กว่าจะถึงวันที่ อุ้ม กรภัทร ได้รับรางวัลเหรียญทอง จากการประกวด Asia championship 2016 ที่ประเทศภูฏาน ในฐานะนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทยนั้น เธอต้องก้าวข้ามผ่านชีวิตที่ล้มเหลว และฮึดสู้จนกลายเป็นไอดอลของสาวๆ หลายคนในตอนนี้ เราไปติดตามเรื่องราว จากคนที่ล้มเหลวในชีวิตกลายเป็น "นักเพาะกายสาวทีมชาติ" ที่คุณอุ้มได้เสียสละเวลามาแชร์ประสบการณ์ให้พวกเราได้อ่านไว้เป็นกำลังใจให้กับตัวเองกันค่ะ

 

-------------------------------

 

สวัสดีค่ะวันนี้อุ้มจะมาเล่าประวัติความเป็นมา

“อุ้มเครื่องแน่น” หรือ "นางฟ้ามีกล้าม"

นักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย

ในรุ่นโมเดลฟิสิกซ์ความสูงไม่เกิน 160 ซม. 

 

 

 

จุดประสงค์ เพื่อให้กำลังใจและแรงบันดาลใจ คนเราทุกคนย่อมมีความฝัน ความฝันของแต่ละคนย่อมต่างกัน ฝันเล็ก ฝันใหญ่ ไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญคือ ฝันแล้วทำมันให้สำเร็จ อุ้มเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นคนมีความฝัน และรักในฝันของตัวเอง เชื่อมั่นตลอดว่าสักวันมันจะเป็นวันของเรา

 

จุดเริ่มต้น เนื่องจากอุ้มล้มเหลวทางธุรกิจร้านอาหารเงินเก็บทั้งหมดลงที่ร้านและหลังจากเลิกธุรกิจก็เป็นหนี้หลายแสน ตอนนั้นท้อมากอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตเลยโพสต์เล่นๆบนเฟชบุ๊คของตัวเอง

 

อุ้มเริ่มเข้าวงการเพาะกายนี่ตั้งแต่ปี 2557 เริ่มต้นมาจากอุ้มโพสต์ fb รูปนี้

 

 

หลังจากนั้นอุ้มกับพี่ร๊อค(โค๊ชคนแรก)ก็คุยกัน จนพี่ร๊อคชวนไปเทรนที่ powerzone gym เทรนกะพี่ร๊อคได้เกือบ 1เดือน ก็ตัดสินใจลงแข่ง Lacthford classic ในเดือนพย. 2557ในรุ่นangel model งานนั้นอุ้มได้ที่ 3 แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว

 

 

ตอนนั้นอุ้มยังทำงานแดนเซอร์และนางแบบอยู่ และต้องพยายามแบ่งเวลาไปฟิตเนส 2-3ชม.ทุกวัน วันๆแทบไม่ได้นอน

 

รูปตอนเป็นแดนเซอร์และนางแบบ
 

 

แต่พอมาเริ่มเต้นโพลแดนซ์อุ้มเลยมีกล้ามมากขึ้น นั่นคงเป็นจุดเปลี่ยนทำให้พี่ร๊อคเห็นว่าอุ้มน่าจะไปทางนี้ได้ไกล

นี่รูปตอนเต้นโพลแดนซ์ และมิวสิควิดิโอของพี่ๆ Thaitanium เพลง la la la https://youtu.be/3dRgEgyozHo
 

หลังจากเข้าประกวดครั้งแรกก็มีแมตท์การประกวดหลังจากนั้นในเดือน มค.ปี 58 ห่างกับแมตแรกเกือบ 2 เดือน ตอนนั้นไม่ได้เล่นเวทเลย แต่รับงานเต้นโพลแดนซ์ Toyota ไว้ ออกต่างจังหวัดและเต้นวันละ 2 รอบ แต่เป็นผลดีเหมือนเราออกกำลังกายหนักอยู่ทุกวัน แต่แค่ไม่ได้คาร์ดิโอเพิ่ม

 

ช่วงนั้นเริ่มติดต่อพี่ร๊อคไม่ได้ เราเลยติดต่อพี่แนน(วันวิสา สังขริม) นักกีฬาเพาะกายทีมชาติ

 

หลังจากนั้นพี่แนนและพี่สตีฟเลยเป็นโค๊ชคนที่ 2 ของเรา ก่อนแข่งแมตที่ 2 มีเวลาเตรียมตัว 5 วัน ก็ลงแข่งเลย

 

งานที่ 2 Muscle&physqiue challange Secon square อุ้มได้ที่ 2 โอ้ย!! ที่นี้บอกกับตัวเองเลยว่าเรามาถูกทางแล้ว

 

 

 

หลังจากแข่งแมตนี้ พี่แนนฝากอุ้มให้เข้าทีม Narlabs Thailand ได้เจออ.หนึ่ง(วรกร วงศกรเมือง) และพี่ภูมิ (ภูมิวรินทร์)

แต่ปัญหาคืออุ้มไม่สะดวกเดินทางไปเทรนกะพี่แนนพี่สตีฟเพราะอุ้มอยู่ลาดพร้าว พี่แนนอยู่แถวสุขุมวิท พี่แนนเลยไปฝากอุ้มไว้กับอ.หนึ่ง บอกหลังจานนี้แกไปซ้อมกับ อ.หนึ่ง นะ ที่รัชดา

 

ตอนเห็น อ.หนึ่ง ครั้งแรกคิดว่า ทำไมกล้ามใหญ่จังเราจะรอดมั้ย?? 555 หลังจากนั้นอุ้มก็ไปเทรนกะอ.หนึ่งที่ Fitness7 รัชดาเพื่อเตรียมตัวแข่งแมตต่อไปคือ Mr.Thailand 2558

ภาพบรรยากาศการซ้อม...555

 

 

อุ้มมีเวลาเกือบ 3 เดือนนิดๆ เพื่อเตรียมตัวแข่งแมตนี้

 

อุ้มยอมรับว่าแมตนี้การเตรียมตัวไม่เต็มที่เพราะเราต้องแบ่งเวลาไปเต้น และตอนนั้นอุ้มเริ่มเข้าวงการดีเจ Dj Akila

 

 

แถมอุ้มยังเข้าประกวด Fit&firm Samig Light ไปประกวดแบบงงๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนที่รู้จักบอกอุ้มต้องไปนะ และพี่เรศ(Choroegrapher dancer) แถมเป็น organizer รับงานอีเว้นบิ๊กๆ ตัวพ่อเลย พี่เรศดุมากเวลางาน แต่วันนั้นพี่เรศเป็นคนบอกให้อุ้มไปแล้วจะเคลียร์งานที่อุ้มรับไว้เอง ถ้าไม่มีเรศและเพื่อนๆ แดนเซอร์ อุ้มคงไม่มีวันนี้จริงๆ

 

อุ้มและอ๊อฟเป็น The winner ในปีนั้น

 

 

และอุ้มได้ไปออกรายการ take me out Thailand เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตก็เป็นได้ เริ่มมีคนรู้จักอุ้มมากขึ้นไปไหนก็มีคนทักทาย จากเพื่อนใน FB ไม่ถึงพัน เริ่มมีคนมาฟอลโล่มากขึ้น
 

 

การแข่งขันมิสเตอร์ไทยแลนด์ในปี 2558 อุ้มได้รับรางวัลที่2 หลังจากแข่งรายการนี้อุ้มคิดว่าต้องเอาจริงมากกว่านี้ เราทำอะไรเยอะไป ต้องfocus เป็นอย่างๆ
 

 

 

 

หลังจากผ่านเวทีระดับประเทศไปแล้ว อุ้มก็ได้เตรียมตัวแข่งในแมตต่อไปคือ RGP ที่พัทยา, Sport expo ที่เมืองทองธานี และThai national games กีฬาแห่งชาติ 3 แมตการแข่งขันนี้อุ้มได้รางวัลที่1 กรี๊ดดดดดดด

 

 

เป็นการปิดท้ายปี 2558 อย่างสวยงาม

 

เปิดปี 2559 อุ้มก็เริ่มและตั้งใจใหม่อีกครั้ง โดยไม่เคยท้อ ตอนนั้นเริ่มผลันตัวเองมาเป็นเทรนเนอร์โดยตรง เพราะงานแดนเซอร์เริ่มลดลง(ดราม่ามาก) เนื่องจากเจ้าของงานบอกอุ้มตัวใหญ่ ลูกค้าไม่เอา ส่วนงานดีเจต้องเปิดเพลงตอนกลางคืน พอเช้ามาต้องสอนหรือเทรนตัวเองเราก็ไม่ไหว เลยคิดว่าเราคงต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง อุ้มโฟกัสแค่เรื่องแข่ง Mr.Thailand ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนอย่างเดียว

 

แมตนี้อุ้มตั้งใจมากทั้งกินและซ้อม ไม่ออกนอกลู่นอกทางและวันนั้นของอุ้มก็มาถึงจริงๆ อุ้มทำสำเร็จ อุ้มแทบจำไม่ได้เลยครั้งสุดท้ายที่เราร้องไห้เพราะความดีใจเมื่อไหร่ แต่หลังจากที่พิธีกรประกาศผลว่าอุ้มชนะเลิศอันดับหนึ่ง น้ำตาไหลพราก จากแมตมิสเตอร์ไทยแลนด์ปีนี้ อุ้มได้แชมป์และได้ถูกเรียกตัวจากสมาคมเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย อุ้มได้รับคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติและได้รับมอบหมายให้ไปแข่ง WBPF Asia championship ที่ประเทศภูฐาน

 

 

จากเดือนเมษา อุ้มมีเวลาเตรียมตัวเกือบ 4 เดือน เพื่อไปแข่งชิงแชมป์เอเชีย ในเดือนกันยายน อุ้มแข่งวันที่ 7 ก.ย. วันคล้ายวันเกิดอุ้ม 8 ก.ย. อุ้มทำได้อีกครั้ง

 

อุ้มได้รับรางวัลเหรียญทองให้ชาวไทย ตอนนั้นดีใจมากแต่ไม่ร้องไห้ แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือชาวไทยเชียร์เราบางคนถึงขั้นน้ำตาไหล ส่งข้อความมาขอบคุณอุ้มที่ทำเพื่อคนไทย ตอนนั้นอุ้มรู้สึกปลื้มปิติอย่างบอกไม่ถูก
 

 

หลังจากแข่งชิงแชมป์เอเชีย อุ้มก็ได้ถูกเรียกตัวเพื่อไปแข่งชิงแชมป์โลก WBPF worldchampionship 2559 ประมาณเดือนธันวา อุ้มมีเวลาเตรียมตัว3เดือนกว่าๆ แมตนี้อุ้มได้รับรางวัลเหรียญเงินให้ชาวไทย ปิดท้ายปี 2559
 

 

ปี 2560 ปีนี้อุ้มบอกตัวเองจะไม่แข่งอย่างบ้าคลั่งเหมือนที่ผ่านมา 1.เราเหนื่อยมาก 2.ร่างกายเราไม่สวยทุกแมตการแข่งขัน อุ้มว่า 1 ปี ควรแข่ง 1-2 แมตก็พอแล้ว ปีนี้อุ้มเลยเลือกแข่งในแมต Thai National Games “สงขลาเกมส์”  อุ้มแข่งให้จังหวัดสงขลา

อุ้มก็ทำสำเร็จอีกครั้งคือได้เหรียญทองให้ชาวสงขลา
 

 

 

 

อุ้มถูกเรียกตัวจากทางสมาคมเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ให้แข่ง WBPF world championship 2560 ที่ประเทศ Mongolia วันที่ 7 ต.ค. เป็นวันแข่งของอุ้ม แมตนี้อุ้มก็เตรียมตัวมาดีมากเช่นกัน ผลการแข่งขันอุ้มได้เหรียญเงินให้ชาวไทย (แมตนี้แอบเสียใจกะผลการตัดสิน) เจ้าภาพได้เหรียญทองค่ะ
 

 

 

 

สุดท้ายนี้อุ้มก็ยังหวังว่าวันของอุ้มจะมาถึง อุ้มก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาไกลถึงขนาดนี้ อุ้มต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาในชีวิตไม่ว่าที่ยังอยู่หรือจากไปแล้ว ถ้าอุ้มไม่มีบุคคลพวกนี้ อุ้มคงไม่มีวันนี้ 
 

 

อุ้มอยากฝากทุกคนที่กำลังพยายามเริ่มออกกำลังกาย หรือกำลังเริ่ม การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ต้องทำ สุขภาพเราสำคัญกว่าสิ่งอื่นได้ อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมดูแลตัวเอง เงินที่คุณหาอาจจะไม่ได้ใช้เพื่อความสุข กลับกลายต้องมาใช้รักษาตัวเองยามเจ็บป่วย

ทำการออกกำลังกายคือ ไลฟ์สไตล์ ไม่ใช่แค่ "เทรน"

 

ฝากติดตามอุ้มที่ช่องทาง อุ้มจะมีคลิปการสอนออกกำลังกายมาให้เพื่อนๆ ตั้งแต่ basic จนถึง advance อย่าลืมไปติดตามกันนะค่ะ

IG : Oummy_oum

FB fanpage : Oummy

Youtube : OummyFit official 

 

ขอปรบมือรัวๆ ให้กับ อุ้ม กรภัทร "นางฟ้ามีกล้าม" ของพวกเราชาวไทย เก่งมากๆ เลยค่า