เปิด 10 ประเด็น หลังเกม ลิเวอร์พูล ทะลุผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก

กีฬา
เปิด 10 ประเด็น หลังเกม ลิเวอร์พูล ทะลุผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก

ในที่สุดก็เป็น ลิเวอร์พูล ที่สามารถเบียดเอาชนะ โรม่า ไปได้อย่างหวุดหวิด 7-6 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีกไปพบกับ รีล มาดริด

เกมนัดที่สองของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก รอบรองชนะเลิศ แม้ ลิเวอร์พูล จะกุมความได้เปรียบด้วยสกอร์ที่ยิงตุนไว้ถึง 5-2 แต่ โรม่า ก็แสดงให้เห็นถึงสปริตความเป็นนักสู้ที่สุดยอดด้วยการเอาชนะ ลิเวอร์พูล ในนัดนี้ไปได้ 4-2
 
อย่างไรก็ตาม ด้วยสกอร์ดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ทีมหมาป่าแห่งกรุงโรมพลิกเข้ารอบต่อไปได้ และเป็นฝั่งทีมหงส์แดงที่สามารถทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศ กับ ทีมแชมป์เก่าอย่าง รีล มาดริด
 
โดยนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยน ลีก 2018 ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ รีล มาดริด จะเล่นกันที่สนาม NSK Olympiyskyi ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง เคียฟ ประเทศ ยูเครน ในวันเสาร์ที่ 26 พ.ค. นี้ เวลา ตี 1.45 ตามเวลาในเมืองไทย

 
เปิด 10 ประเด็น หลัง ลิเวอร์พูล ทะลุผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก
 
1. 13 ประตูจากสกอร์รวมทั้งสองเลก 7- 6 ในรอบรองฯ ของการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ โรม่า ถือเป็นสกอร์รวมสูงสุดเท่าที่มีมาในรอบรองชนะเลิศของแชมเปี้ยน ซึ่งเป็นการทำลายสถิติเดิมที่เกิดขึ้นในรอบรองฯเมื่อปี 1998 ระหว่าง โมนาโก กับ ยูเวนตุส ที่ยิงประตูกันรวมสองนัดไป 10 ประตู (ยูเวนตุส ชนะไปด้วยสกอร์ 6-4)
 
2. ในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ โรม่า เสียประตูในการลงเล่นแชมเปี้ยนลีกปีนี้ ขณะที่ การพ่ายแพ้ในนัดนี้ให้กับ โรม่า 4-2 เป็นการพ่ายแพ้นัดแรกของลิเวอร์พูล ในการลงเตะแชมเปี้ยนลีกปีนี้
 
3. ลิเวอร์พูล ทำประตูได้ถึง 20 ลูก ในการเล่นเป็นทีมเยือนในแชมเปี้ยนลีกฤดูกาลเดียว ซึ่งเป็นจำนวนประตูเท่ากับที่ รีล มาดริด เคยทำได้ในแชมเปี้ยนลีกฤดูกาล 2013/14
 
4. ลิเวอร์พูล ยิงประตูรวมในแชมเปี้ยนลีกในฤดูกาลเดียวไปแล้วถึง 46 ลูก ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่สามที่ยิงประตูในแชมเปี้ยนลีกฤดูกาลเดียวเกิน 40 ลูก ถัดจาก บาร์เซโลน่า ที่ยิงได้ 45 ลูกในฤดูกาล 1999/2000 และ รีล มาดริด ที่ยิงได้ 41 ลูกในฤดูกาล 2013/2014
 
5. สามประสานในแดนหน้าของ ลิเวอร์พูล อันได้แก่ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ (10), โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (10) และ ซาดิโอ มาเน่ (9) ทำประตูรวมกันไปแล้วถึง 29 ลูก ทำให้พวกเขากลายเป็นแนวรุกสามประสานที่ทำประตูได้มากที่สุดในแชมเปี้ยนลีกในฤดูกาลเดียว
 
6. ประตูที่ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ทำได้เมื่อคืน เป็นประตูที่ 19 ของเขานับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษ (11 ลูก กับ นิวคาสเซิล และ 9 ลูก กับ ลิเวอร์พูล) แต่เป็นประตูแรกที่เขายิงได้ในเกมที่ลงเล่นเป็นทีมเยือน
 
7. เอดิน เชโก้ ยิงประตูที่ 8 ของเขาได้ในเกมเมื่อคืน ทำให้เขากลายเป็นนักเตะจากสโมสรของอิตาลีที่ทำประตูในแชมเปี้ยนลีกได้มากที่สุดในฤดูกาลเดียว เท่ากับที่ ซามูเอล เอโต้ เคยทำได้กับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อฤดูกาล 2010/2011 
 
8. การพบกันในแชมเปี้ยนลีกรอบชิงชนะเลิศระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ รีล มาดริด ถือเป็นการเจอกันในรอบชิงครั้งที่ 3 ของทั้งคู่ โดยนัดล่าสุดที่เจอกันในรอบชิงเกิดขึ้นเมื่อปี 1981 ซึ่งตอนนั้นยังใช้ชื่อถ้วยนี้ว่ายูโรเปี้ยน คัพ และผลปรากฎว่า ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะ รีล มาดริด ไปได้ 1-0
 
9. ที่ผ่านมาสองทีมที่โคจรมาพบกันในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก (รวมถึงตอนที่ยังใช้ชื่อเดิมว่ายูโรเปี้ยน คัพ) ถึง 3 ครั้ง นอกจาก ลิเวอร์พูล กับ รีล มาดริด แล้ว ยังมี อาแจ็กซ์ กับ ยูเวนตุส และ อาแจ็กซ์ กับ เอซี มิลาน
 
10. ขณะที่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยน ลีก 2018 จะลงเตะกันสนาม NSK Olympiyskyi ที่เมืองเคียฟ ประเทศ ยูเครน ซึ่งมีความจุ 63,000 ที่นั่ง โดยทาง ยูฟ่า จะแบ่งโควต้าตั๋วเข้าชมให้กับแฟนๆ ของสโมสร ลิเวอร์พูล และ รีล มาดริด ฝั่งละ 17,000 ที่ เท่ากัน