"โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เผย ไม่กังวล แม้ทัพ "ช้างศึก" จะมีเวลาเก็บตัวฝึกซ้อม ก่อนเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลไชน่า คัพ เพียงแค่วันเดียว เนื่องจากหลายคนเคยเล่นร่วมกันมาแล้วทั้งระดับทีมชาติและสโมสร

 

หลังจาก ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ประกาศรายชื่อ 23 ผู้เล่นชุดลุยศึก ไชน่า คัพ 2019 ที่ มณฑล หนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 21-25 มีนาคม 2562 ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่า เดย์ ซึ่งจะมีการนับ คะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง เนื่องจากเป็นการแข่งขันในระดับ International ‘A’ Match โดย 4 ทีมที่เข้าร่วมแข่งขัน ประกอบด้วย ทีมชาติจีน ในฐานะเจ้าภาพ อันดับ 72 ของโลก, ทีมชาติอุรุกวัย ในฐานะแชมป์เก่า อันดับ 7 ของโลก, ทีมชาติอุซเบกิสถาน อันดับ 89 ของโลก และ ทีมชาติไทย อันดับ 115 ของโลก

 

หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันในครั้งนี้ว่า "ผมได้มีการปรึกษาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคนแล้วจึงตัดตัวผู้เล่นให้เหลือ 23 คนสุดท้าย แม้จะมีเวลาเตรียมตัวน้อย แต่ต้องเข้าใจสถานการณ์ของสโมสรด้วย เพราะอยู่ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลลีก ทุกทีมทั่วโลกเขาเองก็ไม่ได้มีเวลาเก็บตัวยาวเหมือนกันครับ ซึ่งเราจะมาเก็บตัวเป็นสัปดาห์เหมือนเมื่อก่อนคงไม่ได้ครับ"

 

"นักเตะชุดนี้หลายคนเคยเล่นด้วยกันมาแล้ว คิดว่าคงไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก อีกอย่างตอนนี้อยู่ในช่วงเปิดฤดูกาล เรื่องความฟิตคงไม่กังวล ผมเองเพียงแค่ลงรายละเอียดเรื่องแท็คติค ซึ่งเวลาที่เหลือน่าจะเพียงพอ"

 

"อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าเกมนี้เราต้องการหาประสบการณ์จากทีมที่แข็งแกร่งกว่า ซึ่งหากเราได้แชมป์ก็ถือเป็นโบนัส การเจอกับจีนนัดนี้จะแตกต่างจากที่พบกันในเอเชี่ยนคัพ อย่างแน่นอนครับ รายละเอียดต่างๆ คงพูดตอนนี้มากไม่ได้ อยากให้ไปดูในสนามดีกว่าครับ"

 

โดยทีมชาติไทย ชุดใหญ่จะเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมในวันที่ 18 มีนาคม 2562 ที่ สนามบุญยะจินดา เวลา 16.00 น. จากนั้นจะออกเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลไชน่า คัพ 2019 ในวันที่ 19 มีนาคม 2562 ต่อไป

 

สำหรับโปรแกรมการเเข่งขันมีดังต่อไปนี้

 

ทีมชาติจีน พบ ทีมชาติไทย

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2562 เวลา 18.35 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ณ สนามกว่างซี สปอร์ต เซนเตอร์ ,กว่างซีจ้วง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี 32

 

ทีมชาติอุรุกวัย พบ ทีมชาติอุซเบกิสถาน

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2562 เวลา 18.35 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ณ สนามกว่างซี สปอร์ต เซนเตอร์ ,กว่างซีจ้วง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

 

โดยผู้ชนะจะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และผู้แพ้จะลงเล่นนัดชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกัน 25 มีนาคม 2562

ที่มา : FA Thailand