รื้อตู้(เย็น) ดูสมุนไพรบำรุงผิว

ไลฟ์สไตล์
รื้อตู้(เย็น) ดูสมุนไพรบำรุงผิว

สมุนไพรไทย ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะอย่างหนึ่ง ที่หลายชาติให้ความสนใจ ด้วยมีขั้นตอนที่หลากหลาย มีรส มีกลิ่น ที่ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น

เรื่องโดย เทียนทิพย์  เดียวกี่ Team content www.thaihealth.or.th
ให้สัมภาษณ์โดย อาจารย์ชินริณี วีระวุฒิวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
ข้อมูลบางส่วนจาก มูลนิธิหมอชาวบ้านและ เว็บไซต์สมุนไพรดอทคอม
 
มลภาวะจากฝุ่นและแสงแดด ที่สาวๆ ต้องพบเจอ ส่งผลให้ผิวหน้าและผิวกายประสบปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน หน้าสิว หน้ามัน หน้าแห้ง ผิวลอก ผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวด่างดำ รอยคล้ำจากแสงแดด สารพัดปัญหาที่สาวๆ ต้องรับมือ  ทำให้ต้องเร่งหาตัวช่วยมาแก้วิกฤติในครั้งนี้โดยด่วน
 
ตัวช่วยที่ว่า คงไม่ใช่ครีมเร่งขาว ที่ขายเกลื่อนทั่วไปตามท้องตลาด หรือ คลิกซื้อออนไลน์จากอินเทอร์เน็ต หลายคนคงไม่อยากเสี่ยงหน้าพัง ผิวพัง เพราะหลงเชื่อคำโฆษณาสวยหรู เพราะเห็นตัวอย่างอันตรายจากครีมต่างๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้ง แต่ตัวช่วยที่ว่า คือ สมุนไพรไทย ที่สรรพคุณมากมายนั่นเอง
 
สมุนไพรไทย ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะอย่างหนึ่ง ที่หลายชาติให้ความสนใจ ด้วยมีขั้นตอนที่หลากหลาย มีรส มีกลิ่น ที่ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น  อาจารย์ชินริณี วีระวุฒิวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม อธิบายว่า ปัจจุบันการบำรุงผิวด้วยสมุนไพร ความนิยมหรือกระแสดังกล่าวมีมาตั้งนานแล้ว กล่าวคือ คนที่กลับมาใช้สมุนไพรมี แต่กลับมาใช้แบบกรรมวิธีโบราณยังไม่ค่อยเห็น ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากคนยังขาดความรู้ มันขึ้นอยู่กับว่าเราให้ความรู้ขนาดไหน ถ้ายังไม่มีความรู้ก็จะไม่กล้าใช้นั่นเอง ซึ่งการใช้สมุนไพรสำหรับผิวมีหลักการง่ายๆ ดังนี้
 
1. ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสะอาด
 
2. สมุนไพรสดใหม่มีคุณภาพดี มีการย่อยขนาดจนละเอียด ไม่มีการระคายเคืองต่อผิวหนัง
 
3.  เป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัย จำง่ายๆ ก็คืออะไรที่กินได้ (เช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ) นั้นสามารถใช้เป็นเครื่องสำอางได้
 
4. ต้องเชื่อมั่นว่า ธรรมชาติของผิวหนัง ที่มีกลไกดูแลตัวเองอยู่แล้ว ต้องรักษากลไกนั้นไว้นานๆ
 
วันนี้เราเลยชวนสาวๆ มาเป็น แม่หญิงไทยผิวงามตามฉบับสมุนไพรไทย ว่าแล้วจะรอช้าอยู่ใย ไปเปิดตู้เย็นในครัว ส่องดูซะหน่อยสิ ว่ามีไอเท็มเด็ดๆ ตัวไหนมาช่วยฟื้นฟูผิวสาวของเราให้สุขภาพดีได้บ้าง
 
สมุนไพร
 
1.มะขาม ในมะขามมี AHA ทำให้ขาว เราสามารถเอามะขามมานึ่งแล้วเอารกออก ผสมกับน้ำเกลือ ใช้สำหรับล้างหน้า หน้าก็จะใสขึ้น เกลือก็ลดความมันบนใบหน้า หรือตรงไหนอยากขาว เช่น รักแร้ ขาหนีบ ผิวส่วนอื่นๆ ก็นำไปขัดทำให้กระจ่างใสขึ้น มะขามจะช่วยขัดชำระ เอาเซลล์ผิวที่ตายออก ซึ่งมะขามเปียกไม่ได้ไปกัด แต่มีคุณสมบัติเป็น AHA ที่ทำให้เม็ดสีใต้ผิวจางลงนั่นเอง
 
2.ขมิ้น ทาพอกตามผิวกายหรือผิวหน้า ถ้าผิวมีบาดแผล ผิวอักเสบ ขมิ้นจะช่วยสมานแผล  
 
3.ว่านหางจระเข้ ป้องกันผิวแห้ง ทำให้เรียบลื่น เพิ่มความชุ่มชื้นต้านการอักเสบ ป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต โดยใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาบริเวณที่เป็นสิว จะทำให้สิวยุบตัว และไม่เป็นแผลเป็น ทาที่ใบหน้าทิ้งไว้เพื่อบำรุงผิว  ซึ่งจะช่วยแก้ไขรอยหมองคล้ำ ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ลบรอยเหี่ยวย่น ใช้เป็นประจำจะลดรอยแผลเป็นจากสิว  รักษาฝ้า จุดด่างดำบนใบหน้า
 
4.มะเขือเทศสุก  เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังสดชื่น ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ทำให้หน้าขาวขึ้น โดยฝานมะเขือเทศวางบนใบหน้าสักครู่  จะช่วยทำให้ใบหน้าสะอาด  และดูเต่งตึงเปล่งปลั่งขึ้น
 
5.แตงกวา ช่วยบำรุงผิว ลบรอยฝ้า ทำให้ผิวละเอียดอ่อนนุ่มแล้วสมานผิว การนำแตงกวามาใช้อาจใช้ผลแตงกวาอ่อนสดมาฝานบางๆ ตามขวาง และแปะบนผิวหนัง โดยเฉพาะตามบริเวณใบหน้าและเปลือกตา
 
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันในกรรมวิธีการสวยด้วยสมุนไพร หนึ่งในนั้นคือ การสะตุ คือการทำให้ตัวยามีฤทธิ์อ่อนลง หรือทำให้พิษของตัวยาน้อยลง หรือ ทำให้ตัวยานั้นสะอาดขึ้น เช่น การสะตุดินสอพอง นำดินสอพองใส่หม้อดิน ปิดฝายกขึ้นตั้งไฟให้นานพอสมควรจนเห็นว่าดินสอพองสุขดีแล้ว จึงนำไปใช้ปรุงยาได้ โดย ดินสอพอง มีสรรพคุณช่วยปิดรูขุมขน ทำให้เหงื่อน้อยลง ทำให้ผิวเรียบเนียนเพิ่มขึ้น นำมาเป็นแป้งทาผิวหน้า ทาผิวกาย เป็นต้น
 
นอกจากการใช้สมุนไพร เพื่อการบำรุงผิวภายนอกแล้ว ยังมีสมุนไพรอีกประเภทที่สำหรับรับประทาน เพื่อช่วยให้ระบบย่อยดีขึ้น โดยปกติถ้าระบบเลือดดี ผิวก็จะดีด้วย ถ้าอยากบำรุงผิวก็กินสมุนไพรที่บำรุงตับ เพราะตับเป็นตัวสร้างเลือด เช่น มะนาว มีรสเปรี้ยวบำรุงระบบเลือดในร่างกาย บางคนมีปัญหาระบบย่อยอาหาร ก็ต้องกินสมุนไพรลดร้อน เช่น พริกไทย เครื่องต้มยำ โดยให้หั่นเล็กๆ และเคี้ยวไปด้วยเลย  ถ้าระบบย่อยและระบบขับถ่ายดี เลือดก็ดี และที่คือที่มาของคำว่า “สวยจากภายใน” นั่นเอง และอย่าลืมว่าสมุนไพรทุกอย่างอาจแพ้ได้ การทดสอบว่าแพ้หรือไม่นั้น ให้นำส่วนผสมที่จะใช้ทาที่ท้องแขนก่อน เพราะผิวหนังบริเวณนี้จะเป็นส่วนที่บางกว่าหน้า ทิ้งไว้สักพักหนึ่งถ้าไม่เกิดอาการแสบร้อน มีผื่น ถือว่าไม่แพ้ และการใช้สมุนไพรให้ได้ผลนั้นใช้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง จึงจะเห็นผล


ขอบคุณข้อมูลจาก สสส