มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามามีส่วนร่วมกับทัพช้างศึกต่อเนื่อง ล่าสุด ฟิลิป โรเลอร์ แบ็คขวาลูกครึ่งไทย-เยอรมัน วัย 23 ปี จาก ราชบุรี

มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามามีส่วนร่วมกับทัพช้างศึกต่อเนื่อง ล่าสุด ฟิลิป โรเลอร์ แบ็คขวาลูกครึ่งไทย-เยอรมัน วัย 23 ปี จาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เป็น 1 ใน 2 แข้งป้ายแดงที่ถูกเรียกเข้ามา ในรายชื่อ 25 คน สำหรับทำการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 45 ระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2560 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

ฟิลิป โรลเลอร์ เพิ่งย้ายจาก เอสซี ออสเตรีย ลัสเตเนา ทีมในออสเตรียลีก 1 หรือ ลีกรองออสเตรีย มาอยู่กับ ราชันมังกร ในช่วงเลกสอง แม้เพิ่งโชว์เพลงแข้งในประเทศไทยไปเพียง 7 นัด (รวมทุกรายการ) แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ มิโลวาน ราเยวัช มอบโอกาสครั้งสำคัญให้กับเขา หลังทำผลงานได้เข้าตา ในระหว่างที่ “โค้ชมิโล” เดินทางไปชมเกมโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย แม้ ราชุบรี มิตรผล เอฟซี จะเปิดบ้านพ่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-1

“ก่อนหน้านี้ผมมีโอกาสตระเวนไปดูผู้เล่นที่สนาม ครั้งหนึ่งผมไปในเกมที่ ราชบุรี พบกับ บุรีรัมย์ แม้ว่า ราชบุรี จะแพ้ในเกมนั้น แต่สิ่งที่ผมเห็นจาก โรลเลอร์  คือเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุด เป็นแบ็คขวาที่รวดเร็ว ดุดัน และแข็งแกร่ง ผมรู้สึกชื่นชอบสไตล์การเล่น เลยตัดสินใจเรียกเข้ามาอยู่ในทีมชุดนี้ แต่ก็ต้องรอดูว่าเขาจะปรับตัวเล่นได้ตามแท็คติคของผมได้มากน้อยแค่ไหน ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเขา ถ้าทำได้ดีประตูสู่ทีมชาติก็เปิดกว้างให้เขาเรื่อยๆ” กุนซือวัย 63 ปี กล่าวถึงลูกทีมคนใหม่

ขณะที่ ฟิลิป โรลเลอร์ มีคุณพ่อเป็นคนเยอรมัน และ คุณแม่เป็นคนไทย เกิดและเติบโตที่เมืองมิวนิค โดยเริ่มต้นฝึกฟุตบอลตั้งแต่อายุได้เพียง 3 ขวบกับอะคาเดมี่แถวบ้าน กระทั่งอายุ 14 ปี เขามีโอกาสเข้าร่วมทีมเยาวชนของ เอสเอสวี อุล์ม 184

จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมและพัฒนาการที่ดีของเขาทำให้ถูก กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค ยักษ์ใหญ่แห่งสวิตเซอร์แลนด์ กระชากตัวไปร่วมทีมเยาวชน นับเป็นการผจญภัยครั้งแรกในต่างแดนขณะที่อายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น

ระว่างที่อยู่กับ กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค โรลเลอร์ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ไม่ธรรมดา เมื่อถูกเรียกขึ้นไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่หลายครั้ง แต่ท้ายที่สุดหลังจากใช้ชีวิตที่ดินแดนนาฬิกาได้ 2  ปี เจ้าตัวตัดสินใจกลับสู่แผ่นดินเกิดของคุณพ่อ เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งครั้งแรกกับ สตุ๊ตการ์ต คิกเกอร์ส ทีมในศึกลีก้า 3 ของเยอรมัน ขณะที่อายุเพียง 19 ปี ก่อนที่ปีถัดมาจะโยกไปอยู่กับ  อิลเลอร์ทิสเซ่น ทีมในลีก 4 ทว่าโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักบริเวณโคนขาหนีบ ส่งผลให้ไม้ได้ลงสนามแม้แต่วินาทีเดียว

แม้เส้นทางค้าแข้งไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ โรลเลอร์ เจ้าหนูวัย 20 ปีไม่คิดยอมแพ้ เมื่อระหว่างนั้นเขามุ่งมั่นทำงานหนักทั้งเรียกความฟิตและรักษาอาการบาดเจ็บ กระทั่ง 6 เดือนต่อมา ได้ย้ายไปอยู่กับ กรุนบัค ทีมในลีกกึ่งอาชีพ (ลีกระดับ 5) ในปี 2014 ก่อนย้ายไปอยู่กับ ซเวบุร๊คเค่น ในฤดูกาล 2014 / 2015 จากนั้นไปอยู่กับ ฟูลเลนดอร์ฟ ในลีก 4 ของเยอรมันเช่นกัน

ฟิลิป โรลเลอร์ โชว์ฟอร์มได้อย่างเฉิดฉายกับ ฟูลเลนดอร์ฟ เมื่อได้ลงเล่นสม่ำเสมอ แสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้เต็มที่ กระทั่งมีโอกาสออกไปผจญภัยต่างแดนครั้งที่ 2 เมื่อถูก ออสเตรีย  ลุสเตเนา ทีมในศึกเอสเตอร์ลีก้า (ทีมดิวิชั่น 1 หรือ ลีกรองของประเทศออสเตรีย) คว้าตัวไปร่วมทัพ ก่อนแจ้งเกิดเต็มตัว โดยเฉพาะฤดูกาลล่าสุด ที่ลงเล่นไป 11 เกม ที่น่าสนใจไปกว่านั้นทีมแพ้แค่ 2 นัดหากมีเขาอยู่ในสนาม

ก่อนที่จุดเปลี่ยนสำคัญจะเข้ามาในชีวิต โรลเลอร์ อีกครั้ง เมื่อ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทีมชั้นนำจากโตโยต้า ไทยลีก ยื่นข้อเสนออยากได้เขาไปร่วมทัพ แม้ก่อนหน้านี้เจ้าตัวจะมีโอกาสมายังประเทศไทย แผ่นดินเกิดของคุณแม่ถึง 5 ครั้ง แต่ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฟุตบอลไทยมากนัก จน ราชันมังกร ต้องใช้เวลาถึง 8 เดือน กระทั่งปิดดีลนี้ได้สำเร็จ โดยการติดทีมชาติไทย เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาย้ายมาที่นี่ และวันนี้เขาทำมันสำเร็จแล้ว

 "ผมภูมิใจมากที่ได้ติดทีมชาติไทยในครั้งนี้ มันสุดยอดมากจริงๆ ที่ได้เล่นในนามทีมชาติ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะได้เล่นให้กับทีมชาติไทยเร็วขนาดนี้ ตอนที่เควิน (ดีรมรัมย์) เล่าเกี่ยวกับทีมชาติไทยให้ฟัง ว่าบรรยากาศในทีมมันดีมาก ผมเองก็รู้สึกอยากเล่น และไม่คาดคิดว่าโอกาสมันจะมาเร็วขนาดนี้จริงๆ"

"วันที่ผู้จัดการทีมราชบุรี (ธนวัชร์ นิติกาญจนา) โทรมาบอกผมว่า ผมถูกทีมชาติเรียกตัวมันตื่นเต้นมาก ตอนที่ผมรู้ผมรีบโทรบอกพ่อแม่ผม พวกท่านบอกว่า พวกท่านภูมิใจมากจริงๆ มันแน่นอนว่าความกดดันรวมถึงอะไรต่างๆ ก็ต้องพุ่งเข้าหาเมื่อคุณได้โอกาสติดทีมชาติ แต่ผมจะพยายามโฟกัสที่ฟุตบอลเพียงอย่างเดียว เพื่อให้มีสมาธิมากที่สุด"

"ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้แฟนบอลไทยมีความสุข แน่นอนเมื่อมีครั้งแรก ผมเองก็หวังว่าตัวจะได้โอกาสติดทีมชาติไทยต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด" โรลเลอร์ ปิดท้ายด้วยแววตาอันมุ่งมั่น

ปัจจุบัน ฟิลิป โรลเลอร์ อยู่ระหว่างเก็บตัวกับ ทีมชาติไทย ที่เกียรติธานี คันทรี คลับ ก่อนลุ้นตัดตัวจาก 25 คนเหลือ 23 คน สำหรับลุยศึกชิงถ้วยพระชานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 รอบแรก ช้างศึก จะพบกับ ทีมชาติเกาหลีเหนือ วันที่ 14 กรกฎาคม 2560 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น.

รู้หรือไม่

1. ฟิลิป โรลเลอร์ เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว มีคุณพ่อเป็นคนเยอรมัน และ คุณแม่เป็นคนไทย จังหวัดบุรีรัมย์
2. ก่อนหน้านี้ที่ ฟิลิป โรลเลอร์ มีโอกาสเดินทางมาประเทศไทย เหตุผลหลักคือเยี่ยมครอบครัวฝ่ายแม่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ก็มีโอกาสไปเที่ยวบ้าง หนึ่งในสถานที่ชื่นชอบมากที่สุดคือพัทยา
3. ฟิลิป โรลเลอร์ มีคุณแม่เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีทีมฟุตบอล ตั้งแต่ บุรีรัมย์ เอฟซี จนถึง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และไม่เคยมีโอกาสเข้าไปชมฟุตบอลสักครั้ง
4. ฟิลิป โรลเลอร์ เป็นแฟนบอลบาเยิร์น มิวนิค มี เมห์เม็ต โชล เป็นผู้เล่นคนโปรด โดยมี ฟิลิป ลาห์ม ซึ่งเล่นแบ็คขวาเหมือนกัน เป็นต้นแบบลูกหนัง
5. ฟิลิป โรลเลอร์ เริ่มเล่นฟุตบอลตำแหน่งกองกลางตัวรุก หมายเลข 10 ก่อนเปลี่ยนมาเล่นแบ็คขวาในปัจจุบัน และยังสามารถเล่นปีกขวาได้ด้วย
6. ฟิลิปป โรลเลอร์ รู้จักกับ ชาริล ชัปปุยส์​ กองกลางชื่อดังเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังเคยร่วมงานกันในทีมเยาวชนของ กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค และมีโอกาสปรึกษากับเพื่อนร่วมทีมรายนี้ ก่อนย้ายมาเล่นที่ประเทศไทย
7. ฟิลิป โรลเลอร์ มีชื่อเล่นว่า ปิโป้ แม้ฟังดูเหมือนชื่อเล่นคนไทย แต่แท้จริงแล้วมาจากภาษาเยอรมัน โดยเอาชื่อหน้า (ฟิลิป) มารวมกับ นามสกุล (โรลเลอร์) ก็เลยเรียกแบบรวบๆเขาว่า “ปิโป้”
8. ฟิลิป โรลเลอร์ รู้จักความสำคัญของศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ เป็นอย่างดี เมื่อเขาเปิดประวัติการแข่งขันรายการนี้ดูทันที ตั้งแต่ทราบข่าวว่ามีชื่อติดทีมชุดนี้
9. ธีรศิลป์ แดงดา คือผู้เล่นที่ดีที่สุดและกองหน้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ในสายตา ฟิลิป โรลเลอร์ แม้ขณะนี้ยังไม่เคยดวลกัน แต่ก็เห็นฝีเท้าจากการชมเกมของทีมชาติไทยย้อนหลัง
10. อาหารไทยที่ ฟิลิป โรลเลอร์ ชอบมากที่สุดคือ ข้าวผัดไก่ และ เสือร้องให้ เพราะคิดว่าเป็นสเต๊กเนื้อของคนเยอรมัน


ที่มา : FA Thailand

คลิกดูรายละเอียด ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45