เที่ยวตะวันออกกลาง เปิดประสบการณ์มุมมองใหม่ กับที่เที่ยวโดนใจ

กินเที่ยว
เที่ยวตะวันออกกลาง เปิดประสบการณ์มุมมองใหม่ กับที่เที่ยวโดนใจ

เมื่อนึกถึงการเที่ยวต่างประเทศ หลายคนอาจไม่เคยนึกถึงเส้นทาง เที่ยวตะวันออกกลาง เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัยบ้าง อาจไม่ใช่เส้นทางยอดนิยม หรือกลัวสื่อสารไม่รู้เรื่อง

แต่แท้ที่จริงแล้ว แม้ว่าในบางประเทศของตะวันออกกลางอาจจะมีความไม่สงบอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายสถานที่ที่เราสามารถไปเที่ยวได้ ซึ่งขอบอกเลยว่าจะเป็นที่ที่ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจจนต้องร้องว้าว! และไม่จำเป็นที่คุณต้องสื่อสารภาษาท้องถิ่นได้แบบฉะฉาน แค่ใช้คำพูดหรือภาษามือง่ายๆ ก็โอเคแล้ว.... ไม่พูดพร่ำทำเพลง มาดูกันดีกว่า ว่าสถานที่ท่องเที่ยวสุดเจ๋งที่ Mushroom Travel จะมานำเสนอนั้นเป็นยังไง แล้วคุณจะรู้ว่า เที่ยวตะวันออกกลาง มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด
 
ตุรกี

 
ตุรกี ประเทศสุดคลาสสิกต้นกำเนิดของอารยธรรมโบราณ ซึ่ง อิสตันบลู ก็คือเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ในฝั่งตะวันออกนั่นเอง ภายหลังอาณาจักรโรมันล่มสลายลง สุลต่านเมห์เมตที่ 2 แห่งอาณาจักรออตโตมันก็ได้เข้าครอบครองกรุงคอนสแตนติโนเปิล และเปลี่ยนชื่อเป็นอิสลามบูล (นครศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม) ความยิ่งใหญ่ของตุรกียังหมายรวมถึงพื้นที่ที่ใหญ่และครอบคลุมถึง 2 ทวีปคือ ยุโรปและเอเชีย นั่นหมายความว่าประเทศนี้จะมีร่องรอยของอารยธรรมอันเก่าแก่ให้เราได้เที่ยวชมได้แบบฟินคูณสอง นอกจากนี้การเดินทางมา ทัวร์ตุรกี ของคนไทย ไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยาก สามารถอยู่เที่ยวได้ถึง 30 วัน
 
 
ถ้าพูดถึงตุรกีแล้ว เมืองนี้ถือเป็นลิสต์อันดับแรกๆที่ผู้คนอยากจะมาเยือนแน่นอน นั่นคือ คัปปาโดเกีย เมืองนี้เต็มไปด้วยภูเขาหินรูปทรงแปลกตา บ้างมองเป็นโคนเห็ด หรือเป็นปล่องไฟแหลม เกิดจากการกัดเซาะของลมและฝน รวมทั้งหุบเหวร่องลึก (Canyon) และพื้นที่โดยรอบที่ขรุขระนั้นก็เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเช่นกัน ความมหัศจรรย์ของประติมากรรมธรรมชาติที่นี่ ทำให้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1985 ด้วย ซึ่งเราสามารถเที่ยวแบบ Day Tour ชมสถานที่แปลกตาใน 1 วัน ไม่ว่าจะเป็น Selime Monastery ศาสนสถานขนาดใหญ่ของนักบวชศาสนาคริสต์ในสมัยนั้น ที่มีการเจาะช่องหินใหญ่ทำเป็นห้องครัว ห้องนอน ว่ากันว่านี่คือฉากหนึ่งในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Star Wars ด้วย หรือเมืองใต้ดิน Derinkuyu ซึ่งเป็นเมืองที่ขุดลงไปใต้ดินจริงๆ เป็นที่หลบภัยของชาวเมืองที่ถูกรุกรานในสมัยก่อน ที่มีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ และอีกสถานที่ที่ห้ามพลาดคือ ปราสาท Uchisar ภูเขาหินพิเศษนี้เป็นจุดสูงสุดในพื้นที่ ภายนอกเห็นเป็นช่องหน้าต่างมากมายคล้ายรวงผึ้ง ซึ่งภายในสามารถเข้าชมได้ จากตัวปราสาทจะเห็นวิวทั่วบริเวณแบบสุดสายตา
 
และกิจกรรมที่น่าสนใจแบบพลาดไม่ได้เด็ดขาดเมื่อมายังคัปปาโดเกียคือ การขึ้นบอลลูน ชมทัศนียภาพของเมืองในมุมสูง 1,500 เมตรเหนือพื้นดิน คุณจะตื่นเต้นที่ได้เห็นภาพวิวแบบพาโนรามา และเพลินตาจนต้องกดชัตเตอร์ภาพรัวๆ เลยล่ะ
 
 
เอฟิซุส (Ephesus) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่อยากให้คุณพลาดเมื่อมาถึงตุรกี เพราะที่นี่คือเมืองโบราณที่มีอายุเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลจนถึงยุคกรีก และเจริญสุดขีดในยุคโรมัน ใครที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ในช่วงสมัยประวัติศาสตร์ตอนต้น จะยิ่งอินกับสถานที่แห่งนี้มาก มาถึงเมืองโบราณสำคัญแล้ว ต้องปักหมุดเข้าชมอาคารหอสมุด (The Library of Celsus) ที่มีศิลปะแบบเฮเลนนิสติก ซึ่งเป็นยุคศิลปะรุ่งเรืองในสมัยกรีกโบราณ แม้จะถูกเผาทำลายไปโดยชาวกอธในสมัยนั้น แต่ก็ยังคงหลงเหลือซากอาคารหินอ่อนขนาดใหญ่มหึมา
 
ที่ด้านหน้ามีรูปแกะสลักของเทพเจ้า 4 องค์คือ เทพีแห่งปัญญา(Ennoia) เทพีแห่งคุณธรรม(Arete) เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด(Sophia) และเทพีแห่งความรู้(Episteme) แสดงความยิ่งใหญ่ในอดีต นอกจากนี้ยังมีโรงมหรสพเอฟิซุส (The Grand Theatre) ซึ่งมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สามารถจุได้มากกว่า 25,000 คน มีลานแสดง Gladiator คนสู้กับสิงโตอันดุเดือด (นักสู้เหล่านั้นล้วนเป็นทาส) เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานของคนโรมันในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีวิหารเฮเดรียน (Hadrian’s Temple) สร้างเพื่อถวายแก่จักรพรรดิฮาเดรียน ด้านหน้ามีเสาสลักหัวแบบโครินเธียน ตรงกลางของครึ่งวงกลมสลักหัวเมดูซ่า และแหล่งอารยธรรมโบราณที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่รอบบริเวณอีกมากมาย ให้คุณย้อนเวลากลับไปทึ่งกับความยิ่งใหญ่ในอดีต แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมเอฟิซุสถึงได้รับการขนานนามว่า มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย
 
อียิปต์

Cr.flickr / memphistours_1955
 
อียิปต์ จุดเริ่มต้นอันยิ่งใหญ่ที่ถือเป็นรากแก้วของอารยธรรมตะวันตก มาถึงอียิปต์แล้ว สถานที่ที่ห้ามพลาดเด็ดขาดนั่นคือ พีระมิดแห่งกิซ่า หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ทำไมถึงเรียกว่าพีระมิดแห่งกิซ่า เพราะที่อียิปต์มีพีระมิดหลายแห่ง แต่พีระมิดที่ยิ่งใหญ่และมหึมาที่สุดอยู่ที่เมืองกิซ่า พีระมิดนี้เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัย ฟาโรห์คูฟู (Khufu) แห่งราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งปกครองอียิปต์โบราณ เมื่อประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล ใช้เป็นที่เก็บรักษาพระศพ ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณเรื่องการฟื้นคืนชีพของคนตาย (วิญญาณเป็นอมตะ) พีระมิดนี้เดิมสูงถึง 147 เมตร หรือ ประมาณตึก 40 ชั้น แต่ส่วนยอดโดนกัดเซาะจากพายุทรายไปบ้าง จึงคงความสูงที่ประมาณ 138 เมตรในปัจจุบัน ตามแหล่งข้อมูลปรากฏว่าจำนวนหินที่นำมาก่อสร้างมีมากกว่า 2 ล้านก้อน หนักเฉลี่ยก้อนละ 2.5 ตัน เรียงทำมุมองศาขึ้นไปกว่า 200 ชั้น รวมเป็นน้ำหนักกว่า 6 ล้านตัน!
 
Cr.flickr / Alibabahk
 
บริเวณโดยรอบยังมีพีระมิดที่น่าสนใจอีก 2 แห่งคือ พีระมิดฟาโรห์คาเฟร์ (Khafre) ที่ใกล้กันมีสฟิงซ์ รูปแกะสลักจากหินปูนเพียงก้อนเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอียิปต์ ว่ากันว่าเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์คาเฟ่ร์ ซึ่งหลังจากยุคของฟาโรห์คาเฟ่ร์กว่า 1,200 ปี มีเรื่องราวเล่าว่า เจ้าชายอียิปต์องค์หนึ่งเดินทางผ่านมายังสฟิงซ์นี้ ซึ่งในตอนนั้นมีเพียงส่วนศีรษะที่โผล่พ้นทรายขึ้นมา ครานั้นที่เจ้าชายผลอยหลับไป มีเทพเจ้ามาเข้าฝันและบอกว่า ถ้าพระองค์นำทรายที่ทับถมสฟิงซ์ออกทั้งหมด จะได้เป็นใหญ่ (เจ้าชายที่ว่าได้ขึ้นมาเป็นฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 4 แห่งราชวงศ์ที่ 18 ในเวลาต่อมา) เรื่องราวนี้ปรากฏในศิลาแห่งความฝัน (Stele of the Dream) ที่อยู่ข้างๆ สฟิงซ์ และยังมี พีระมิดฟาโรห์เมนคูเร (Menkaure) อยู่ไม่ไกลกัน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมภายในพีระมิดได้ ภายในมีห้องฝังพระศพของฟาโรห์แต่ละพระองค์ นอกจากนี้กิจกรรมยอดนิยมที่ขอแนะนำคือการขี่อูฐชมพีระมิด ให้คุณได้ทึ่งกับความสามารถและวิทยาการของคนอียิปต์เมื่อ 4,000 กว่าปีก่อน ที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในปัจจุบันถึงการสร้างสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไปเปิดโลกกับอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวอันน่าตื่นเต้นกับ ทัวร์อียิปต์ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมพีระมิดแห่งกิซ่าถึงได้รับยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
 
ดูไบ

 
ดูไบ เมืองทะเลทรายที่กลายเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เป็นนครใหญ่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งสถานที่ที่มีชื่อเสียงและอยากชวนคุณไปตื่นตาตื่นใจคือ ทะเลทรายอาหรับ (Arabian Desert) หรือ ทะเลทรายซาฟารี (Desert Safari) ซึ่งกว้างใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก มีพื้นที่มากกว่า 2,300,000 ตารางกิโลเมตร เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่าอาหรับที่เร่ร่อนไปในทะเลทราย (เบดูอิน) กันเถอะ
 
ไฮไลท์อยู่ที่ การนั่งในรถโฟร์วีล ที่ล้อจะเคลื่อนไปตามเนินสูงต่ำสลับกันไป ดริฟต์กันมันส์ ตื่นเต้นแกมหวาดเสียว จนคิดว่ากำลังอยู่ในภาพยนต์ Fast & Furious ยังไงยังงั้น แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะคนขับเชี่ยวชาญเส้นทางและรถที่ใช้ก็มีการตรวจสอบคุณภาพเป็นประจำ ภาพที่เราจะได้เห็นเป็นทะเลทรายอันกว้างใหญ่สุดสายตาแบบที่เคยเห็นในทีวี เป็นกิจกรรมสุดระทึกใจที่ห้ามพลาดเด็ดขาดมาถึงดูไบ หรือจะลองขี่อูฐเดินท่ามกลางทะเลทรายอันไกลโพ้น หรือให้อาหารเหยี่ยวตัวยักษ์แบบใกล้ชิด…ก็สนุกทั้งนั้น นอกจากนี้ยังมีการตั้งแคมป์ปิ้งกลางทะเลทราย ปิ้งบาร์บีคิวร้อนๆ พลางจิบชา ชมความสวยงามของทะเลทรายยามพระอาทิตย์ตกดิน เชื่อว่าการท่องไปในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุดคูลนี้ จะเป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวที่คุณไม่มีวันลืมแน่นอน (คุณสามารถเลือกซื้อทัวร์ท้องถิ่นที่มีบริการทัวร์ทะเลทรายได้)
 
 
นอกจากทะเลทรายแล้ว ดูไบยังเป็นมหานครที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างทันสมัยและผังเมืองที่น่าทึ่งสุดๆ ไปเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวที่คนชอบเที่ยวสายลุยต้องไป ทัวร์ดูไบ ด้วยตัวเองให้ได้สักครั้งนะคะ
 
การท่องเที่ยวก็คือการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเรา แค่คุณก้าวออกไปจากที่เดิมๆ เท่านั้นก็จะได้พบกับมุมมองแปลกใหม่ที่สร้างแรงบันดาลใจได้อีกมากมายเลยล่ะค่ะ สำหรับการ เที่ยวตะวันออกกลาง ในบางประเทศยังคงน่าสนใจและรอให้คุณเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง ใครชอบแบบลุยๆ จะเที่ยวเองก็ได้ แต่ถ้าอยากได้ความสะดวกสบายไร้กังวล แนะนำว่าเที่ยวกับทัวร์ก็ดีที่สุดค่ะ ได้เที่ยวครบถ้วน ในราคาสุดคุ้ม Mushroom Travel มีเส้นทางแสนวิเศษให้คุณเที่ยวอย่างมั่นใจ คลิกชมโปรแกรม ทัวร์ต่างประเทศ ได้เลย ขอให้สนุกกับการเดินทางนะคะ


ขอบคุณข้อมูลจาก mushroomtravel