หลายคนมักเคร่งเครียดกับการออกกำลังกาย เพื่อเผาผลาญแคลอรี่ที่เพิ่มขึ้นจากการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

 

แต่ผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ได้พิสูจน์แล้วว่าการลดน้ำหนักทำได้หลายวิธี อย่างเช่น 12 เคล็ดลับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้ จะช่วยให้น้ำหนักของคุณลดลงโดยไม่ต้องออกกำลังกายอย่างเคร่งครัดจนทำให้เครียดหนัก ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!

 

1. ทานพริก
 

 

การรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของสาร แคปไซซินใน พริกเม็ดสีแดงๆ จะช่วยให้ร่างกายเผาหลาญได้ดีขึ้น และผลพิสูจน์จากนักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา พบว่าส่วนใหญ่ใครที่ชอบทานรสชสติเผ็ดๆ ก็จะเกลียดการทานรสเค็มและหวานไปเลย

 

2.  ใช้ไดร์เป่าผม
 

 

น้อยคนที่จะรู้ว่าความร้อนจาก ไดร์เป่าผม ทำให้ไขมันที่อยู่ใต้ผิวเกิดการเผาผลาญกลายเป็นเหงื่อ และคุณสามารถเพิ่มสมุนไพรซึ่งให้ความร้อนอย่างเช่น ลูกประคบที่มีขิงอยู่ด้านใน คลึงไปบนบริเวณส่วนเกินเหล่านั้น พร้อมกับเปิดไดร์เป่าผมร้อนอีกแรง 

 

3. เปลี่ยนสีของจาน-ชาม

 

 

นักวิทยาศาสตร์จาก Cornell University ได้พิสูจน์แล้วว่า สีของจานชามในครัว มีผลต่อการอยากอาหาร หากจานชามเป็นสีเฉดเดียวกับอาหารจะทำทานได้เยอะ แต่ถ้าเป็นสีตัดกันกับอาหาร อย่าง สีฟ้า สีน้ำเงิน ตัดกับสีของ เนื้อสัตว์ และผักต่างๆ จะทำให้คุณทานอาหารได้น้อย

 

4. อบเชยลดความหิว
 

 

งานวิจัยพบว่า อบเชย หรือ ชินนาม่อน สามารถลดความหิวและลดความกระหายได้หากคุณรับประทานทุกวัน ซึ่งในตัวอบเชยมีสารบางช่วยให้การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตนั้นดีขึ้น

 

5. เปิดไฟสว่างและปิดเพลง
 

 

ตามร้านอาหารนอกบ้าน มักเปิดไฟสลัว พร้อมกับเปิดเพลงเบาๆ เหตุผลหนึ่งมาจากการสร้างบรรยากาศให้คุณอยากนั่งทานอาหารไปเรื่อยๆ ฉะนั้น ลองปรับแสงไฟให้สว่างและปิดเพลงขณะรับประทานอาหาร แล้วคุณจะทึ่งกับผลลัพธ์ที่ได้

 

6. ออกกำลังกายแบบแอโรบิก
 

 

การออกกำลังกายอย่างเช่น การวิ่งจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ ช่วยให้การเผาผลาญไขมันและลดน้ำหนักได้ดีที่สุด แต่หากจะเจาะจงช่วงวัย วัยสูงอายุ ควรออกกำลังกายเบาๆ อย่างการยกเวท ส่วนวุยรุ่นหรือวัยทำงาน ควรเน้นการวิ่ง ว่ายน้ำ และฟิตเนส

 

7. ปรับการทานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน
 

 

การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนเรามักจะเลือกทานอาหารเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมงานเสมอ มันจะดีมากถ้าเจอเพื่อนร่วมงานรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด คือการรับประทานอาหารให้ช้าลง อย่าเริ่งรีบ เพราะจะช่วยให้ระบบย่อยและเผาผลาญอาหารทำงานได้ดี ไม่ทานอาหารเกินความต้องการของร่างกาย

 

8. นอนหลับให้เพียงพอ
 

 

นักวิทยาศาสตร์ Sunil Sharma และ Mani Kavuru ได้พิสูจน์ว่าคนที่หลับในห้องมืดนั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนน้อยกว่าคนที่หลับในห้องที่สว่าง และเพื่อการลดน้ำหนัก คุณต้องนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง หากนอนหลับไม่พอ จะส่งผลให้รู้สึกหิวเร็วขึ้น เนื่องจากมีความผิดปกติของฮอร์โมน 

 

9. ทานอาหารที่ผสมนมมากขึ้น
 

 

งานวิจัยว่าผลิตภัณฑ์นม อาทิ นมสด โยเกิร์ต ช่วยให้คุณลดน้ำหนักลงได้  Michael Zemel ศาสตราจารย์ด้านโภชนาการและการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเทนเนสซีใน Knoxville ได้ข้อสรุปว่าคนที่รับประทานผลิตภัณฑ์ที่ผสมนม 3 ครั้งต่อวัน จะลดน้ำหนักได้เร็วกว่าผู้ที่ไม่ทานอาหารจำพวกนี้

 

10. ทานถั่วและพืชตระกูลถั่วมากขึ้น
 

 

Dr. Russell de Souza พิสูจน์ว่าการบริโภคถั่ว 130 gr (5 ออนซ์) ช่วยลดความอยากอาหารและช่วยลดน้ำหนักลงได้ 0.3 กก. (11 ออนซ์) ภายใน 6 สัปดาห์  นอกจากนี้ ถั่วลันเตา ถั่วเขียว และถั่วลูกไก่มีปริมาณโปรตีนและเส้นใยสูง และคาร์โบไฮเดรตในถั่วเหล่านี้ จะมีไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเร็วเท่าคาร์โบไฮเดรตที่มีอยู่ในขนมปัง 

 

11. ซุปรองท้อง
 

 

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการกินซุปก่อนอาหารจานหลัก ช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่คุณกิน โดยซุปที่คุณกินไม่ควรมีมากกว่า 100-150 แคลอรี่ แนะนำให้ทานซุปผักก่อนทานจานหลักที่เป็นเนื้อสัตว์

 

12. อยู่ในอุณหภูมิห้องที่เหมาะสม
 

 

การอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิ 66 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 18.8 องศาเซสเซียส ช่วยให้ระบบลการเผาผลาญแคลอรี่ทำงานได้ดี โดยเฉพาะไขมันไม่ดีซึ่งมักสะสมอยู่บริเวณสะโพก จำเป็นต้องใช้อุณหภูมิที่ค่อนข้างต่ำ


ขอบคุณข้อมูลจาก brightside.me