วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง

ข่าวประชาสัมพันธ์

วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง

 
 
หากใครเคยเห็นภาพพระพุทธรูปที่ใหญ่โตเท่าภูเขาก็อย่าเพิ่งคิดว่า เป็นภาพรีทัชสถานเดียว เพราะที่วัดม่วงบนแผ่นดินอ่างทองแห่งนี้มีพระพุทธรูปที่สูงเท่าตึกสามสิบห้า ชั้น ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งสามารถมองเห็นได้จากที่ไกลนับสิบ กิโลเมตร ซึ่งยังไม่มีที่ใดเทียบได้ในขณะนี้...และนั่นหมายความว่าพระพุทธรูปแห่งวัด ม่วงองค์นี้คือพระพุทธรูปที่มีขนาด "ใหญ่ที่สุดในโลก"
พระ พุทธรูปองค์ใหญ่องค์นี้ต้องถือว่าเป็น Landmark ของประเทศไทยและถือเป็นสิ่งใหม่ด้วย เพราะเพิ่งจะสร้าง แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2550 นี้เอง คนไทยยังรู้จักสถานที่ แห่งนี้ไม่มากนัก ต้องอาศัยเวลาในการประชาสัมพันธ์ ต่อไปอีกสักหน่อย
แต่ ในฐานะคนถ่ายภาพ เราอยากจะให้คุณได้รู้จักกับสถานที่แห่งนี้ให้มากขึ้น...มากพอที่จะพาแขก บ้านแขกเมืองไปเที่ยวชมด้วยความภาคภูมิในฝีมือของคนไทยเช่น เราได้อย่างเต็มที่ วัดม่วงมีประวัติการก่อสร้างที่น่าสนใจ อันที่จริง แล้ววัดม่วงแห่งนี้เป็นวัดโบราณที่มีอายุยาวนานหลายชั่วคน แต่ด้วยกาลเวลาที่แปรเปลี่ยนทำให้สิ่งต่างๆ ผุพังทลายลง ไปกลายเป็นที่รกร้างและป่ารกชัฏ หลายสิ่งหลายอย่างถูกปกคลุมไปด้วยสภาพของความเป็นป่า และบางส่วนยัง ถูกนำไปใช้เป็นท้องทุ่งนาเพื่อผลิตพืชผลทางเกษตรโดยไม่ ระแคะระคายมาก่อน
 
จน กระทั่ง "หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ" ได้จาริกมาตามนิมิตรที่นิมนต์ให้มาบูรณะวัดม่วงขึ้นมาอีกครั้ง จากเนินดินและป่ารกที่ได้รับการถากถางด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน จึงได้พบซากปรักหักพังดั้งเดิมว่าเป็นวัดจริงๆ และหลักฐานที่แน่นหนาชัดเจนที่สุดก็คือ "หลวงพ่อขาว" พระพุทธรูปศิลาแลงสีขาวจมดินอยู่ครึ่งองค์ในที่แห่งนั้น... …สำหรับประวัติโดยพิสดารต้องขอเชิญที่วัดม่วงด้วยตนเอง ซึ่งทางวัดได้มีการพิมพ์แจกจ่ายให้นำไปศึกษากันได้
พระ พุทธรูปองค์ใหญ่แห่งวัดม่วงนั้นมีพระนามอย่างเป็นทางการว่า "พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ" มีขนาดหน้าตักกว้าง 63 เมตร (ราวๆ 1 ไร่) และสูง 95 เมตร (เท่าตึกประมาณ 35 ชั้น) เป็นพระพุทธรูป ก่ออิฐถือปูนสีทองที่เริ่มวางศิลาฤกษ์เมื่อ 9 มีนาคม 2534 อีกสิบปีให้หลังหลวงพ่อเกษมก็ได้มรณะภาพลง
และ ได้สั่งเสียศิษยานุศิษย์ให้ดำเนินการสร้างเพื่อเป็นพระมหากุศลแด่องค์สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวต่อไป ซึ่งคณะ ลูกศิษย์ก็ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสานเจตนารมณ์ของหลวงพ่อ อย่างแน่วแน่จนการก่อสร้างได้สำเร็จลุล่วงลงในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ใช้เวลาในการก่อสร้างรวม ประมาณ 16 ปี และใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 131 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งสิ้น
 
นอก จากองค์พระฯ แล้ว ในบริเวณวัดยังมีสิ่งอื่นที่ ต้องเรียกว่าสุดยอดอลังการเช่นกันเช่น วิหารประดิษฐาน องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันมือ ที่ทรงสง่างามเป็นอย่างยิ่ง ในบริเวณใกล้กันนั้นก็เป็นที่ตั้งของ "วิหารแก้ว" อาคารประดับชิ้นกระจกทั้งหลังซึ่งวิจิตรพิสดารเป็นอันมาก ภายในวิหารมี "หลวงพ่อเนื้อเงินแท้" ขนาดหน้าตัก 79 นิ้ว ประดิษฐานเป็นประธาน รายรอบด้วยรูปเหมือนหล่อทอง เหลืองของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศจำนวนถึง 50 รูป และยังมีพิพิธภัณฑ์ของโบราณ, หอระฆัง, แดนนรกภูมิ จำลองคติสอนใจให้รู้จักละอายชั่วกลัวบาป และ อุโบสถวัดม่วง ที่โอบล้อมด้วยฐานดอกบัวขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งประดิษฐานรูปหล่อเหมือนของพระเกจิชื่อดังทั่ว ประเทศอยู่ในขอบเขตวิสุงคามสีมาของดอกบัวนี้

ที่มา : tiewpakklang.com