โดยกองกลางตัวรับ ดีกรีทีมชาติญี่ปุ่น รายนี้เกิด 10 มิถุนายน 1986 มีประสบการณ์บนโลกลูกหนังอย่างโชกโชน เคยไปค้าแข้งในศึกบุนเดสลีกา ประเทศเยอรมนี มาแล้ว ฤดูกาล 2010 – 2011 มีส่วนช่วยให้ เอาก์สบวร์ก คว้ารองแชมป์บุนเดสลีกา 2 ได้สิทธิ์ขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดของเยอรมนี ก่อนที่ฤดูกาล 2012 – 2013 จะถูก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ต้นสังกัดที่แท้จริงดึงตัวกลับไปร่วมทีม มีโอกาสลงสนามถึง 17 เกม

 

จากนั้นฤดูกาล 2013 โฮโซไก ได้ถูก แฮร์ธา เบอร์ลิน คว้าตัวไปร่วมทัพ ด้วยค่าตัว 1 ล้านยูโร และสามารถยึดตัวหลักของทีมได้ ลงสนาม 2 ฤดูกาล รวม 53 นัด ก่อนที่จะถูก บูร์ซาสปอร์ ทีมดังของประเทศตุรกี ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2015 – 2016 เมื่อจบฤดูกาล ก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ วีเอฟบี สตุ๊ตการ์ต อีกหนึ่งทีมดังของเยอรมนี จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2017 ตลอดการค้าแข้งในยุโรป 8 ปี ของ โฮโซไก ลงสนามรวมไปถึง 139 เกม อยู่ในสนามแข่งขันมากถึง 10,572 นาที ซึ่งพ่อค้าแข้งรายนี้ถือเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนที่ 5 ที่ได้ลงสนามในศึกบุนเดสลีกา อีกด้วย

 

สำหรับการค้าแข้งในเอเชีย ของกองกลางตัวรับ รายนี้ เริ่มกับ อูราวะ เรด ไดมอนส์ ในปี 2005 ก่อนจะค่อยๆ ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีม จนสามารถพาทีมคว้าแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2007 มาครอง ซึ่งลงสนามให้กับ อูราวะ เรด ไดมอนส์ ไป 6 ฤดูกาล 98 เกม ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งในยุโรป

 

ปี 2017 กองกลางหน้าหล่อ ได้กลับมาค้าแข้งในบ้านเกิดอีกครั้งกับ คาชิวา เรย์โซล จนถึงสิ้นฤดูกาล 2018 ก่อนที่เจ้าตัวจะบรรลุข้อตกลงกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการมาเสริมทีมเพื่อสู้ศึกฤดูกาล 2019

 

ส่วนผลงานในระดับชาตินั้น นักเตะมากประสบการณ์รายนี้ เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติญี่ปุ่น ชุดคว้าแชมป์เอเชียน คัพ 2011 ซึ่งเจ้าตัวลงสนามรับใช้ทีมชาติไปถึง 31 เกม

 

สำหรับสาวกทีมปราสาทสายฟ้า อย่าลืม! ไปให้กำลังใจทีมโปรดกันได้ในศึก ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ ซึ๋ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ โตโยต้า ไทยลีก จะดวลแข้งกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ ที่สนามกีฬากองทัพบก วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 19.00 น. จำหน่ายบัตรแล้วที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์

ที่มา : แฟนเพจ Buriram United