10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ครีมกันแดด เกราะป้องกันมะเร็งผิวหนัง

ไลฟ์สไตล์
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ครีมกันแดด เกราะป้องกันมะเร็งผิวหนัง

มารู้จักกับ 10 เรื่องจริง เกี่ยวกับครีมกันแดด เกราะป้องกันโรคมะเร็งผิวหนัง ที่หลายคนอาจกำลังเข้าใจผิด

ครีมกันแดด ถือเป็นตัวช่วยในเรื่องของการป้องกันผิวจากรังสีอัลตร้าไวโอเลต หรือเรียกสั้นๆ ว่า รังสี UV ซึ่งสามารถเล็ดลอดมาจากโอโซนที่สูญเสียในชั้นบรรยากาศ หรือที่เรียกว่า สภาวะโลกร้อน ซึ่งหากรังสี  UV เหล่านี้มากระทบกับผิวของคนเราเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังอย่างที่หลายคนกำลังกลัว

ครีมกันแดด

โดย รังสียูวี UV แบ่งประเภทของรังสียูวี UVA/UVB และ UVC ดังนี้...

1. รังสี UVA - เป็นรังสีที่พบมากที่สุดบนผิวโลกถึง 95 % มันสามารถลอดผ่านก้อนเมฆและชั้นโอโซนเข้าไปทำลายผิวของเราได้อย่างลึกล้ำ ต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
 
2.  รังสี UVB - เป็นรังสีที่ถือว่ารุนแรงที่สุด พบมากในช่วงเวลา 10.00 น.-16.00 น. ส่งผลทำให้ผิวไหม้เกรียม ร้ายแรงกลายเป็นมะเร็งผิวหนัง แต่โชคดีที่รังสีนี้ไม่สามารถผ่านกระจกเข้าไปในอาคารที่พักอาศัยได้
 
3. รังสี UVC - ไม่สามารถเข้าถึงโลกได้ เนื่องจากบรรยากาศจะทำหน้าที่เป็นตัวกรองรังสีไว้

ดังนั้น การมีความรู้และความเข้าใจเกียวกับครีมกันแดด จึงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีๆ อย่างเช่น 10 เรื่องจริงเกี่ยวกับครีมกันแดด ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้...
 
1. รู้จักค่า SPF

SPF หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า Sun protection factor คือการวัดความสามารถในการกันแดดจากรังสี UVB ในการทำลายผิว ดังนี้...

- SPF 15 กรองรังสี UVB ประมาณ 93% 
 
- SPF 30 กรองประมาณ 97% 
 
- และ SPF 50 ต่อสู้กับแสงแดดได้ 98% 
 
ข้อควรจำ : หลายคนเข้าใจผิดว่า การใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 15 + SPF 30 + SPF 50 จะเท่ากับ SPF 90 ช่วยกันแดดได้มากสูงสุด ความจริงแล้วเราต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง อาทิ เมื่อจากแดดจ้าควรใช้ SPF50 เป็นต้น
 
2. อยู่นอกบ้าน อย่าลืมทาครีมกันแดด
 
หลายคนมักคิดว่า วันที่อากาศหม่นๆ มีเมฆปกคลุม ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดด อย่าลืมว่า เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ว่ารังสี UVA และ UVB สามารถลอดผ่านเข้ามาในชั้นโอโซนและชั้นเมฆได้ โดยเฉพาะ ว่ารังสี UVB นั้นอันตรายถึงขั้นเป็นมะเร็วผิวหนัง

ครีมกันแดด
 
3. หลีกเลี่ยงการอาบแดด
 
เป็นค่านิยมที่ผิดๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 21 ประเทศในฝั่งยุโรปหันมาบ่มผิวให้เป็นสีแทน ด้วยวิธีการเข้าไปในห้องอาบแดด  ซึ่งใช้กระจกใสเป็นตัวรวมแสง ซึ่งมีทั้งรังสี UVA และ UVB และร้ายแรงกว่าการนอนอาบแดดท่ามกลางธรรมชาติเป็นอย่างมาก ส่วนผิวที่ถูกทำลายไปจะส่งผลให้หนังกำพร้านั้นบางลงอีกด้วย
 
4. ผิวเข้มก็ได้รับรังสี UV เช่นกัน
 
คนที่มีสีผิวเข้ม ใช่ว่าจะไม่ถูกรุกรานจากรังสียูวี ฉะนั้นควรทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อออจากบ้าน เพื่อป้องกันมะเร็งผิวหนังที่อาจตามมาได้

ครีมกันแดด
 
5. พนักงานออฟฟิศต้องทาครีมกันแดด
 
หน้าต่างกระจกของออฟฟิศ ไม่สามารถกรองรังสี UVA ได้ ดังนั้นคนที่ทำงานในออฟฟิศทั้งวันจึงบควรทาครีมกันแดด หรือผู้ที่ต้องขับรถทั้งวัน ก็ควรทาครีมกันแดดเช่นกัน
 
6. ครีมกันแดดไม่ใช่ตัวขัดขวางการเกิด วิตามิน D
 
เป็นที่รู้กันดีว่า วิตามิน D จะถูกสร้างขึ้นเมื่อผิวสัมผัสกับแสงแดดในตอนเช้า แต่ยังมีคนกำลังเข้าใจผิดว่า ครีมกันแดด ที่ทาลงบนผิว จะไปขัดขวางการเกิดวิตามิน D ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย

ครีมกันแดด
 
7. ทาครีมกันแดดให้เพียงพอในแต่ละครั้ง
 
ข้อปฏิบัติของทาครีมกันแดด คือ ต้องทาก่อนออกจากบ้าน 15 นาที และทาในปริมาณ 5-6 ช้อนโต๊ะสำหรับร่างกาย และ 1/2 ช้อนชาบริเวณผิวหน้า อย่าลืมทาหูและคอด้วย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับครีมกันแดดแต่ละประเภท(โลชั่น, มูส, ครีม, สเปรย์ หรือเจล) ทางที่ดีควรอ่านฉลากให้ละเอียดและทำตามคำแนะนำ
 
8. ความถี่ในแต่ละวัน
 
ความถี่ในการทาครีมกันแดด เป็นเรื่องที่ควรระวัง เพราะค่า SPF จะหายไปจาก แสงแดด เหงื่อ ขณะว่ายน้ำ และความชื้นในที่ที่เราอยู่ ซึ่งคำแนะนำในการทาครีมกันแดด คือ เปลี่ยนมาใช้เนื้อบางเบาอย่าง SPF15 ทาทุกๆ 2 ชั่วโมง และควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนถึง 16.00 น. 

ครีมกันแดด
 
9. แบบสเปรย์ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด
 
ความเข้าใจผิดว่า ครีมกันแดดแบบสเปรย์ ที่ทั้งสะดวกและไม่เลอะกระเป๋านั้น ให้ระวังเรื่องนี้ไว้ให้ดี เพราะการปล่อยครีมกันแดดแบบพ่นไม่ถูกหลัก อาจไม่หนาพอและไม่ทั่วถึงโดยเฉพาะใบหน้า หู และริมฝีปาก ซึ่งจำเป็นต้องทาด้วย 

10. ครีมกันแดดชนิดกันน้ำ
 
หลายคนไว้วางใจให้ครีมกันแดดกันน้ำ เป็นเกราะป้องกันให้ผิวไม่ดดนแดด แต่ความจริงแล้ว เมื่อครีมกันแดดโดนน้ำ จะทำงานแค่ 40-80 นาทีเท่านั้น และควรทาอีกครั้งหลังจากอาบน้ำเสร็จ
 

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมทาครีมกันแดด ออกจากบ้านทุกครั้ง และหากเป็นไปได้ ให้หมั่นทาซ้ำในระหว่างวันจะดีมากๆ ค่ะ


Prepskin Shine Sunscree SPF50+ 

Prepskin Shine Sunscree SPF50+
 
คุณสมบัติที่แตกต่างเหนือระดับจากครีมกันแดดทั่วไป ... . 
☀️ เนื้อมูส สัมผัสบางเบา เกลียง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว

Prepskin Shine Sunscree SPF50+
 

- เหงื่อออกแล้วไม่เป็นคราบ
- ทาแล้วหน้าไม่ขาวลอย
- ปกปิดรอยแดง รอยดำ รูขุมขน ผิวดูเรียบเนียน ... .
- ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- ช่วยให้ Make up ติดทนนานยิ่งขึ้น ... .
- มีส่วนผสมของเม็ดสีที่ผ่านเทคโนโลยีเคลือบผิวแบบพิเศษช่วยเพิ่มความคงทนของเม็ดสี ให้หน้าไม่หมองคล้ำระหว่างวัน 

 
Prepskin Shine Sunscree SPF50+


***สั่งซื้อสินค้า ได้ที่ >> shopping.thaiticketmajor.com