เชื่อว่าผู้ชายไทยหลายคน คงยังไม่ทราบถึงเทรนด์สุขภาพอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งกำลังมาแรงมากๆ ในช่วงนี้ คือ การรณรงค์ให้ผู้ชายนั่งปัสสาวะ เพื่อความสะอาด ลดกลิ่นเหม็น ตัดปัญหาการแพร่กระจายไปบนพื้น

การรณรงค์ให้นั่งปัสสาวะนั้น มีมาหลายสิบปีในแถบยุโรป โดยเจ้าแรกเกิดขึ้นในปี 2004 เมื่อประเทศเยอรมัน ได้จัดทำคลิปวิดีโอสั้นๆ เพื่อจูงใจ ด้วยเหตุผลทางด้านความสะอาดเป็นหลัก

ในปี 2006 โรงเรียนประถม ประเทศนอร์เวย์ แนะนำให้พ่อแม่ฝึกลูกๆ ให้นั่งปัสสาวะ รวมถึงประเทศฝรั่งเศส เนเธอแลนด์ก็รณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจังเช่นกัน 
 

จากนั้นในปี 2012 พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในประเทศสวีเดน ผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นด้วยการพยายามให้สมาชิกในสภาเทศบาลนั่งปัสสาวะ เมื่อต้องใช้ห้องน้ำที่นั่น 

รวมถึงฝั่งทวีปเอเชีย ในปี 2012 นายหยวน ชอว์-จิง ผู้อำนวยการทั่วไปแผนกสุขอนามัยสิ่งแวดล้อม ประเทศใต้หวัน ดำเนินรอยตามประเทศญี่ปุ่น เกาหลี มองเห็นความเป็นได้จากสถิติผู้ชายญี่ปุ่นนั่งปัสสาวะกว่าร้อยละ 30 ทั้งนี้ เขามักส่งผู้สังเกตการณ์ออกตรวจสอบห้องน้ำสาธารณะกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ จนกลายเป็นข้อถกเถียงในโลกโซเชียลอย่างดุเดือด
 

ด้วยเหตุผลทางด้านสุขอนามัยล้วนๆ อาทิ การนั่งช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้เต็มที่ ส่งผลกับสมรรถภาพทางเพศ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีต่อมลูกหมากโต อีกทั้งยังเป็นท่าซึ่งถูกหลักธรรชาติ ที่สำคัญแม่บ้าน พนักงานทำความสะอาด ไม่ต้องทนกลิ่นเหม็นๆ อีกต่อไป
 

มาถึงตรงนี้ในใจของหนุ่มๆ โดยเฉพาะพ่อบ้านที่ผ่านการยืนปัสสาวะสบายๆ มาครึ่งชีวิต จะให้เปลี่ยนไปคงยากเต็มที หรืออาจทำได้แค่แป๊บๆ เท่านั้น แต่! เทรนด์การนั่งปัสสาวะนี้อาจกลายเป็นนโยบายของทั่วโลกก็เป็นได้ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่น เผยสถิติล่าสุด ชายหนุ่มที่แต่งงานแล้วร้อยละ 49 หันมานั่งเป็นที่เรียบร้อย เพิ่มขึ้นจากปี 1992 ที่มีแค่ร้อยละ 15 ไม่น้อยเลยนะเนี้ย!

 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก  unlockmen.com และ sanook.com