เมษานี้ต้องไปเซลฟี่กับ อุโมงค์ วิสทีเรีย 80 เมตรให้ได้ !!

กินเที่ยว
เมษานี้ต้องไปเซลฟี่กับ อุโมงค์ วิสทีเรีย 80 เมตรให้ได้ !!

เมื่อพูดถึงการมาญี่ปุ่น เพื่อชมเทศกาลดอกไม้ต่างๆ คนส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงการชมดอกซากุระ

 

เมื่อพูดถึงการมาญี่ปุ่น เพื่อชมเทศกาลดอกไม้ต่างๆ คนส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงการชมดอกซากุระที่ทยอยออกดอกบานสะพรั่งตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนเมษายน แต่คราวนี้เราขออัพเดตเทรนด์ใหม่ด้วยการพาไปชมดอกไม้อีกหนึ่งชนิดในญี่ปุ่นที่มีความงดงามตระการตาแถมมีชื่อเสียงไม่แพ้กัน นั่นก็คือ “ดอกวิสทีเรีย” (Wisteria) ค่ะ
 

วิสทีเรีย (Wisteria) หรือต้นฟูจิเป็นพืชตระกูลถั่ว เติบโตได้ดีแม้ดินมีสารอาหารต่ำ เถาของมันจะเลี้ยวเกี่ยวพันไปกับหลัก ขึ้นไปได้สูงถึง 20 เมตร และแผ่ขยายออกด้านข้างได้ถึง 10 เมตร ดอกของมันจะออกเบียดเสียดกันตามปลายกิ่งที่ห้อยลงเห็นเป็นพวงสวยงาม ถือเป็นดอกไม้ที่พบเห็นได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น และเป็นพันธุ์ไม้ดอกที่คนญี่ปุ่นหลงรักมาเป็นเวลานานค่ะ
 


 
คาวาจิ ฟูจิ การ์เดน ( Kawachi Fuji Garden/河内藤園 )


สถานที่ชมดอกวิสทีเรียที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ก็ต้องเป็นที่สวนคาวาจิ ฟูจิ การ์เดน (Karachi Fuji Garden) ในเมือง คิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ ที่มีซุ้ม อุโมงค์วิสทีเรีย ให้เดินลอดเป็นทางยาว เรียกได้ว่าเป็นสถานที่แสนงดงามราวกับเดินอยู่ในอุโมงค์แห่งสรวงสวรรค์ในฝันเลยทีเดียว
 
Kawachi Fuji Garden เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ.1977 ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่ตรงบริเวณตัว อุโมงค์วิสทีเรีย ที่เป็นทางเดินยาว 80 เมตร และ 220 เมตร บริเวณนี้เองที่ทำเอาหลายคนตะลึงไปกับความงดงามดั่งภาพวาดของดอกวิสทีเรีย (Wisteria) ในเฉดสีที่แตกต่าง 22 สายพันธุ์รวมทั้งสิ้น 150 ต้น ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งห้อยระย้าไปจนสุดทางของอุโมงค์ บางดอกห้อยระย้าให้เห็นชัดได้ในระดับสายตา แถมยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ และที่เด็ดสุดคือคุณจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับ ต้นวิสทีเรียอายุกว่า 100 ปีตรงสุดทางเดินนั่นเอง และด้วยความสวยงามของดอกไม้ที่นี่ สวน Kawachi Fuji Garden จึงได้รับการจัดลำดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่นโดย CNN อีกด้วยค่ะ
 
 
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชม อุโมงค์วิสทีเรีย คือช่วงปลายเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม หรือกินเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ (แต่อาจจะมีการคลาดเคลื่อนไปบ้างตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปีค่ะ อย่าลืมเช็คข่าวสารกันให้ดีก่อนวางแผนการเดินทางนะจ๊ะ)
 
สวน Kawachi Fuji Garden จะเปิดให้เข้าชมปีละ 2 ช่วงฤดู คือ ฤดูชมดอกวิสทีเรีย (กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม) และฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสี (กลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคม)
 
 
ช่วงเวลาการแสดง: วันเสาร์ที่ 15 เมษายน – วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2560
เวลาทำการ: 07.00 – 18.00 น. (ช่วงชมสวนประดับไฟ จนถึงเวลา 21.00 น.)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม: ผู้ใหญ่ 900 – 1,700 เยน / เด็ก 500 – 800 เยน
ช่วงเวลาเปิดชมสวนประดับไฟ: วันเสาร์ที่ 22 เมษายน – วันอาทิตย์ 14 พฤษภาคม 2560
เวลาทำการ (ช่วงย็น) : 17.30 – 21.00 น.
ค่าเข้าชมสวน (ช่วงเย็น) : ผู้ใหญ่ 600 – 1,400 เยน / เด็ก 300 – 700 เยน
* ค่าเข้าชมสวนกับช่วงเวลาชมสวนประดับไฟ ราคาค่าเข้ามีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาที่ดอกไม้บาน
* บัตรเข้าชมสวนช่วงเย็นจะจัดจำหน่ายตั้งแต่ 17.30 น. และสามารถอยู่ชมได้จนกระทั่งปิดบริการ
การเดินทาง: จากสถานี JR Hakata (Fukuoka) ขึ้นรถไฟสาย Kagoshima Main Line ไปลงที่สถานี JR Yahata จากนั้นต่อรถบัส Nishitetsu สาย 56 แล้วลงที่ป้าย Kawachi Elementary School เดินอีก 10-15 นาทีจะถึงสวน
พิกัด:
 

 
 
สวนอาชิคางะ (Ashikaga Flower Park /あしかがフラワーパーク)
 
 
สวนอาชิคางะ ตั้งอยู่ที่เมืองอาชิคางะ จังหวัดโทชิกิ โดยอยู่ห่างจากโตเกียวไปเพียงราว 80 กิโลเมตร แถมยังสามารถเดินทางจากโตเกียวได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทาง มาญี่ปุ่น สามารถเดินทางมาที่นี่แบบไปเช้า-เย็นกลับกันเป็นจำนวนมากค่ะ
 
ที่สวนแห่งนี้มีต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ที่มีอายุถึง 150 ปี และยังมี อุโมงค์วิสทีเรีย สีขาวที่มีความยาวถึง 80 เมตร นอกจากนี้ภายในอุโมงค์ยังมีดอกวิสทีเรียสีเหลืองและวิสทีเรียสายพันธ์อื่นๆ ที่ออกดอกบานสะพรั่งอีกมากกว่า 350 ต้นเลยทีเดียว นอกจากดอกวิสทีเรีย ที่นี่ยังมีดอกไม้นานาสายพันธุ์ให้ได้เดินชมกันในสวนที่มีความกว้างเกือบ 2,000 ตารางเมตร!!!
 

 
สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการมาชม อุโมงค์วิสทีเรีย คือช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมค่ะ เพราะช่วงนั้นดอกวิสทีเรียจะออกดอกบานสะพรั่งแบบสวยงามที่สุด
 

 
เวลาทำการ: 09.00 – 18.00 น. (เดือนมีนาคม-ปลายเดือนพฤศจิกายน)
10.00 – 17.00 น. (ปลายเดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม: ผู้ใหญ่ 900 – 1,700 เยน / เด็ก 500 – 800 เยน
การเดินทาง: นั่ง JR จาก Ikebukuro ไปลงที่สถานี Oyama จากนั้นต่อ JR Ryomo Line ไปลงที่สถานี Tomita และเดินต่ออีก 10 นาที / หากมี JR Pass สามารถนั่ง Shinkansen ไปลงสถานี Oyama ก่อนจะต่อขบวน Ryomo Line ไปลงที่สถานี Tomita
พิกัด:
 

 
 
ศาลเจ้าคะเมโดะเท็นจิน (Kameido Tenjin Shrine/亀戸天神社)

 
ศาลเจ้าคะเมโดะเท็นจินนับว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมดอกวิสทีเรียหรือดอกฟุจิในโตเกียวค่ะ เบื้องล่างโครงไม้ระแนง คือสระน้ำที่เงียบสงบสร้างภาพสะท้อนอันสวยงามไม่เหมือนใครของดอกไม้สีม่วงบนผิวน้ำ ดอกวิสทีเรียที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ในบันทึกระบุว่าสึนะโยชิ โชกุนโทคุงาวะลำดับที่ 5 และโยชิมุเนะ โชกุนโทคุงาวะลำดับที่ 8 ได้เคยเดินทางมาเยี่ยมชม ด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เงาสะท้อนจากบ่อน้ำสะท้อนสีม่วงของดอกวิสทีเรียที่ห้อยระย้าลงมายาวเป็นทางเดิน เรียกได้ว่าเป็นบรรยากาศที่หาได้ยากท่ามกลางสังคมเมืองจริงๆ ค่ะ
 

 
ช่วงเวลาให้เข้าชม: ปลายเดือนเมษายน- ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
การเดินทาง: จากKameido Station (Sobu Line) ออก North Exit เดิน15นาที/ จาก Kinshicho Station (Sobu Line หรือ Tokyo Metro Hanzomon Line.) ออก North Exit เดิน15นาที
พิกัด:
 

 
 

 
เห็นความสวยงามของดอกวิสทีเรียแล้วต้องพูดเลยค่ะว่า เมษานี้ ถ้ามาญี่ปุ่น แล้วต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว เพราะโอกาสสุดพิเศษที่จะได้ชมดอกวิสทีเรียแบบนี้มีเพียงหนึ่งครั้ง คือเฉพาะฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นเท่านั้นเอง เพื่อนๆ คนไหนที่ตั้งใจจะไปเซลฟี่กับอุโมงค์ต้นวิสทีเรียก็อย่าลืมเก็บรูปมาฝากชาวมัชรูมทราเวลกันด้วยนะจ๊ะ


ที่มา :