มือและข้อมือ เป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานเป็นสำคัญอันดับต้นๆ แต่ด้วยการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบและหนักหน่วงในแต่ละวัน อาจก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับการใช้มือและข้อมือตามมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว หนึ่งในนั้นคือ โรคกดทับเส้นประสาท

ซึ่งอาการของโรคนี้ จะมีอาการชา เป็นเหน็บ ปวดแสบปวดร้อนบริเวณฝ่ามือกับนิ้วมือ โดยเฉพาะนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ และอาจรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตที่นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางเป็นบางครั้ง มักมีอาการตอนกลางคืน หรือหลังตื่นนอน เมื่อขยับหรือสะบัดก็จะรู้สึกดีขึ้น ต่างๆ เหล่านี้ หมายถึงคุณกำลังเป็นโรคกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ

 

โดยสาเหตุเกิดจากพังผืดที่หนาตัวบริเวณข้อมือทางด้านฝ่ามือ แล้วกดทับเส้นประสาททำให้เกิดการอักเสบ โดยส่วนใหญ่มาจากการใช้ข้อมือทำงานอย่างต่อเนื่อง ติดต่อกันเป็นเวลานาน เกิดขึ้นในเพศชายมากว่า อายุระหว่าง 35-40 ปี  ส่วนใหญ่มาจากอาชีพ เจาะถนน พิมพ์งาน เขียนงาน แม่บ้าน และมีในสตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคไทรอยด์  รวมถึงผู้ป่วยกระดูกหักหรือเคลื่อนบริเวณข้อมือ
 

 

ส่วนวิธีการรักษา โรคกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ 

 

1. การรักษาโดยไม่ผ่าตัด ใช้เฝือกอ่อนดามข้อมือ ทานยาแก้ปวดแก้อักเสบ ฉีดยาสเตียรอยด์ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ใช้ข้อมือเพื่อลดการอักเสบของข้อมือ 

2. การรักษาด้วยการผ่าตัด จะทำเมื่อการรักษาด้วยยาและ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ผล หรือผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงกล้ามเนื้อฝ่อ 

 

และสามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน อาทิ เลือกใช้ปากกาเขียนง่าย เขียนเลื่อน กดแป้นพิมพ์เบาๆ พักมือเป็นระยะ โดยยืด ดัด และหมุนมือกับข้อมือ ไม่นอนทับมือ เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์