10 ที่เที่ยวหน้าฝน ของคนรักธรรมชาติ

กินเที่ยว
10 ที่เที่ยวหน้าฝน ของคนรักธรรมชาติ

หน้าฝนปีนี้เที่ยวไหนดี หลายคนคงตั้งคำถามนี้ในใจ

หน้าฝนปีนี้เที่ยวไหนดี? หลายคนคงตั้งคำถามนี้ในใจกันแล้วใช่ไหมคะ ก็แหมม...พอฝนโปรยปรายทีไร อากาศก็สดชื่นเย็นสบาย ชวนให้อยากออกไปสัมผัสธรรมชาติหน้าฝนจริงๆเลย ในเมื่ออากาศดีขนาดนี้ เรามาแพ็คกระเป๋าหาที่เที่ยวสูดกลิ่นดินกลิ่นหญ้าให้เต็มปอดกันดีกว่า...แค่พูดคงจะไม่เห็นภาพ งั้นเราไปลุย "10 ที่เที่ยวหน้าฝน ของคนรักธรรมชาติ" กันเลยดีกว่าค่า!


ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์



คงไม่มีทุ่งกะหล่ำปลีที่ไหนสวยเกินกว่า ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยามสายฝนโปรยปรายลงมาทักทายในหน้าฝน ก็เป็นเวลาที่เหล่ากะหล่ำปลีดอกใหญ่จะขึ้นเรียงรายละลานตาไปทั่วทั้งภูทับเบิก และหากมาเที่ยวช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. ก็จะมีหมอกลงตลอดทั้งวัน ได้เห็นทะเลหมอกขาวเคล้าไอฝนไกลสุดลูกหูลูกตา แถมอากาศก็สดชื่นเย็นสบายอีกด้วย อย่างที่เขาว่า "นอนทับเบิก..สัมผัสความหนาว..ดูดาวบนดิน" คงไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงเลยว่าไหมล่ะคะ

ที่ตั้ง: หมู่บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ 67120
ติดต่อ: ททท.สำนักงานพิษณุโลก (เพชรบูรณ์ พิจิตร) โทร. 055-252-742-3



ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ



อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวหน้าฝนที่ไม่ควรพลาดเลย คือ ทุ่งดอกกระเจียว ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ โดยเฉพาะช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. ของทุกปี ดอกกระเจียวจะพร้อมใจกันบานสะพรั่งทั่วทั้งผืนป่าและทุ่งหญ้า ออกดอกสีชมพูสดใสท้าทายหยาดน้ำค้าง งดงามราวกับทุ่งสวนสวรรค์ ห่างออกไปจะพบจุดชมวิวที่สูงที่สุดของอุทยานฯ มีลักษณะเป็นผาหินยื่นออกไปนอกแนวภูเขา ที่มองเห็นทิวทัศน์ได้แบบพาโนรามา นอกจากนี้ยังมี ป่าหินงาม หรือ ลานหินงาม ซึ่งเป็นลานหินรูปทรงแปลกประหลาดอายุนับล้านปี รายล้อมไปด้วยดอกไม้ป่านานาชนิด ซึ่งสะกดให้ผู้มาเยือนหลงใหลในมนตร์เสน่ห์ งดงามอย่าบอกใครเลยล่ะค่ะ

ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ 36230
ติดต่อ: อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม โทร. 044-890-105 / ททท.สำนักงานนครราชสีมา (ชัยภูมิ) โทร.044-210-666 และ 044-213-030



ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์


 
หากพูดชื่อ ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ จะต้องนึกถึงภาพสีสันอันสวยงามของทุ่งดอกหงอนนาค ดอกไม้ป่าสีม่วงอ่อนชวนฝันที่เป็นนางเอกของที่นี่ รวมถึงบรรดาดอกไม้ป่านานาพรรณที่ขึ้นดาษดื่นทั่วลานสน ช่วงหน้าฝนในเดือนส.ค.-ก.ย. ของทุกปี ลานสนสามใบ จะเหมาะแก่การไปเที่ยวแบบกางเต็นท์ เพื่อสัมผัสความหนาวเย็นของทะเลหมอกแบบใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีน้ำตกภูสอยดาว ที่มีน้ำใสไหลเย็นชื่นฉ่ำบริเวณทางเดินขึ้นภู และน้ำตกสายทิพย์ อันชอุ่มชุ่มชื่นไปด้วยมอสที่ขึ้นตามโขดหิน...หน้าฝนนี้ ไปพิชิตยอดเขาและชมความงามของทุ่งดอกไม้แสนสวย ณ ภูสอยดาว ให้ได้สักครั้งในชีวิตกันนะคะ

ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ 53110
ติดต่อ: อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทร.055-436-001-2 / ททท.สำนักงานแพร่ (น่าน อุตรดิตถ์) โทร.054-521-118



อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.ปราจีนบุรี




อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.ปราจีนบุรี นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งในหน้าฝน ด้วยพื้นที่อุทยานฯที่ปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบอันอุดมสมบูรณ์ และเป็นป่าลาน ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติแห่งสุดท้ายในประเทศไทย จึงหาดูได้ยากในปัจจุบัน หากอยากจะมาเที่ยวชมความสวยงามของลานที่เริ่มออกดอก แนะนำว่าให้มาช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. ส่วน เดือนสิ.ค.-ก.ย. เพราะดอกลานจะบานอวดโฉมเต็มที่ และบริเวณใกล้เคียงยังมี อ่างเก็บน้ำทับลาน ที่มีภูเขาโอบล้อมอยู่รอบด้าน อากาศเย็นสบายน่าเที่ยว รวมไปถึง น้ำตกทับลาน น้ำตกห้วยใหญ่ และหาดชมตะวัน ที่อยู่ไม่ไกลกันอีกด้วย

ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติทับลาน 520 หมู่ 1 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี 25220
ติดต่อ: อุทยานแห่งชาติทับลาน โทร.0 3721 9408 / ททท.สำนักงานนครนายก (ปราจีนบุรี สระแก้ว) โทร.037-312-282 และ 037-312-284



โครงการหลวงแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน



แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่มีนาข้าวแบบขั้นบันไดเขียวขจีเต็มเนินเขาและสองข้างทาง บ้านแม่ลาน้อยยังมีแปลงผักปลอดสารพิษ แปลงกาแฟอาราบิก้า ฟาร์มแกะและการทอผ้าขนแกะ การตีเครื่องเงิน รวมทั้งไร่เสาวรส ที่มีให้เก็บเกี่ยวในเดือนก.ค.-ธ.ค. อีกด้วย วิธีชีวิตแบบพอเพียงเช่นนี้ ช่วยรักษาและคงความงดงามของธรรมชาติเอาไว้ไม่ให้ถูกทำลายโดยความเจริญตามยุคสมัย สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คุณหลงรักแม่ลาน้อยแบบไม่รู้ตัว

ที่ตั้ง: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย บ้านดง หมู่ 5 ต.ห้วยห้อม อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน 58120
ติดต่อ: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย โทร. 053-619-533-4, 083-324-3062 / ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 05 3612 682-4



บ้านแม่กลางหลวง จ.เชียงใหม่



 
นาข้าวแบบขั้นบันไดที่สวยงามไม่แพ้ใครอีกแห่งซึ่งต้องพูดถึง ก็คือ บ้านแม่กลางหลวง จ.เชียงใหม่ ยามใดที่หน้าฝนมาเยือน เปรียบเสมือนสัญญาณที่บอกว่า ฤดูกาลเที่ยวชมทุ่งนาขั้นบันไดได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ทุ่งนาเขียวขจี ลดหลั่นเป็นขั้นไปตามเนินเขา ท่ามกลางทะเลหมอกอบอวลไกลสุดลูกหูลูกตา ที่นี่ยังมีกิจกรรมเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงเผ่าปกาเกอะญอ ซึ่งพวกเขายินดีให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่นและเป็นมิตรอีกด้วย...คนที่รักธรรมชาติและความเงียบสงบ ลองมาสัมผัสความสุขแบบง่ายๆที่ บ้านแม่กลางหลวง กันนะคะ

ที่ตั้ง: ชุมชนบ้านแม่กลางหลวง ดอยอินทนนท์ หมู่ 17 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50130
ติดต่อ: โครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านแม่กลางหลวง โทร. 089-952-0983 / ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านแม่กลางหลวง โทร.081-029-0598



ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก



หากว่าภูเขาหรือทุ่งดอกไม้สวยๆยังไม่ท้าทายพอสำหรับคุณ งั้นต้องไปล่องแก่งสุดมันส์กันที่ ลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก ที่ใครๆต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันส์พะย่ะค่ะ! และยิ่งเข้าหน้าฝน เดือน มิ.ย-ต.ค. แบบนี้ เป็นช่วงที่เหมาะแก่การล่องแก่งมากที่สุด และได้สนุกตื่นเต้นไปกับสายน้ำอันคดเคี้ยว ที่ลัดเลาะไปตามเกาะแก่งต่างๆตลอดเส้นทาง แถมได้ลุ้นระทึกหวาดเสียวกันกว่า 3 ชั่วโมงเต็มเลยทีเดียวค่ะ...ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ข่าวสารเทศกาลชิมกาแฟแก่งซอง ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ประจำปี 2557 ได้เลย!

ที่ตั้ง: บ้านปากยาง ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก 65220
ติดต่อ: ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทร.055-252-742-3 / ชมรมล่องแก่งพิษณุโลก โทร.087-210-3843



ล่องแก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี



แก่งหินเพิง เป็นสถานที่ล่องแก่งยอดนิยมของ จ.ปราจีนบุรี โดยเฉพาะเมื่อเข้าหน้าฝน ในเดือน ก.ค.-ต.ค..ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลล่องแก่งหินเพิง ให้นักท่องเที่ยวตื่นเต้นท้าทายไปกับกิจกรรมล่องแก่ง ที่ต้องใช้พละกำลังและความสามารถล่องเรือยางฝ่ากระแสะน้ำอันเชี่ยวกราก ฟันฝ่าโขดหินที่กีดขวางอยู่ตามทางผ่านแก่งหินต่างๆ อาทิ แก่งหินเพิง แก่งวังหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า รวมระยะทางประมาณ 2.5 ก.ม. ...เรียกว่าเป็นกิจกรรมตื่นเต้นผจญภัยสำหรับหน้าฝนที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียวค่ะ

ที่ตั้ง: ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี 25220
ติดต่อ: ททท.สำนักงานนครนายก (ปราจีนบุรี สระแก้ว) โทร.037-312-282, 037-312-284


 
เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี



สำหรับคนที่ไม่อยากเปียกฝน ขอพาลงใต้ไปเที่ยวเกาะสวยๆฝั่งอ่าวไทยกันบ้าง ที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพราะที่นี่ไม่มีฝนตกให้รำคาญใจอย่างแน่นอน เกาะสมุยเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยรองลงมาจากเกาะภูเก็ต นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่มีชื่อเสียงอีกด้วย ชายหาดอันสวยงามก็ถือเป็นเสน่ห์ของเกาะสมุยที่ดึงดูดใจผู้มาเยือนไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าจะเป็น หาดเฉวง หาดละไม หาดเชิงมนต์ แหลมโจรคร่ำ หาดท้องยาง หาดพังกา และหาดตลิ่งงาม...มาชวนคนพิเศษไปเที่ยวลั้ลลารับหน้าฝนที่เกาะสมุยก็ไม่เลวนะ..ว่าไหม!

ที่ตั้ง: ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 84140
ติดต่อ: ททท. สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 077-288-818-9 / เทศบาลนครเกาะสมุย โทร.077-421-421



เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี



เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ติดอันดับเกาะน่าเที่ยวที่สุดเป็นอับดับ 1 ของเอเชีย ที่นักดำน้ำทั่วโลกต่างชื่นชมความงามอันน่าอัศจรรย์ของโลกใต้ทะเล เพราะที่นี่มีทั้งจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก อีกทั้งเกาะเต่ายังมีชายหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาพักผ่อนกันมาก อย่าง หาดทรายรี และอ่าวโฉลกบ้านเก่า เพราะอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ และมีถนนหนทางเข้าถึง จึงทำให้การเดินทางสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมี เกาะนางยวน ที่เมื่อมองลงมาจากเกาะเต่าจะเห็นเป็นเกาะเล็ก 3 เกาะเชื่อมต่อกันด้วยหาดทรายสีขาว รายล้อมด้วยน้ำทะเลใสสะอาดตา...ถ้าได้เห็นของจริง รับรองว่าสวยเกินคำบรรยายแน่นอนค่ะ

ที่ตั้ง: ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 84360
ติดต่อ: ททท. สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 077-288-818-9 / เทศบาลตำบลเกาะเต่า โทร.077-601-981-2



ที่มา :