สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการประชุมคณะกรรมการผู้ตัดสิน ครั้งที่ 4/2560 โดยการประชุมในครั้งนี้ประกอบไปด้วย พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินสมาคมฯ, พัณณิภา คำนึง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินสมาคมฯ และ คณะกรรมการผู้ตัดสิน ร่วมประชุม

 

ซึ่งวาระการประชุมประกอบด้วย การพัฒนาบุคลากร ผู้ประเมินและผู้ตัดสินฟุตซอล, การเตรียมเปิดการอบรมผู้ตัดสิน, การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ตัดสิน, การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินในการแข่งขันระดับประเทศและระดับนานาชาติ, การพัฒนาผู้ตัดสินฟุตซอลหญิงและการปฏิบัติหน้าที่การแข่งขันฟุตซอลลีกหญิง ฤดูกาล 2017 เป็นต้น

 

ภายหลังจากการประชุม คุณพัณณิภา คำนึง หัวหน้าฝ่ายผู้ตัดสินสมาคมฯ ได้กล่าวถึงการประชุมครั้งนี้ว่า “การประชุมครั้งนี้ได้เรามองและวางแผนงานในส่วนของศึกฟุตบอลไทยทุกลีกในฤดูกาลหน้า เกี่ยวกับการทำหน้าที่ผู้ตัดสิน และเตรียมจัดแผนอบรมการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในช่วงปรีซีซั่น พร้อมทั้งเตรียมจัดผู้ตัดสินไปอบรมและฝึกซ้อมการทำหน้าที่ในยุโรป คือ ประเทศตุรกี ซึ่งเรามั่นใจว่าการที่ไปฝึกอบรมที่นั่นจะได้ประสบการณ์การทำงานที่เข้มข้นขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาผู้ตัดสินของประเทศไทยต่อไป”

 

“ทางสมาคมฯ และฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน เตรียมที่จะเพิ่มผู้ตัดสินที่ 5 และ 6 เข้ามาทำหน้าที่ในฤดูกาล 2018 ซึ่งจะมีผู้ตัดสินส่วนนี้ทำหน้าที่ในศึกไทยลีก1 และไทยลีก 2 ทำหน้าที่ในส่วนของหลังประตูทั้งสองฝั่ง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ผู้ตัดสินทำงานกันได้อย่างง่ายขึ้น และตนก็ไม่กังวลจำนวนผู้ตัดสินว่าจะเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากทุกอย่างได้มีการวางแบบแผนไว้หมดทุกอย่างแล้ว รวมไปถึงฟุตบอลลีกเยาวชนเราก็จะมีการเพิ่มผู้ตัดสินในระดับเยาวชน เพื่อวางรากฐานในการสร้างผู้ตัดสินรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ในอนาคต”

 

ส่วนการนำเทคโนโลยีมาใช้ตัดสินในไทยลีก ในอนาคต ทาง พัณณิภา กล่าวว่า “ในส่วนของการเพิ่มเทคโนโลยีการตัดสินในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นระบบวีดีโอชาเลนจ์ หรือเทคโนโลยีโกลไลน์นั้น เรามองว่าต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้ในประเทศไทย แต่ตอนนี้เราไม่มีงบประมาณที่มากพอ ที่จะนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้ได้”

 

“นอกจากนี้ในช่วงโค้งสุดท้ายฟุตบอลลีกในประเทศไทย ฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินได้เข้มงวดและมีมาตรการในการตรวจสอบผู้ตัดสินหากพบว่ามีความไม่ชอบมาพากล เพราะทางท่านนายกสมาคมฯ ได้กำชับมาเป็นพิเศษ ซึ่งเราได้เลือก และจัดผู้ตัดสินที่ทำหน้าได้ดี ไม่มีประวัติเสียหาย ไว้ใจได้ไปทำหน้าที่ในแต่ละเกม มั่นใจได้ว่าจะไม่มีเรื่องความผิดปกติหรือความไม่โปร่งใสอย่างแน่นอน” หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินกล่าวปิดท้าย


ที่มา : FA Thailand