5 พ.ย 57 : กรุงเทพฯ - พุทธคยา
|
|
10.00 น.
|
พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ C 18-19 สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
|
12.10 น.
|
ออกเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 327
|
14.10 น.
|
ถึงสนามบิน เมืองคยา รัฐพิหาร (เวลาอินเดียช้ากว่าไทยประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากรแล้ว คณะออกเดินทางเข้าสู่เมือง พุทธคยา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
|
บ่าย
|
ชมบริเวณ บ้านนางสุชาดา และชมบรรยากาศแม่น้ำเนรัญชรา สถานที่สำคัญอีกแห่งในคยาที่ผู้จาริกแสวงบุญจะต้องเยี่ยมชม สุชาดา เป็นลูกสาวของเศรษฐีแห่งตำบล อุรุกเวลาเสนานิคม นางสุชาดาเป็นคนที่นำถาดทอง ใส่ข้าวมธุปายาส (ข้าวที่หุงกวนด้วยน้ำนม) ถวายแด่เจ้าชายสิทธัตถะด้วยเข้าใจว่า เจ้าชายสิทธัตถะที่นั่งสงบอยู่ใต้ต้นไม้ คือรุกขเทวดาที่ช่วยนางได้ลูกชายสมปรารถนาซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ท่านตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากที่เสวยข้าวมธุปายาสเรียบร้อยแล้ว ท่านได้ทำการเสี่ยงทายโดยตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าหากท่านได้ตรัสรู้แจ้งเห็นจริง ขอให้ถาดทองลอยทวนน้ำ ปรากฎว่าถาดทองได้ลอยทวนน้ำตามคำที่ท่านอธิษฐานไว้จริงๆ
นำคณะเยี่ยมชม วัดพุทธนานาชาติ อาทิ วัดญี่ปุ่น วัดภูฐาน นมัสการพระพุทธรูปองค์ใหญ่กลางแจ้ง “ ไดบุสสึ” (ซึ่งสร้างโดยชาวญี่ปุ่น) นมัสการ พระเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ หรือ มหาโพธิหาร พระเจ้าอโศกมหาราช จักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมริยะ ทรงสร้างขึ้นเป็นเจดีย์เล็กๆ ภายหลังได้รับการบูรณะ ต่อเติมโดยกษัตริย์ราชวงศ์ปาละ แห่งแคว้นเบงกอล ต่อมาในปีพุทธศักราช 1740 พระมหาเจดีย์ถูกทำลายโดยพวกเติร์กมุสลิม จนกระทั่งในปีพุทธศักราช 2134 รัฐบาลอังกฤษที่เข้ามาปกครองอินเดียได้อออกบูรณะ โดยให้ ลอร์ด คันนิงแฮม อธิบดีแห่งองค์การสำรวจโบราณคดีแห่งอินเดียซึ่งเป็นชาวอังกฤษเข้ามาขุดสำรวจ ต่อมามีการบูรณะขึ้นใหม่ ปัจจุบันพระเจดีย์มีความสูง 170 ฟุต วัดฐานโดยรอบได้ 121 เมตร รูปทรงสี่เหลียม ด้านหลังพระเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ยืนต้นอยู่ ซึ่งเป็นหน่อที่ 4 ปลูก โดยลอร์ด คันนิงแฮม ได้เอาหน่อของต้นเดิมมาปลูกใหม่ในที่เดิมในปี พุทธศักราช 2423 นับได้ร้อยกว่าปีมาแล้วและนมัสการ พระพุทธ เมตตา ซึ่งเป็นพระพุทธปางมารวิชัย ที่สร้างด้วยหินแกรนิตสีดำ อายุกว่า 1,400 ปี นมัสการพระแท่นวัชอาสน์ อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรม และ มุจลินทร์ (ถ้านำกล้องถ่ายรูปเข้าบริเวณต้นโพธิ์เสียค่าธรรมเนียมดังนี้) กล้องถ่ายรูปธรรมดา 100 รูปี / กล้องวีดีโอ 1000 รูปี |
ค่ำ
|
|
6 พ.ย 57 : พุทธคยา – ราชคฤห์ - นาลันทา –พุทธคยา
|
|
07.00 น.
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
08.00 น. |
หลังจากนั้น เดินทางสู่ เมืองราชคฤห์ ของแคว้นมคธ เป็นแหล่งรุ่งเรืองด้วยอำนาจและการค้าขาย เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงธรรมชาติ คือเบญจคีรีนคร หรือภูเขา 5 ลูกได้แก่ เวภาระ เวปุละ คิชฌกูฏ อิสิคิลิ และปัณฑวะ ในสมัยพุทธกาล พระราชาผู้ครองนครนี้คือ พระเจ้าพิมพิสาร
นำท่านเดินขึ้น เขาคิชกูฏ หนึ่งใน เบญจคีรี ชมวิวทิวทัศน์ ที่สวยงาม นมัสการถ้ำพระโมคคัลลานะ ชม ถ้ำสุกรขาตา สถานที่ที่พระสารีบุตรสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ชม กุฏีของ พระอานนท์ นมัสการมูลคันธกุฏี สถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าไหว้พระสวดมนต์ที่ยอดเขาคิชกูฎ (การขึ้นเขาคิชกูฏ เป็นการเดินทางขึ้นสู่ที่สูงลาดชัน แบบขั้นบันได ระยะทางประมาณ 750 เมตร รถยนต์ไม่สามารถขึ้นไปได้ สำหรับท่านที่ไม่สะดวกในการเดินขึ้น ท่านสามารถใช้บริการ “เสลี่ยง” ทั้งขาขึ้นและขาลง ค่าบริการประมาณ 1,200 รูปี และค่าทิปคนแบกเสลี่ยง 200 รูปี รวมเป็น 1,400 รูปีซึ่งไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดเวฬุวนาราม มหาสังฆยิกาวาส วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา และเป็นสถานที่แสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระอริยสงฆ์ 1250 องค์ มีสถูปที่บรรจุพระอัฐิธาตุ ของพระโมคคัลลานะและพระอัญญาโกญฑัญญะ |
เที่ยง
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
หลังอาหาร นำท่านชม มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นศูนย์การศึกษาในสมัยพุทธกาล ต่อมาในปีพ.ศ. 1742 กองทัพมุสลิมเติรกส์ได้ยกทัพมารุกรานรบชนะกษัตริย์แห่งชมพูทวีปฝ่ายเหนือ กองทัพมุสลิมเติร์กได้เผาผลาญทำลายวัด และปูชนียสถานในพุทธศาสนาลงแทบทั้งหมด และสังหารผู้ที่ไม่ยอมเปลี่ยนศาสนานาลันทามหาวิหารก็ถูกเผาผลาญทำลายลงในช่วงระยะเวลานั้น ว่ากันว่า ไฟที่ลุกโชน เผานาลันทานานถึง 3 เดือนกว่าจะเผานาลันทาได้หมด จากนั้นนำท่านนั่งรถม้าเข้าไป กราบสักการะหลวงพ่อองค์ดำ หรือ หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์ ซึ่งชาวอินเดียเรียกท่านว่า หลวงพ่ออ้วนหรือหลวงพ่อน้ำมันศักดิ์สิทธิ ซึ่งชาวอินเดียเคยนำน้ำมันจากองค์ พระใช้นวดตามร่างกายที่เจ็บแล้วอาการเจ็บป่วยนั้นค่อยๆทุเลาหายไป หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองพุทธคยา |
ค่ำ |
รับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม
พักที่ BODHGAYA REGENCY หรือเทียบเท่า |
7 พ.ย 57 : พุทธคยา
|
|
07.00 น.
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำทุกท่าน "ทอดผ้าป่า ณ พระอุโบสถวัดไทยพุทธคยา" ร่วมทอดผ้าป่าถวายพระสงฆ์ ณ พระอุโบสถวัดไทยพุทธคยา เชิญร่วมบูชาใบโพธิ์ และเช่าบูชาพระพุทธเมตตาที่วัดไทยพุทธคยา หลังจากนั้นพาท่าน นั่งปฏิบัติสมาธิและเจริญจิตภาวนาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ |
เที่ยง
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร โรงแรม
หลังจากนั้นพาท่านนั่งปฏิบัติสมาธิและเจริญจิตภาวนาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ อิสระช้อปปิ้งร้านค้าหน้าพระมหาเจดีย์ พุทธคยาตามอัธยาศัย |
ค่ำ
|
รับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม
พักที่ BODHGAYA REGENCY หรือเทียบเท่า |
8 พ.ย 57 : พุทธคยา - พาราณสี
|
|
07.00 น.
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
08.00 น.
|
ออกเดินทางสู่ เมืองพาราณสี (ระยะทาง 260 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เมืองซึ่งได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก อายุกว่า 4,000 ปีและปัจจุบันยังคงเป็นเมืองที่มีผู้อาศัยอยู่เสมอ |
13.00 น.
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร โรงแรม
หลังจากนั้น นำชมสังเวชนียสถานแหล่งที่ 2 สถานที่แสดงปฐมเทศนา นำนมัสการสถูปเจาคันธี สถานที่พระพุทธเจ้าพบปัญจวัคคีย์อีกครั้งหลังจากตรัสรู้แล้ว นำนมัสการธัมเมกขสถูป ที่เชื่อกันว่าเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาหัวข้อ ธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสูตร ทำให้พระโกณฑัญญะบรรลุโสดาบัน พระพุทธศาสนาจึงมีพระรัตนตรัยครบ 3 ประการ นำท่านชม มูลคันธกุฏี สถานที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษา แรกและพรรษาที่ 12 สถูปเจาคันธี ซึ่งสร้างเป็นอนุสรณ์ที่ปัญจวัคคีย์ได้พบกับพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ชม ยสเจดีย์ สถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมให้กับยสกุล บุตร ชม ธรรมราชิก สถูป เป็นสถูปที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมาก่อน หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ท่าเรืออัศวเมศเพื่อล่องเรือชมแม่น้ำคงคา แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของ ชาวฮินดูซึ่งเชื่อว่าแม่น้ำนี้ไหลมาจากภูเขาไกรลาสบน สรวงสวรรค์ ชมพิธีบูชาไฟและ การอาบน้ำล้างบาป และการเผาศพที่ท่ามณีกรรณิการ์ ริมฝั่งแม่น้ำคงคาที่ 4,000 กว่าปี ไฟที่ไม่เคยดับมอดลงเลย |
ค่ำ
|
รับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม
พักที่ BODHGAYA REGENCY หรือเทียบเท่า |
9 พ.ย 57 : พาราณสี – กรุงเทพฯ
|
|
07.00 น.
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชม โรงงานทอผ้าแห่งแคว้นกาสี ท่านจะได้ชมการทอผ้ากาสีแบบโบราณ ซึ่งผ้ากาสีนี้ เป็นผ้าที่มีชื่อเสียง และยังคงรักษาวิธีการทำแบบโบราณสืบทอด มากว่า 3,000 ปี ยังคงใช้กี่ทอผ้าไหมทีละเส้น จนเต็มผืน ผ้ากาสีจึงเป็นผ้าโบราณที่หาชมได้ยาก และมีชื่อเสียงอยู่คู่ กับนครพาราณสี หรือแคว้นกาสีโบราณมานับแต่สมัยก่อนพุทธกาล ซึ่งปัจจุบันติดอันดับเมืองสำคัญของโลกที่มีผู้คนอยู่อาศัยหนาแน่น สืบต่อกันมามากที่สุดกว่า ๔,๐๐๐ ปี |
11.30 น.
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
|
13.00 น.
|
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเมืองพาราณสี
|
14.00 น.
|
เช็คอินที่สนามบินเมืองพาราณสี
|
16.30 น.
|
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 328
|
21.15 น.
|
เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
|
ตารางเที่ยวบิน เดินทางโดยสายการบินไทย
ไป
|
:
|
กรุงเทพฯ - พุทธคยา
|
TG 327
|
เวลา :
|
12.10 น. - 14.10 น.
|
กลับ
|
:
|
พาราณสี - กรุงเทพฯ
|
TG 328
|
เวลา :
|
16.30 น. - 21.15 น.
|
-
|
บัตรโดยสารเครื่องบินระหว่างประเทศ สายการบินไทยชั้นทัศนาจร ไป-กลับ |
-
|
ค่าธรรมเนียมการใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สนามบินเมืองพุทธคยาและสนามบินเมืองพาราณสี
|
-
|
ค่าโรงแรมที่พัก ตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า (สองท่านต่อหนึ่งห้อง)
|
-
|
ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามรายการระบุ
|
-
|
ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการที่ระบุ ( มีอาหารไทยบริการเสริมให้เป็นพิเศษ )
|
-
|
บริการน้ำดื่ม ลูกอม ขนมขบเคี้ยว ตลอดการเดินทาง ค่ารถโค้ชปรับอากาศบริการนำคณะไหว้พระตามสถานที่ต่างๆ ตามระบุไว้ในรายการ
|
-
|
ค่าธรรมเนียมเข้านมัสการพุทธสถานและชมสถานที่ต่างๆตามที่ระบุไว้ในรายการ
|
-
|
ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศอินเดีย
|
-
|
ค่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
|
-
|
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท
|
-
|
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการ เช่น ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ
|
-
|
ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ท่านสั่งมารับประทานเอง (มินิบาร์) |
-
|
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี)
|
-
|
ค่าทิปท่านละ 800 บาทต่อท่าน ตลอดทริป สำหรับผู้ให้บริการต่าง ๆ ได้แก่ ไกด์ท้องถิ่น พนักงานขับรถ และพนักงานยกกระเป๋า เป็นต้น
|
-
|
ค่าสัมภาระที่น้ำหนักเกินกว่า 20 กิโลกรัม/ ท่าน
|
หมายเหตุ
|
|
-
|
บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาค่าบริการในกรณีที่มีการขึ้นราคาค่าตั๋วเครื่องบิน หรือมีการประกาศลดค่าเงินบาท หรืออัตราแลกเปลี่ยนได้ปรับขึ้นในช่วงใกล้วันที่จะเดินทาง
|
-
|
กรณีที่ท่านถูกปฏิเสธ การเข้าหรือออกเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งจากไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัท
|
-
|
ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว หากท่านไม่ใช้บริการใด ๆ ทางบริษัทจะถือว่าท่านสละสิทธิ์และไม่สามารถขอคืนค่าบริการได้
|
-
|
หากท่านไม่เดินทางกลับพร้อมคณะ ตั๋วเครื่องบินขากลับซึ่งยังไม่ได้ใช้นั้น ไม่สามารถขอคืนเงินได้
|
-
|
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากเหตุสุดวิสัย เช่น อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงานการก่อการจลาจล ความล่าช้าของเที่ยวบิน การถูกปฎิเสธไม่ให้เข้าหรือออกนอกประเทศ เป็นต้น
|
-
|
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายการท่องเที่ยวตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ, สายการบินโรงแรมและสภาวะทางการเมืองโดยถือผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
|
-
|
กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 15 ท่าน ทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทาง โดยจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 30 วันก่อนการเดินทาง
|