ เพราะผมเรียนชายล้วน (หัวเราะ) ถ้าจะมีก็มีแบบเพื่อน ๆ น่ารักทางเลือกที่สองกรี๊ด ๆ อยู่ครับ แต่ว่าหลัก ๆ ที่เล่นก็เพราะว่าเรามีกลุ่มเพื่อน แล้วถ้าเรามีกีตาร์แล้วอยู่บนอัฒจันทร์ เพื่อน ๆ ล้อมวงมันจะเหมือนกับเราเป็นศูนย์กลาง เราจะเป็นดนตรีให้เพื่อน ๆ ร้องกัน ก็จะแบบเฮ้ว ๆ กันมากกว่าครับ

โอม : มันต้องมีผลพลอยได้บ้างครับ ไอ้ไม่คิดมันก็คิดครับ ยอมรับว่ามีครับ
 
TTM VARIETY : แล้วมีสาวมากรี๊ดเยอะไหมช่วงนั้น
 
โอม : ช่วงนั้นไม่ค่อยครับ ไม่ค่อยมีสาวมากรี๊ดมากเพราะว่าอยู่กับเพื่อนผู้ชาย ถ้าสมมุติว่าจะไปกับสาวก็ไม่เอากีตาร์ไปแล้วครับ ไปทำอย่างอื่น

ปั๊บ : ทำอะไร

โอม : กินข้าวครับ (หัวเราะ) กินพิซซ่า ช่วงนั้นพิซซ่าเขามีโปรโมชั่นลดราคาครับ
 
TTM VARIETY : 18 ปีแล้ว คิดว่าอะไรทำให้ POTATO อยู่มาได้นานขนาดนี้ 
 
ปั๊บ : นี่ก็มีขึ้น มีลงนะ ไม่ได้สเถียรขนาดนั้น ก็คือเราเป็นวงที่เล่นดนตรีเรื่อย ๆ ครับ ถ้านับวันหยุดไม่นับตอนหยุดคอนเสิร์ตใหญ่ เราไม่เคยหยุดเกิน 1 เดือนเลยครับ ไม่เคยเลยครับ อย่างเก่งก็สองอาทิตย์สามอาทิตย์ ที่คือหยุดพักนะครับ คือตั้งแต่ออกอัลบั้มมาก็คือทัวร์คอนเสิร์ต เข้าบ้านทำเพลง ทัวร์คอนเสิร์ต ออกอัลบั้ม ถ่ายมิวสิควิดีโอ โปรโมท  คือเราเล่นดนตรีตลอดเลยครับก็ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ไปทั่วประเทศ ผมเลยคิดว่าเพลงกับการเล่นดนตรีของเรามันไม่ได้หยุด ก็เลยทำให้อยู่เป็นเพื่อนกับวัยหลาย ๆ วัย อย่างทุกวันนี้ยังทัวร์อยู่ พอยังไปทัวร์บางทีเราก็ไปเจอคนที่เด็กลง ก็เด็กเขาก็อาจจะเมตตาเรา ชอบเราขึ้นมาก็กลับไปติดตามแล้วซักวันนึงก็มาเจอกันใหม่ มันก็น่าจะเป็นวงจร หลัก ๆ ก็คงเป็นเรื่องของเพลงแหละครับและการเล่นดนตรี

หั่ง : แฟนเพลงก็น่ารักด้วยนะ คือชอบโมเมนท์เวลาที่บางที คือผมก็ทำงานกับที่วงมานาน บางทีก็จะเจอแฟนเพลงกลุ่มแรก ๆ ที่สมัยก่อนยังเป็นนักเรียนหรือว่าเรียนมหาลัยฯ แล้วพอเราได้มาเป็นเมมเบอร์คือเขาก็จะหายไปแล้ว เรารู้สึกว่าเราไม่เจอเขาเลย แต่อยู่ดี ๆ วันนึงมีมีตติ้งหรือว่ามีคอนเสิร์ตที่สเกลใหญ่นิดนึง มาเจอกันเขาก็จะจูงลูกมา เขาก็จะแบบว่ามากับแฟนคือเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำงานแล้ว ภาระหน้าที่เยอะแต่ว่า โมเมนท์นั้นมันคือความรู้สึกของคนที่ยังตามตลอดนะ ยังคิดถึงตลอด แต่ว่าตามแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ผมว่าแฟนเพลงก็เป็นส่วนหนึ่งครับที่คอยซัพพอร์ต คอยสนับสนุนตลอด
 
 
TTM VARIETY : สิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นศิลปิน 
 
ปั๊บ : ความไม่ประมาทครับ เพราะว่าในทุก ๆ วันก็จะมีเรื่องให้เราต้องแก้ปัญหาไปเรื่อย ๆ แก้ผ่านไปแล้วเราอาจจะรู้สึกแฮปปี้กับมัน แล้วก็วันนึงมันก็จะมีปัญหาเรื่องใหม่เข้ามา คงเหมือนเล่นเกมส์ครับ เลเวลที่ 1 เราผ่าน ไปเจอเลเวลที่ 2 จะให้มันง่ายเท่าเลเวลที่ 1 ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องไม่ประมาทเพราะสิ่งที่เราต้องแก้ปัญหาและต้องพัฒนามันก็มีอยู่ทุกวัน ผมว่าสิ่งที่น่ากลัวก็คือวันที่เราเบื่อแล้วอยากหยุดพัฒนานั่นแหละ อันนี้เป็นวันที่เรารู้สึกว่าเป็นรื่องที่น่ากลัว เพราะว่ามันคาบเกี่ยวระหว่างความพึงพอใจด้วยนะครับ อาจจะมองว่าพอใจแค่นี้ก็ได้แล้ว แต่ผมว่าในเมื่อเราอยู่เป็นนักดนตรี เราทำเพลง เราอยู่ในหมวดของการสร้างสรรค์ สิ่งนึงที่เราต้องพัฒนาตลอดก็คือเรื่องของความคิด ที่มันต้องปรับตัวไปกับโลกที่มันหมุนไป ทำความเข้าใจศิลปิน เพื่อน ๆ ทุกคน ผมว่าเราก็จะอยู่กันแบบเข้าอกเข้าใจไม่ไปแบบว่าตีอกชกตัวว่ามันเปลี่ยนไปแล้วหรือมันมีอะไรเกิดขึ้น เราก็จะปรับตัวไปได้ ผมว่าความไม่ประมาทน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ
 
TTM VARIETY: 18 ปีถือว่าเป็นวงที่ประสบความสำเร็จวงนึงเลยของไทย แต่มีความฝันอะไรไหม ที่ทำหล่นหายไปบ้างระหว่างทางที่มาถึงตรงนี้ 
 
หั่ง : คือถ้าของผม เมื่อก่อนผมทำโปรดิวซ์ ผมทำงานอยู่ที่บ้าน ผมจะมีเวลาอยู่ติดบ้านแต่ช่วงที่ผมเข้ามาอยู่ที่วงลูกสาวผมยังเล็กอยู่ ตอนที่เรามีเขาเรารู้สึกว่าเราต้องการมีเวลาให้เขา ช่วงที่เข้ามาในวงสิ่งนึงที่เกิดขึ้นคือผมต้องออกจากบ้านไปทัวร์คอนเสิร์ตบ่อย ๆ ไปตามต่างจังหวัดหรือถ้าจะไปเข้าห้องอัดก็ต้องออกไปข้างนอก ไปทำงานที่ไม่ได้อยู่ติดบ้าน สิ่งที่รู้สึกว่าผมพลาดไปแล้วก็ย้อนกลับไปไม่ได้แล้วคือช่วงเวลาวัยเด็กที่ผมเคยมีความตั้งใจว่า เป็นช่วงเวลาที่เขาเล็ก ๆ เราก็จะมีเวลาอยู่ที่บ้าน เล่นกับเขา มีกิจกรรมร่วมกับเขา หลาย ๆ อย่างมันหายไปช่วงนึงครับ ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะกลับไปไม่ได้แล้วแต่ว่าทุกวันนี้ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดครับ แต่ก็รู้สึกเสมอว่าช่วงเวลานั้นมันหายไป แต่ก็ถ้าไม่ทำงานก็จะเลี้ยงเขาไม่ได้เหมือนกันครับ

ปั๊บ : ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกว่ามีนะครับ ก็ยังมีความสุขกับอาชีพที่เรายังทำอยู่
 
TTM VARIETY : เรียกได้ว่าตรงนี้ก็คือฝันสูงสุดของเราแล้วหรือยัง
 
ปั๊บ :  มันเหมือนกับว่าเราจะดูแลความฝันนี้ไปได้เท่าไหร่กันนะ ก็หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ (หัวเราะ) ก็นั่นแหละครับในความรู้สึกคือมันเป็นแบบนั้น
 
TTM VARIETY : 18 ปีอยู่ในวงการเพลงมา วงการนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเห็นการเปลี่ยนแปลงของวงการเพลงหรือวงการดนตรีไหมคะ
 
โอม : ก็อย่างแรกก็คือทุกวันนี้ไม่มีเทปครับ 

ปั๊บ : เทปคืออะไร (หัวเราะ) คือมีแต่ก็ต้องไปให้ต่างประเทศผลิต ก็จะมีน้อยมาก

โอม : ถ้าสมมุติเป็นที่คิดออกแวบแรกก็คงเป็นเทป แล้วก็ซีดีที่เคยแบบว่า ขายครบล้านตลับเดี๋ยวนี้ก็ไม่มีแล้วครับ ต่อให้เป็นศิลปินที่มีเพลงดังขนาดไหน ทุกวันนี้หาเพลงฟังง่ายมากแต่ก่อนต้องโทรไปขอตามวิทยุ พี่ดีเจครับ ขอเพลงพริกขี้หนูหน่อยครับ 

หั่ง : คือ 18 ปีถ้าพูดแบบเจาะประเด็นนี่คือเยอะมากเลยครับ เพราะว่ามันเปลี่ยนแปลงเยอะ จริง ๆ โปเตโต้ อยู่แค่ช่วงเวลา 18 ปี วงการเพลงมันเปลี่ยนเยอะมาก ถ้าพูดแบบกว้าง ๆ ก็ตั้งแต่แบบรุ่งเรือง ล่มสลาย แล้วก็กำลังจะรุ่งเรืองใหม่ ผมรู้สึกอย่างนี้นะผมรู้สึกว่าตอนนี้ ณ ปัจจุบันวงการเพลงกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้น มันมีทางไป ช่วงนึงที่เราเคยนั่งคุยกันว่าจะไปยังไงต่อนะ แต่เราก็ยังเชื่ออยู่เสมอว่าทุกอย่างมันต้องมีทางไป สุดท้ายมันมีทางไปจริง ๆ คือช่วงที่มันเป็นยุคที่ไม่เทป ไม่มีซีดี มีแต่ดาวน์โหลด ซึ่งดาวน์โหลดก็ไม่ได้โหลดกันแบบถูกกฎหมายด้วยแต่มันก็คือเรื่องของยุคสมัยครับ คือทุกคนคิดว่ามันล่มสลายแล้วแต่ทุกอย่างมันกำลังจะฟื้นแล้วไปในทิศทางที่ดีขึ้น ผมว่า 18 ปีมันเห็นภาพเป็นแบบนั้น

ปั๊บ : มันเร็วมาก ตอนนี้มันเร็วมากครับ อินโทรเมื่อก่อนเขามีคำนวณกันไว้ว่า 30 วินาทีแล้วเข้าฮุคคือจิตวิทยาที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้ผมว่าต้องเข้าเลยครับ เพราะว่ามันเร็วจริง ๆ แต่ผมว่าลึก ๆ ที่ยังไม่เปลี่ยนไปคือทุกคนยังต้องการความจริงใจจากผลงาน ในขณะเดียวกันที่โลกมันหมุนเร็วแค่ไหนก็ตาม สังเกตคอนเทนต์ที่ดีที่สุดคือคอนเทนต์ที่จริงใจ คอนเทนต์ที่ออกมาจากความรู้สึกที่ไม่ได้กลั่นกรองมาก ที่ผมเห็นในเรื่องเพลง ภาษาที่ใช้ของเพลงก็จะเข้าสู่โหมดชีวิตประจำวันมากขึ้น มันเป็นคำที่สัมผัสถึงความรู้สึกจริงได้ ภาษามันจะเริ่มใกล้ขึ้น ก็น่าตื่นเต้นดีครับ
 
 
TTM VARIETY : 18 ปี ช่วงเวลาไหนที่เป็นเหมือนชื่อคอนเสิร์ต  Magic Hours
 
ปั๊บ : ถ้าถามผมตอนนี้นะ ก็ช่วงเวลาที่กำลังจะเกิดขึ้นในคอนเสิร์ตนี่แหละ ผมสารภาพว่าคอนเสิร์ตใหญ่ทุกครั้งก็ค่อนข้างมีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งครั้งที่รู้สึกว่าข้างในรู้สึกไม่เหมือนที่ผ่านมาแล้วก็อยากเจอทุกคนมาก อยากให้โมเมนท์ในช่วง 2 3 ชั่วโมงนั้น ก็คือ Magic Hours มันเป็นช่วงเวลาของคนที่มาดูและเราจริง ๆ มันน่าจะเป็นวันที่ดีที่สุดวันนึงของโปเตโต้เลยล่ะครับ ในช่วงเวลา 18 ปีที่ผ่านมา

กานต์ : วันมหัศจรรย์ก็น่าจะวันขายบัตรครับ
 
TTM VARIETY: ปีนี้คอนเสิร์ตใหญ่มาก แล้วก็ 2 รอบ ไหวใชไหมคะ

ปั๊บ : ไหวครับ ต้องไหว ก็เตรียมใจไว้แล้วด้วย ไม่มีข้อแม้
 
TTM VARIETY : เตรียมตัวกันยังไงบ้าง
 
หั่ง : ก็ปกติเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ เราต้องเก็บตัวซ้อมทุกวัน คือไม่มีวันหยุดเลยครับ ทุกวันก่อนที่เราจะโชว์ก็คือหยุดรับงานแล้วก็ไปใช้ชีวิตอยู่ในห้องซ้อมกัน คิดโชว์กัน แล้วก็จะมีพี่ปั๊บคอยเตือนทุกคนว่าออกกำลังกายด้วยนะ เพราะว่าต้องยืนอยู่บนนั้นนะ ซึ่งผมก็จะทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง ก็จะเน้นเล่นกีตาร์มากกว่า พี่ปั๊บก็จะเตือนให้อบอุ่นร่างกายให้ดี ๆ เตรียมพร้อมร่างกายให้ดี ๆ แล้วก็ทำสมาธิ คือธรรมชาติเวลาเราขึ้นไปอยู่บนคอนเสิร์ตใหญ่ไม่ว่าจะเตรียมตัวมาดีขนาดไหนมันก็ตื่นเต้น ภาพนั้นมันจะไม่เกิดขึ้น มันจะเกิดขึ้นแต่ในหัวเราแต่ภาพจริงมันไปเกิด ณ วันที่เรายืนอยู่จริง ๆ เพราะงั้นต้องเตรียมพร้อมความรู้สึก ไม่ว่าจะเตรียมพร้อมขนาดไหนก็ต้องสั่นเสมอครับ เวลาที่ขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น
 
 
TTM VARIETY : แว่ว ๆ มาว่า 2 วัน สคริปต์ไม่เหมือนกัน
 
ปั๊บ : ใช่ครับ ดีไซน์ไว้ว่าก็จะมีความแตกต่างกันบ้าง เพลงวันนี้อีกวันนึงอาจจะไม่เล่นก็ได้ อาจจะแถมน้อยนิดนึง วันแรกแถมเยอะกว่า วันที่สองคอพังแล้วไม่แถมแล้ว (หัวเราะ) ไม่รู้เหมือนกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ คิดว่าพยายามจะดีไซน์ให้ทั้งสองวันมีเรื่องของสคริปต์ตัวเพลงมีความแตกต่างกันด้วย ตัวพวกผมเองด้วยนะ จะได้ตื่นเต้นตื่นตัวด้วยแล้วก็แฟน ๆ จะได้สนุกไปด้วย

หั่ง : คือปัญหาของการทำคอนเสิร์ตเรา ผมบอกเลยว่าเพลงมันเยอะครับ อย่างคอนเสิร์ตครั้งที่แล้วเราเล่นเพลงไม่หมด แพราะว่าเพลงมันเยอะ แล้วเวลาประชุมเพลงขึ้นกระดาน คนนู่นก็อยากได้เพลงนี้ คนนี้ก็อยากได้เพลงนั้น ซึ่งมันไม่สามารถที่จะใส่ทุกอย่างลงไปได้ โอกาสดีที่รอบนี้จัดสองรอบ เราก็เลยคุยกันว่า ก็เล่นมันให้หมด จะได้ไม่เหมือนกันก็เลยต้องออกมาเป็นแบบนี้ครับ
 
TTM VARIETY : อย่างนี้ต้องซื้อสองวัน
 
ปั๊บ : ก็แล้วแต่ (หัวเราะ)

กานต์ : ไม่ได้พูดนะ (หัวเราะ)
 
TTM VARIETY: ความสุขจากการเป็นศิลปินนักร้อง นักดนตรีคืออะไรคะ
 
หั่ง : ยังได้เล่นอยู่ครับ คือจะพูดอยู่เสมอว่าตัวผมนะอายุปูนนี้แล้วยังได้ขึ้นไปกระโดดโลดเต้นบนเวที มันไม่เคยอยู่ในจินตนาการ แต่ว่าทุกวันนี้ย้อนกลับไปตอนที่เริ่มต้นหัดดีดคอร์ด C ครั้งแรก แล้วทุกวันนี้เรายังได้เล่นดนตรีอยู่ มันก็คือความสุขแล้วครับ แค่ทุกวันนี้ยังได้จับ ยังได้เล่นอยู่
 
 
TTM VARIETY : ความทุกข์ล่ะ มีไหม 
 
ปั๊บ : ไม่มี…ก็โกหกนะครับ เพราะมันก็มาด้วยกันแหละ เรื่องของการทำเพลงแล้วคนไม่ชอบ ทำยังไงดี แก้ไขกันใหม่ เฮ้ย ชอบแล้วอ่ะ แต่ตัวเองไม่ชอบเลย ก็มีนะ มันก็แล้วแต่ว่ามันจะเกิดมาในรูปแบบไหนแต่ผมว่าน่าจะทุกข์คล้าย ๆ กันน่าจะเป็นเรื่องของการทำงานแหละ เราก็อยากทำแล้วให้คนเขามีความสุข มีส่วนร่วมกับเรา บางทีมันอาจจะผิดพลาดแล้วเราต้องมาแก้ไขกันใหม่ มันก็เป็นทุกข์ที่เบี้ยบายรายทางแบบนี้ครับ
 
หั่ง : คือผมว่าก่อนจะสุขมันต้องเข้าใจทุกข์ให้ได้ก่อน คือบางทีเรามีสุขอย่างเดียวไม่ได้ ถ้ามันไม่มีทุกข์มันก็จะไม่มีสุขถูกไหมครับ มันมีทุกข์มาเปรียบเทียบถึงรู้ว่า อ๋อ นี่ทุกข์นะ นี่สุข ไม่ว่าจะทุกข์มากขนาดไหนวันนึงเราทุกข์มาก ๆ พอทุกข์มันแตกมันก็คือความสุขแหละครับ คลี่คลายปัญหาทุกอย่างได้ก็คือความสุข

ปั๊บ : ทุกข์ของทีมงาน บางทีทีมงานเขาเดือดร้อน จะช่วยเขายังไงดี

หั่ง : ยิ้มไว้ก่อนครับ

ปั๊บ : ใช่

หั่ง : มีคนชอบบอกว่าคนยิ้มจะทุกข์สุด แต่เชื่อเถอะ ยิ้มยังไงก็ดีกว่า
 
TTM VARIETY : 4 คนอยู่ได้กันมาตั้งนาน มีทะเลาะ ตบตีกันบ้างไหมคะ
 
ปั๊บ : ไม่เคยเลยนะ เรารักกันดี (หัวเราะ) มันก็มีบ้างแหละ คือเราอยู่กันแบบจะใช้คำว่าครอบครัวก็จะดูเลี่ยนไป อยู่กันเหมือนเป็นทุกอย่างดีกว่า เป็นคู่เวร คู่กรรม คือมันต้องยอมรับซึ่งกันและกันให้ได้ครับ เพราะฉะนั้นมันต้องมีการคุยกันบ่อย ในทุกครั้งที่มันเกิดความคิดที่ไม่ลงรอยหรือเกิดการเข้าใจผิด ก็ต้องมานั่งเคลียร์กัน แต่โชคดีที่ว่า 4 คนและทีมงาน ทุกคนมีพื้นฐานในเรื่องของความรู้สึกที่ดีต่อกัน อาจจะมีคำพูดที่ผิดใจกันหรือมีวิธีการแสดงออกทางร่างกายของแต่ละคนที่แตกต่างกัน แต่ว่าพื้นฐานมีเจตนารมย์ที่ดีก็ยังพอแบบเคลียร์และทุกอย่างก็ค่อย ๆ กลมกล่อมไปด้วยกันได้ ก็คือมีทั้งแบบตีกันด้วยแล้วก็รักกันมาก
 
TTM VARIETY : อยู่วงการดนตรีมานาน คิดว่าถ้าวันหนึ่งไม่มีดนตรี ไม่ได้เล่นเครื่องดนตรีหรือว่าไม่ได้ร้องเพลงจะอยู่ได้ไหม
 
ปั๊บ : เอาจริง ๆ ก็ไม่เคยคิดหรอก แต่ถ้ามันต้องอยู่ เกิดวันนึงเป็นใบ้ขึ้นมา สมมุติอันนี้ของผมเอง คอแบบระเบิดก็ต้องอยู่ให้ได้ 
 
TTM VARIETY  : ในอนาคตอีก 5 ปี 10 ปี วาดฝันไหม ว่าตอนนั้นตัวเองจะทำอะไรอยู่
 
ปั๊บ : ก็ไม่ได้คิดไกลขนาดนั้นนะครับ แต่ก็คิดว่ายังมีความหวังแล้วก็ฝันว่ายังได้อยู่กับวงโปเตโต้นี่แหละ แต่ว่ามันจะพัมนาไปในรูปแบบไหนก็ สุดแต่เวรแต่กรรมที่มันจะต้องเกิดขึ้นว่ามันจะเป็นยังไง มีครอบครัว มีลูกมั้ง แล้วก็เอาลูกมานั่งฟังเพลง เล่าให้ลูกฟังว่าทำไมพ่อแต่งเพลงนี้ พ่อคิดเพลงนี้จากอะไร ผมว่าก็คงมีเรื่องอะไรให้เล่าสู่ลูกสู่หลานฟัง

หั่ง : คือตั้งใจไว้แล้วว่าอัลบั้มชุดที่ 7 ทำ 7 ปีใช่ไหมครับ อัลบั้มชุดต่อ ๆ ไปเราจะทำอีกแค่ 2 ปี เพราะฉะนั้นอีก 10 ปี อีก 5 อัลบั้มก็น่าจะทำชุดที่ 12 ครับ (หัวเราะ)

ปั๊บ : โห คือไม่มีค่ายอยู่แล้วนะ พวกผมลงทุนกันเองแล้ว (หัวเราะ) 
 
TTM VARIETY : นอกจากมี 2 วัน ความพิเศษของคอนเสิร์ตมีอะไรอีกบ้างคะ 

ปั๊บ :  เกสต์ที่ไม่เหมือนกันทั้ง 2 วัน แล้วก็อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ 
 
 
TTM VARIETY : โชว์พิเศษที่ไม่ใช่แค่รองเพลงมีไหม โชว์ของแต่ละคน เต้นคาบาเร่ต์อะไรแบบนี้
 
กานต์ : คาบาเร่ต์เลยเหรอครับ (หัวเราะ)

โอม : ถ้าอยากเห็นก็จะทำให้ดูครับ

ปั๊บ : ก็คงมีอะไรพิเศษเยอะครับ ทุกคนไม่ใช่แค่พวกผม ทั้ง Director ทั้งหัวหน้า ทั้งทางทีม Genie เอง คือทุกคนระดมความคิดกันทั้งหมดเลยว่าแบบอยากจะทำอะไร ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ 80 % เพื่อคนดูจริง ๆ คือพวกผมแทบจะเป็นหุ่นกระบอกแล้วครับ (หัวเราะ) แต่คือเราก็อยากทำแบบนั้นด้วย คืออยากให้คนที่มาดูแฮปปี้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
 
TTM VARIETY : เกสต์พอจะเปิดเผยได้ไหมคะ

ปั๊บ : ไม่ได้เลยครับ 

หั่ง : เปิดเผยได้คนนึง แฟนเพลงทุกคนครับ จริง ๆ แล้วผมบอกเลยว่าอันนี้เฉลยได้เลย บนโต๊ะประชุมสิ่งนึงที่อยู่บนโต๊ะประชุมคือ เราต้องการให้ทั้งฮอลล์เป็นเวทีเดียวกัน เรารู้สึกว่าเราอยากให้ทุกคนรู้สึกว่ามันคือ Magic Hours จริง ๆ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าคุณมาคอนเสิร์ต คุณเป็นส่วนนึงจริง ๆ คือไม่ได้อยู่ในที่มืด คุณก็จะอยู่กับพวกเราครับ
 
TTM VARIETY: สุดท้ายให้ทุกคนฝากคอนเสิร์ต

กานต์ : 30 พฤศจิกายนกับวันที่ 1 ธันวาคม นะครับ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เปิดขายบัตรวันที่ 4 สิงหาคมนี้นะครับ 

ปั๊บ : อยากให้ไปเจอกันครับ POTATO MAGIC HOURS คอนเสิร์ต “มันคือเรื่องจริง” ครับ  มาช่วยกันทำให้ทุกอย่างมันไม่ใช่แค่ฝันครับ เพราะมันกำลังจะเกิดขึ้นจริง

โอม : ครั้งแรกของโปเตโต้ครับที่มีคอนเสิร์ต 2 รอบ อยากให้มาดูกันครับ 


**พบกับคอนเสิร์ตใหญ่ POTATO Magic Hours Concert #มันคือเรื่องจริง

2 รอบการแสดง ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี รอบวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน โชว์ 19:00 น. รอบวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม โชว์ 17:00 น
 
เปิดจำหน่ายบัตรวันแรก 4 สิงหาคมนี้ เริ่มสิบโมงเช้าที่ ThaiTicketMajor.com ทุกสาขาทั่วประเทศ
บัตรนั่งราคา 2,500 / 1,800 / 1,000 บาท และบัตรยืน 1,800* บาท ซื้อบัตรคลิก >> https://bit.ly/2JQ6XR4
 
*เฉพาะบัตรยืน ซื้อวันแรก วันเดียว! 1,500 บาท (จากราคาปกติ 1,800 บาท) วันแรกคุ้มที่สุด!!