ชวนลูกเที่ยวนอกบ้าน เปิดโลกกว้างเสริมสร้างพัฒนาการ

ไลฟ์สไตล์
ชวนลูกเที่ยวนอกบ้าน เปิดโลกกว้างเสริมสร้างพัฒนาการ

โลกที่อยู่นอกบ้านเปรียบเสมือนทั้งห้องเรียน (รู้) หากมีคุณพ่อคุณแม่หรือบุคคลที่อบอุ่นมาอยู่ข้างๆ ด้วยนั้นก็มีส่วนช่วยกระตุ้นพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกๆ ได้เป็นอย่างดี

เรื่องโดย : ดนยา สุเวทเวทิน Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลประกอบจาก : คู่มือสิ่งเล็กๆ ที่สร้างลูก แฟนเพจศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ (สสส.) แฟนเพจ SOOK สสส. และเว็บไซต์ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ
 
วันหยุดยาวที่ผ่านมามีคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนพาบุตรหลานไปเที่ยวนอกบ้านกันบ้างคะ  ถ้าช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมายังไม่ได้พาลูกออกไปเที่ยวไหน สุดสัปดาห์นี้จะลองชวนคุณลูกออกไปเที่ยวเป็นการแก้ตัวก็ไม่เสียหายนะคะ
 
เพราะโลกที่อยู่นอกบ้านเปรียบเสมือนทั้งห้องเรียน (รู้) และห้องเล่น (รู้) ของลูกที่แสนจะกว้างใหญ่ หากมีคุณพ่อคุณแม่หรือบุคคลที่อบอุ่นมาอยู่ข้างๆ ด้วยนั้นก็มีส่วนช่วยกระตุ้นพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกๆ ได้เป็นอย่างดี วันนี้ ทีมเว็บไซต์ สสส. จึงนำข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์จากการชวนลูกเที่ยวนอกบ้านมาบอกต่อคุณพ่อคุณแม่มือใหม่และผู้ปกครองอีกหลายๆ ครอบครัวไทยค่ะ
 
ลูกได้อะไรจากการออกมาเที่ยวนอกบ้าน?
 
เปิดโลกของลูกให้กว้างขึ้น เขาจะได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมจากสิ่งที่มีอยู่แค่ในบ้าน ได้เห็นอะไรแปลกๆ มากขึ้น ได้สัมผัสสิ่งใหม่ๆ ได้ลองชิมอาหารหลากหลายแนวมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมพัฒนาการของลูกและขยายกรอบความคิดความรู้ของลูกให้มีมากขึ้น
 
พบปะผู้คนที่หลากหลาย ช่วยฝึกทักษะการเข้าสังคม เรียนรู้กฎกติกา มารยาท และกาลเทศะในสถานที่ต่างๆ
 
ได้ใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว สร้างความทรงจำดีๆ เก็บไว้ และทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแนบแน่นมากขึ้น
 
มีประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เรียนรู้ เมื่อนอกบ้านเป็นห้องเรียนที่ลูกไม่เคยเข้าเรียน ดังนั้นเขาจึงยังไม่คุ้นเคย ลูกจึงมีโอกาสได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ หรืออาจมีสถานการณ์ที่ต้องแก้ปัญหาและฝึกความอดทนมากขึ้น
 
 
พาลูกเที่ยว
 
HOW TO พาลูกเที่ยวนอกบ้านเคียงข้างพ่อแม่
 
ก่อนการเดินทาง >> ชวนลูกวางแผนและทำข้อตกลงร่วมกัน เช่น บอกว่าเรากำลังจะไปที่ไหน เดินทางอย่างไร ระยะทางไกลเท่าไหร่ เราควรออกเดินทางกี่โมง เมื่อไปถึงแล้วควรทำอะไรก่อน ต้องเตรียมตัวอย่างไร ลูกทำอะไรได้หรือไม่ได้ เพราะการให้ลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจจะช่วยให้เขารู้สึกภาคภูมิใจ และการรู้ล่วงหน้าว่าจะต้องเจอกับอะไรและทำข้อตกลงร่วมกันไว้ก่อนจะช่วยลดอาการงอแงหงุดหงิดของเด็กลงได้
 
ส่วนการชวนลูกช่วยกันจัดกระเป๋าเสื้อผ้า ของใช้ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง และจะเป็นสิ่งที่ดีมากหากลูกก็มีกระเป๋าส่วนตัวเป็นของตัวเอง เพราะจะเป็นการฝึกทักษะการวางแผนการรับผิดชอบเรื่องของตัวเองและขยายไปสู่การดูแลช่วยเหลือคนอื่นต่อไป
 
ระหว่างการเดินทาง >> ชวนลูกสังเกตสิ่งต่างๆ ข้างทาง หรืออาจจะคิดเป็นเกมเล่นกัน เช่น หารถตามสีที่กำหนด นับป้ายบอกทางและสัญลักษณ์บนท้องถนน จะฝึกให้ลูกเป็นคนช่างสังเกต รู้จักปรับตัวเข้ากับสถานการณ์รอบตัว
 
จุดหมาย >> ให้ลูกสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ อย่างเต็มที่ ภายใต้ข้อตกลงที่ทำร่วมกันไว้ จะเป็นการฝึกให้ลูกได้สนุกและเรียนรู้ต่อสิ่งต่างๆ พร้อมกับมีวินัยทำตามข้อตกลงที่ได้ตั้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
 
กลับจากการเดินทาง >> ชวนลูกทบทวนสิ่งที่ได้จากการเดินทาง เช่น ชวนอ่านนิทานหรือหนังสือเกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งไปเจอ จะเป็นการต่อยอดจากการเรียนรู้และประสบการณ์ตรงกับชีวิตจริง รวมถึงเป็นการช่วยฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ของลูกได้อีกด้วย
 
พาลูกเที่ยว
 
ตัวอย่างที่เที่ยวนอกบ้าน ปิดเทอมนี้ควรพาลูกๆ มาเล่น
 
1. “เริ่มต้นที่ตัวเรา Start With ME” นิทรรศการที่จะสร้างแรงบันดาลใจสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่มีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ จากทั้ง 4 ห้องกิจกรรม ได้แก่ ห้อง 1 Start with me, ห้อง 2 Together we can, ห้องที่ 3 Let’s Go Green และห้องที่ 4 Thai Health and well-being
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่แฟนเพจศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ (สสส.) facebook.com/thaihealthcenter.org/
 
2. “มาปลูกผักกัน ตอน จุลินทรีย์ดี๊ดี” กิจกรรมช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2561 นี้ ที่จะสอนหลักการเพาะจุลินทรีย์ที่จำเป็นสำหรับพืช ที่สามารถนำไปใช้ได้ในครัวเรือน รวมถึงบอกต่อวิธีการปลูกผักปลอดสารพิษด้วย
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่แฟนเพจ SOOK สสส. facebook.com/Sookcenter หรือโทร.  08-1731-8270 หรือ 02-343-1500 กด 2
 
3. “Active Family สุขภาพดีแฮปปี้ยกบ้าน” กิจกรรมเสริมสร้างคุณภาพในครอบครัวด้วยการออกกำลังกาย ฝึกประสาทสัมผัส เพิ่มทักษะทางสมอง และควบคุมการเคลื่อนไหวให้สอดคล้องกับกับจังหวะดนตรี
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่แฟนเพจ SOOK สสส. facebook.com/Sookcenter หรือโทร.  08-1731-8270 หรือ 02-343-1500 กด 2
 
4. “BOOK TALK ‘ประดิษฐ์ของจากกะลา’” ต่อยอดการเรียนรู้ให้ลูกๆ ที่อายุ 7 ปีขึ้นไปด้วยการเรียนวิทยาศาสตร์จากสิ่งใกล้ตัว ชวนสนุกกับการสังเกต ขัดๆ ปั่นๆ ดึงๆ จากกะลาและไม้ไผ่ ให้แปลงร่างเป็นของเล่น ของเรียนรู้จากเรื่องใกล้ตัว
 
ผู้ที่สนใจลงทะเบียนผ่านลิ้งค์นี้ได้เลย https://goo.gl/kAADkp หรือ สอบถามเพิ่มเติมที่เบอร์ 081-556-9580
 
5. เยือน “ตลาดน้อย” ชมร่องรอยอารยธรรมของชุมชนจีน กับโครงการย่านจีนถิ่นบางกอกน้อย ที่นอกจากจะได้เดินเที่ยวชุมชนแล้ว ยังถือเป็นการออกกำลังกายในขณะที่ได้เรียนรู้ร่องรอยของศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่ยังมีลมหายใจอยู่ตลอดการแชะภาพเก็บความประทับใจกับ Art Wall เก๋ๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สีเขียว ลานออกกำลังกาย เดินชมตลาดผลไม้ ก่อนแวะทำจิตใจให้ผ่อนคลายที่ศาลเจ้าจีน
 
ชมรีวิวพาเที่ยวที่ลิ้งค์ http://bit.ly/2ETYYOm
 
เพราะวัยแรกเกิดจนถึง 5 ขวบปีแรก เป็นช่วงที่ร่างกายและเซลล์สมองของเด็กมีการพัฒนามากที่สุด ส่งผลให้เด็กที่มีพัฒนาการดีจะมีความพร้อมต่อการเรียนรู้และปรับตัวสู่โลกกว้าง ถือเป็นรากฐานและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เมื่อมีโอกาส คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมพาลูกหลานออกมาเล่นนอกบ้านเพื่อเป็นการเปิดประตูสู่การเรียนรู้นะคะ


ขอบคุณข้อมูลจาก สสส