สูตรลับ...เสริมพัฒนาลูกน้อย

ไลฟ์สไตล์
สูตรลับ...เสริมพัฒนาลูกน้อย

การฝึกทักษะและการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกดีกว่าการปล่อยให้ลูกเล่นแต่แท็บเล็ต เพราะการทิ้งลูกให้อยู่กับหน้าจอนานๆ ลูกจะขาดโอกาสในการพัฒนาสมองและเสี่ยงต่อการเป็นออทิสติก

เรื่องโดย ชมนภัส วังอินทร์ team content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลบางส่วนจาก : หนังสือสิ่งเล็กๆ ที่สร้างลูก 
 
ในยุคที่ทุกอย่างต้องดำเนินไปด้วยการแข่งขัน พ่อแม่หลายคนมุ่งหวังให้ลูกต้องเรียนดีและเก่ง จนบางครั้งไม่ยอมที่จะให้ออกไปเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่า การทำเช่นนี้อาจทำให้เด็กขาดทักษะในการใช้ชีวิตไม่รู้จักวิธีการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะลูกไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แค่กินอาหารแล้วจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ แต่คนเป็นพ่อแม่จะต้องสร้างกระบวนความคิดที่ส่งผลให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพในอนาคตข้างหน้าต่อไป
 
เมื่อก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เด็กต้องพบกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา การที่เด็กจะเรียนเก่งเพื่อให้สอบได้คะแนนดีๆ อย่างเดียวเห็นทีคงไม่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบันแน่นอน ดังนั้นถ้าเด็กได้ทำกิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันเล็กๆ น้อยๆ สิ่งเหล่านี้จะแฝงไปด้วยการฝึกทักษะและการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกดีกว่าการปล่อยให้ลูกเล่นแต่แท็บเล็ต เพราะการทิ้งลูกให้อยู่กับหน้าจอนานๆ ลูกจะขาดโอกาสในการพัฒนาสมองและเสี่ยงต่อการเป็นออทิสติก
 
คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกลูกโดยเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวเริ่มจากเรื่องใกล้ตัว คือ กิจวัตรประจำวัน จนถึงการช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน พ่อแม่หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่แท้จริงแล้วควรปลูกฝังให้ลูกทำด้วยตนเองเป็นประจำ ครั้งแรกอาจจะเริ่มจากการทำด้วยร่วมกัน เพื่อให้ลูกได้เห็นเป็นตัวอย่าง และสุดท้ายฝึกให้ลูกทำด้วยตนเอง เช่น
 
1.ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จะช่วยสร้างความมั่นใจและภาคภูมิใจให้กับเด็ก สามารถไปโรงเรียน และใช้ชีวิตในสังคมได้โดยไม่พึ่งพาผู้อื่น
 
2.ช่วยสร้างสุขนิสัยที่ดีในการรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด เป็นพื้นฐานสำคัญต่อการมีสุขภาพดี
 
3.ทำกิจวัตรประจำวันตามเวลาสม่ำเสมอช่วยสร้างนาฬิกาชีวิตที่ดีให้ร่างกาย เช่น การตื่นนอนแต่เช้าและเข้านอนแต่หัวค่ำ ถ้าเราสร้างนาฬิกาชีวิตที่ดีให้กับลูก ลูกจะเกิดระเบียบวินัยในตัวเองตามธรรมชาติติดเป็นนิสัยไปจนโต แม้พ่อแม่ไม่อยู่ลูกก็ทำเองได้
 
4.การดูแลตัวเองเป็นพื้นฐานเริ่มต้นของการรู้จักรับผิดชอบ เริ่มต้นจากการที่ลูกรับผิดชอบเรื่องของตัวเอง แล้วค่อยๆเพิ่มเป็นดูแลคนรอบข้าง (ช่วยดูแลคนในครอบครัว) นำไปสู่การมีจิตสำนึกการรับผิดชอบต่อสังคมที่กว้างขึ้นช่วยฝึกให้ลูกมีจิตสาธารณะได้
 
เสริมพัฒนาลูก
 
อีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีสำหรับฝึกทักษะให้ลูก คือ การทำงานบ้านที่จะช่วยฝึกทักษะด้าน EF (Executive Functions) ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการจัดการชีวิตให้สำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น การชวนลูกมาช่วยตากผ้า เพราะกว่าลูกจะหยิบเสื้อมาแขวน หยิบกางเกงมาตากบนราวเสร็จ เท่ากับว่าลูกได้ฝึกการควบคุมตัวเองให้สำเร็จตามเป้าหมาย รวมถึงได้คิดวิเคราะห์แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ฝึกคิดหยืดหยุ่นตามสถานการณ์ต่างๆ แถมยังได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก และมัดใหญ่ที่ดีต่อพัฒนาการลูก
 
วิธีการทำงานบ้านให้เป็นเรื่องสนุก ควรสอดแทรกเกมสนุกเพื่อจูงใจและกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ เช่น เรามาเล่นเกมทายสีผ้าในตระกร้ากันเถอะ เสร็จแล้วมาช่วยกันพับนะจ๊ะ หรือช่วยพ่อจับคู่ถุงเท้าที่เหมือนกันหน่อย เริ่มต้นฝึกได้ตั้งแต่ตัวน้อยๆ เป็นการปลูกฝังทัศนะคติที่ดีต่อการทำงาน
 
การทำงานบ้านให้เป็นเรื่องปกติ ชวนลูกทำงานบ้านอย่างสม่ำเสมอ ให้เป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกิจวัตรประจำวันทั่วไป เช่น ตื่นนอนแล้วพับผ้าห่ม กินข้าวเสร็จเอาจานไปเก็บ โดยพ่อแม่ต้องทำให้ดูก่อนทำให้เห็นทุกวัน ชวนลูกทำทุกวันแล้วจะกลายเป็นความเคยชินไปเอง
 
เสริมพัฒนาลูก
 
ด้าน พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเสริมว่า “การพัฒนาทักษะ EF หรือการพัฒนาทักษะสมอง คือ คิดแก้ปัญหาอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะสมองให้แก่ลูก เพราะทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ลูกที่ติดหน้าจอมือถือ ปัจจุบันพ่อแม่ก็ติดมือถือเช่นกัน จึงทำให้ทุกคนในครอบครัวค่อยๆ ถอยห่างออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว ดังนั้นถ้ารักลูกควรให้เวลา การดูแลลูกไม่ใช่เรื่องยาก คือ ชวนทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เล่นให้สนุกมีความสุข ไม่ใช่ให้ฟังแต่เสียงบ่น เพราะเมื่อลูกรู้สึกไม่สนุกจะถอยห่างออกไปเรื่อยๆ ควรให้ความอบอุ่น กอดหอม ใช้คำพูดที่ดีกับลูก เช่น แม่มีความสุขที่ได้เล่นกับลูกนะ แม่รักลูกนะ ลูบหัวลูกเบาๆ เท่านี้ก็เป็นการสร้างความสุขให้ครอบครัวได้แล้ว สิ่งที่ได้ตามมา คือ เมื่อพ่อแม่จะบอกหรือสอนให้ลูกกระทำสิ่งใดลูกจะทำได้ความเต็มใจ และยินดีทำให้เสมอ เท่านี้ลูกของคุณจะไม่มีพฤติกรรมต่อต้าน เพราะการมีพัฒนาการที่สมวัยมีทักษะในการดำรงชีวิตจะช่วยได้” พญ.จิราภรณ์ กล่าว
 
สำหรับผู้ที่สนใจการส่งเสริมพัฒนาการลูก สามารถดาวโหลดแอปพลิเคชั่น คุณลูก เป็นแอปพลิเคชันที่เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ที่ใช้การบันทึกและประเมินข้อมูลด้านการเจริญเติบโต พัฒนาการ การสร้างภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงการดูแลช่องปากและฟันของเด็กเล็กวัย 0-5 ปี หรือ ทางเว็บไซต์ www.thaihealth.or.th/sook จะมีกิจกรรมสร้างสุขสำหรับครอบครัว (SOOK Activity) ให้คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจพาลูกหรือบุตรหลานมาร่วมกิจกรรมได้ หรือติดต่ามข่าวสารการจัดห้องเรียนพ่อแม่ สามารถติดตามได้ที่แฟน เพจ สิ่งเล็กๆที่สร้างลูก ได้นะคะ




ขอบคุณข้อมูลจาก สสส