เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน ไปนอนเต็นท์ ทำอาหาร ณ ฟาร์มออแกนิกส์

กินเที่ยว
เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน ไปนอนเต็นท์ ทำอาหาร ณ ฟาร์มออแกนิกส์

เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน ไปนอนเต็นท์ เก็บผัก ทำอาหาร ก่อกองไฟ ณ เชียงดาวออแกนิกส์ฟาร์ม กันดีกว่า ขอบอกว่าถ้าอ่านจนจบคุณจะรีบชวนเพื่อนไปเที่ยวตามรอยแน่นอนค่ะ ฟันธง


ไปเที่ยวเชียงใหม่กันไหม ? ... ไปสิ แล้วจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างอะ ... นั่นสิจะไปเที่ยวเชียงใหม่ที่ไหนกันดี ที่ไม่ใช่ในเมืองหรือสถานที่ฮิต ๆ คนแน่น ๆ O_O อ๊ะ ๆ อย่าปล่อยให้การหาสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่เป็นปัญหาระดับเพื่อนเลยค่ะ ลองมาตามบันทึกการเดินทางของ คุณสมาชิกหมายเลข 1812812 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปเที่ยวเชียงใหม่ในอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นก็คือการขึ้นดอยไปนอนเต็นท์ เก็บผัก ทำอาหาร ก่อกองไฟ ณ เชียงดาวออแกนิกส์ฟาร์ม กันดีกว่า ขอบอกว่าถ้าอ่านจนจบคุณจะรีบชวนเพื่อนไปเที่ยวตามรอยแน่นอน...ฟันธง !!!


ครั้งนี้จะพาลุยเชียงใหม่ เลาะป่าขึ้นภูเขาหน้าฝน ไปกันตอนถนนมันแฉะ ๆ ดินมันลื่น ๆ นี่แหละ ไปใช้เวลาสองวันหนึ่งคืน นอน ๆ กิน ๆ กลิ้งเกลือกกันบน "เชียงดาวออแกนิกส์ฟาร์ม" ลุยยยยยยยยย !!!

เราออกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณเก้าโมงเช้า โดยนั่งรถกระบะกันออกมาทางเส้นแม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว ฝนตกปรอย ๆ หยุดบ้าง ตกบ้างไปเรื่อย วันที่เราไปถึงแม้ว่าจะเริ่มออกนอกตัวเมืองมาแล้ว แต่ถนนยังคงคึกคัก คงเพราะเป็นวันหยุดยาวสี่วัน ขับรถมาเกือบ ๆ ชั่วโมงเราก็มาแวะกันที่ร้านกาแฟฮิมน้ำ ตัวร้านอยู่ตรงด่านตรวจเชียงดาวพอดี คือถ้าขับรถมาทางเส้นทางนี้เห็นแน่ ๆ เพราะยังไงก็ต้องโดนทหารเรียกตรวจ บรรยากาศร้านดีมาก กระท่อมไม้ไผ่ ลำธารสีโคลน บวกกับละอองฝนที่เพิ่งหยุดตกไปหมด ทำให้สีเขียวของต้นไม้ที่อยู่ข้างหน้าเรามันดูเขียวชุ่มชื่นขึ้นไปอีก







เราใช้เวลาอยู่ที่ฮิมน้ำกันเกือบ ๆ ครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็ไปออกเดินทางต่อไปยังน้ำตกศรีสังวาลย์ ตัวน้ำตกอยู่ในเขตอุทยานผาแดง ใช้เวลาขับรถไปต่ออีกประมาณครึ่งชั่วโมง แพลนที่วางกันมาคือจะไปแวะกินข้าวกลางวันที่นั่นก่อน แล้วค่อยลุยต่อไปที่ฟาร์ม












จริงๆ เราเคยมาที่น้ำตกศรีสังวาลย์ก่อนหน้านี้แล้วรอบหนึ่ง ถ่ายรูปไปเยอะมาก ๆ รอบนี้เลยคิดว่าคงไม่มีอะไรให้ถ่ายเพิ่มแล้ว แต่พอมาจริง ๆ กลายเป็นว่าถ่ายรูปกลับไปเยอะกว่าครั้งก่อนอีก ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนน้ำตกเล็ก ๆ กลางป่าใหญ่ ทั้งที่เดินเข้ามาจากตัวอุทยานแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว แต่พอเราเดินเข้าไปเหมือนถูกรายล้อมด้วยต้นไม้เล็ก ๆ ใหญ่ ๆ ทั้งมอสทั้งเฟิร์น ธรรมชาติจุใจมาก ๆ












แถวบริเวณอุทยานแห่งชาติผาแดงนอกจากน้ำตกศรีสังวาลย์แล้ว ยังมีบ่อน้ำพุร้อนโปงอางให้ไปเที่ยวต่อ แต่ถ้าขับรถเลยไปอีกสักพักจะเป็นหมู่บ้านอรุโณทัย หมู่บ้านเล็ก ๆ ออกแนวจีน ๆ เกี๊ยวซ่าอร่อยมากค่ะ !!

หลังจากออกจากน้ำตกเรามุ่งหน้าสู่เชียงดาวออแกนิกส์ฟาร์ม ขับรถขึ้นมากันทางอำเภอเวียงแห ยิ่งขับรถขึ้นมาเรื่อย ๆ หมอกก็ยิ่งลงหนาขึ้น และสัญญาณโทรศัพท์ก็ค่อย ๆ หายไป จนใช้ไม่ได้ในที่สุด เราเอารถที่ขับมากันมาจอดรอหน้าทางเข้าฟาร์มเพื่อที่จะรอรถกระบะที่เป็นโฟร์วีลของคุณลุงเจ้าของฟาร์มมารับ ตรงบริเวณที่จอดรอเป็นหมู่บ้านของชาวลีซอ ตรงนี้จากถนนมองลงไปจะเป็นหุบเขาสูง ๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ และแปลงผักเล็กๆ ของชาวบ้าน













ที่เราต้องรอคุณลุงเจ้าของฟาร์มเอารถโฟร์วีลมารับเข้าไปในฟาร์ม เป็นเพราะว่าถนนที่เข้าไปมันเป็นดินล้วน ๆ บางจุดก็ชันมาก ๆ ไม่พอยังเจอฝนที่ตกเข้าไปทำให้ลื่นอีก รถกระบะธรรมดาจึงเข้าไปไม่ได้ ข้างทางก็เป็นจะหุบเขาสูง ๆ ถนนมีเลนเดียว การขับรถคือจะต้องบีบแตรยาว ๆ กันไว้ เดี๋ยวไปเจอกันระหว่างทางโค้ง คือถ้าไม่บอกก็ไม่รู้เลยว่าข้างในมีฟาร์มอยู่ ถนนอย่าได้ถามถึงความเรียบ สภาพคนในรถและหลังรถนี่กระเด้งกระดอนมาก ๆ










ระยะทางเข้ามาในฟาร์มไม่ไกลเท่าไร แต่ด้วยถนนที่มันลำบากกว่าจะถึงก็เกือบ ๆ ยี่สิบนาที ระหว่างทางที่มาจะผ่านตรงโซนที่ปลูกส้มไว้ด้วย แต่ว่าจะเก็บผลผลิตได้ตอนเดือนพฤศจิกายน หลังจากมาถึงฟาร์มเราก็ขนสัมภาระ กระเป๋า วัตถุดิบที่เตรียมจะมาทำอาหารกันขึ้นไปเก็บบนลานกางเต็นท์ที่อยู่ด้านบนเนิน แล้วก็ลงมาเตรียมตัว เพราะโปรแกรมถัดไปคือคุณลุงเจ้าของฟาร์มจะพาเดินทัวร์แปลงผักต่าง ๆ บริเวณรอบฟาร์ม












ฟาร์มออแกนิกส์ที่นี่มีพื้นที่ประมาณหกสิบไร่ เต็มไปด้วยพืชผักผลไม้ต่าง ๆ ทั้งอะโวคาโด กะหล่ำ บีทรูท ต้นหอมญี่ปุ่น โรสแมรี ลูกพลับ และอื่น ๆ อีกมากมาย วันนี้ที่เรามาค่อนข้างโชคดีเพราะว่าวันนี้ฟ้าค่อนข้างเปิด หลังจากฝนตกติดต่อกันมาสิบกว่าวัน อาจจะมีฝนปรอย ๆ บ้างนิดหน่อย แต่มีเสื้อกันพร้อมเตรียมไว้ให้สบายมาก สภาพทางรอบ ๆ แปลงผักเป็นดินบ้าง หญ้าบ้าง มีทั้งลื่นมากลื่นน้อย (ไม่ลื่นเลยไม่ค่อยมีนะ) ต่างกันไป แต่อย่าได้กลัวนี่รองเท้าบูทก็พร้อม แต่บางคนก็เท้าเปล่ากันนะ สนุกกกกกกกกกกกกกกกก










ระหว่างทางคุณลุงก็จะอธิบายให้ความรู้ไปด้วย แนะนำผักนู่นนี่ ฤดูกาลเก็บเกี่ยวต่าง ๆ ถ้าผ่านไปแปลงไหนผักสามารถเก็บได้คุณลุงก็จะสาธิตการเก็บให้ดู แล้วหลังจากนั้นก็จะให้เก็บกันเอง แต่ว่าช่วงนี้ฝนตกหนักแล้วก็ติดต่อกันมาหลายวัน เลยทำให้ผักบางส่วนที่โตแล้วพร้อมเก็บ แต่เนื่องจากความชื้นเลยทำให้เก็บไม่ได้ เน่าเสียไปบางส่วน










 
ตรงข้างๆ แปลงแครอทฝั่งบนนู้นที่คุณลุงพาไป จะมีจุดชมวิวเล็ก ๆ (คิดเอาเองคุณลุงไม่ได้บอกนะ ฮ่า ๆ) แต่วิวมันไม่เล็กเลย คือมองลงไปจะเป็นไร่ส้มที่ขับผ่านกันมา ต้นส้มมันจะเรียงกันเป็นแถว ๆ สวยมากกกกกกก ถ้ามองตรงไปก็จะเห็นเป็นภูเขาสลับ ๆ กันไป ใกล้เหมือนเอื้อมมือไปจับได้เลย






หลังจากนั้นคุณลุงพาเดินเลาะไหล่ฟาร์มที่กั้นด้วยแนวไผ่ อ้อมไปยังอีกฝั่งตรงโซนเรดโอ๊ค ซึ่งจะอยู่บน ๆ ที่เรากลางเต็นท์พอดี ระหว่างทางเดินที่นี่จะเป็นต้นอะโวคาโดและโรสแมรีซะส่วนใหญ่ แต่ก็จะมีพวกมะม่วง เกาลัดแจม ๆ มาด้วย










มาถึงตรงโซนเรดโอ๊คเราจะเก็บผักจากที่นี่ไปทำสลัดกินกันค่ะ และยังแวะเก็บผักสลัดอื่น ๆ เพิ่มกันอีกนิดหน่อย ทั้งบีทรูท แครอท คุณลุงบอกว่าถ้ามาช่วงหน้าหนาวผักจะอุดมสมบูรณ์กว่านี้เยอะ และทางเดินก็จะไม่ลื่นถึงขนาดต้องใส่บูทด้วย พอเก็บผักเสร็จเราก็เอาผักทั้งหมดไปล้าง แล้วจะเอามาทำมื้อเย็นกินกันตรงลานเต็นท์ค่ะ














ก่อนจะเริ่มลงมือทำอาหารเย็น เราก็จัดการกับอะโวคาโดที่เก็บกันมาเมื่อกี้นี้ซะก่อน ผ่าครึ่ง แงะเมล็ดตรงกลาง ราดนมข้น เรียบร้อยสดมากกกกกกก รสชาติจะออกมัน ๆ แล้วก็หวานนิดหนึ่ง แอบแบบเลี่ยนปากนิด ๆ เหมือนกันนะ








มื้อเย็นวันนี้ข้าวที่ใช้จะเป็นข้าวกล้อง หุงโดยเตาแก๊ส เพราะว่าที่นี่ไฟฟ้ามีแบบจำกัดแค่หกโมงเย็นถึงสามทุ่มเท่านั้น นอกจากนั้นก็ยังมีผัดกะหล่ำปลี ผัดหมูใส่ต้นหอมญี่ปุ่น สลัดผัก ซึ่งผักต่าง ๆ เก็บมาจากการเดินทัวร์ฟาร์มเมื่อกี้นี้ เราทำอาหารกันเยอะมาก ยังกับบุฟเฟ่ต์บนดอย ผักไม่พอก็เดินไปเก็บเพิ่มกัน น้ำสลัดที่คุณลุงเตรียมมาให้ก็อร่อยมาก

จริงๆ อาหารไม่ได้ค่อยแตกต่างจากที่เคยกินตอนอยู่ที่บ้านเท่าไร แต่คงเป็นเพราะหิวด้วย ผักสดด้วย เลยทำให้อร่อยมากกกกกก อีกอย่างโต๊ะกินข้าวเราจะหันออกไปทางแนวภูเขา เป็นฝั่งที่พระอาทิตย์ตกพอดี แต่วิวพระอาทิตย์อะเหรอ ไม่ได้เห็นหรอกเพราะเมฆเอย หมอกเอย ก็ยังคงเยอะอยู่ แต่ไม่เป็นไรเพราะตอนนั่งกินข้าวมัวสนใจอยู่แต่กับอาหาร ลืมพระอาทงพระอาทิตย์ไปหมด










vvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvv

หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จรอบ ๆ ตัวก็เริ่มมืดลง...ถึงเวลาก่อกองไฟ เราว่าเวลามานอนเต็นท์ ขึ้นดอย เข้าป่า ที่ขาดไม่ได้เลยคือการก่อกองไฟนี่แหละ เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่มีอะไร ยิ่งฟาร์มลุงที่สัญญาณโทรศัพท์มาตามลมแล้วก็ลอยจากไปตามลม กว่าจะอัพรูปสักรูปลงไอจีได้ต้องอาศัยเรื่องดวงเข้ามาช่วย เดิน ๆ หาสัญญาณกว่าจะหาได้ กำ...แบตหมดไม่มีที่ชาร์จอีก เพราะฉะนั้นกิจกรรมที่ทำได้คือเผามัน กินเบียร์ ผิงไฟ ย่างหมูเนี่ยแหละ








ตอนกลางคืนอากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าไม่ถึงกับหนาวมาก ท้องฟ้าเปิดด้วยค่ะ แต่เปิดแป๊บเดียวประมาณยี่สิบนาที พอให้เราเห็นดาวกับพระจันทร์นิดหน่อย หลังจากนั้นก็หายจ๋อยยยยยยยยยยย




ตอนเช้ามีตั้งนาฬิกาปลุกด้วย หวังว่าจะได้เห็นพระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่มาจากภูเขาทีละนิด ๆ โผล่หัวจากเต็นท์ไป...ว่างเปล่า แม้แต่ขอบพระอาทิตย์ก็ยังไม่เห็น วันนี้เมฆเยอะอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรรีบเตรียมตัวไปกินข้าวเช้า แล้วเก็บของกัน มื้อเช้าวันนี้ไม่ต่างจากมื้อเย็นเมื่อวานเท่าไร เพราะวัตถุดิบที่ยังเหลือเยอะจากเมื่อวาน ทำให้เราเหมือนมากินบุฟเฟ่ต์แบบไม่อั้นกันจริง ๆ จะมีเพิ่มมาก็เป็นไข่ดาว ขนมปัง ชา กาแฟ โอวัลตินอะไรแบบนี้




ตอนประมาณสักเก้าโมงระหว่างเก็บ ๆ ของจากเต็นท์เตรียมพร้อมจะกลับกัน กลายเป็นว่าฟ้าเปิดเห็นพระอาทิตย์ซะงั้น ไม่ใช่เห็นธรรมดานะ แบบแดดแรงด้วย อากาศข้างบนนี่ไม่แน่นอนจริง ๆ ไหน ๆ แสงก็ดีแล้ว เราเลยไปเดินถ่ายรูปกันสักหน่อยก่อนกลับ
















หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางจากฟาร์มกัน แต่ระหว่างทางออกเราจอดรถแวะถ่ายรูปกันด้วย เพราะมันจะมีถนนช่วงหนึ่งค่อนขว้างกว้าง มองไปเป็นเขาโค้ง ๆ และก็แวะถ่ายรูปกันแถวหน้าหมู่กันอีกรอบด้วยค่ะ










เป็นอันจบทริป จริง ๆ เราว่าขึ้นดอยตอนหน้าฝนก็สนุกไปอีกแบบนะ ไหนคนจะไม่ค่อยเยอะ แถมป่า ต้นไม้ที่เขียวอยู่แล้ว มันยิ่งดูชอุ่มเข้าไปใหญ่ แล้วยิ่งทางระหว่างที่จะขึ้นไปฟาร์มมันเป็นดินล้วน ๆ เจอฝนเข้าไปแล้วยิ่งเพิ่มความลำบาก แต่มันสนุกกกกกกกกกกกกกก็ตรงนี้แหละเนอะ (:

มีเพจด้วยยยยยยย ขอฝากเพจไว้หน่อยนะคะ การเดินทางยิบย่อยครั้งพวกเรา


https://www.facebook.com/assoonasisaw


• 5 วัน 4 คืน ...ค้นหาตัวเองที่วังเวียงกับงบ 3500 บาท http://pantip.com/topic/32781211

• ANGKOR WAT ...แปดชั่วโมงจากกรุงเทพ สู่หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกกับงบ 3000 THB http://pantip.com/topic/33089923

• AYUTTHAYA ONE DAY TRIP https://yyyaammm.wordpress.com/2015/06/03/one-day-trip-ayutthaya/

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1812812 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก As Soon As I Saw



ที่มา :