ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ คอนเสิร์ต ผสม ทอล์คโชว์ ที่หลายคนรอคอย หลังจากทำเอาผู้ชมติดอกติดใจมาแล้วในครั้งแรก ตลกแถวหน้าของเมืองไทย โก๊ะตี๋ อารามบอย ก็ได้ฤกษ์หวนคืนกลับมาจับไมค์สร้างความสนุกสนาน ฮา หรรษา ให้กับแฟนๆ อีกคำรบ โดยคราวนี้ใช้ชื่องานว่า โก๊ะตี๋ คาเฟ่ออนสเตจ ตอน 6 แพร่ง ซึ่งก็ต้องบอกว่าน่าชื่นใจแทน โก๊ะตี๋ เค้าจริงๆ เพราะเมื่อลองกวาดสายตาดูภายในพารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน เก้าอี้แทบจะเต็มทุกที่นั่งแล้ว ทั้งๆ ที่กว่าจะถึงเวลาแสดงจริงตั้งอีกเกือบครึ่งชั่วโมง

          หลังจากยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีเสร็จเรียบร้อย บนเวทีก็มีการนำภาพไฮไลท์ของ โก๊ะตี๋ คาแฟ่ออนสเตจ ครั้งแรกมาเปิดให้ชมเป็นออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อยกันก่อน จากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจ โก๊ะตี๋ ก็ปรากฏตัวบนเวทีด้วยเพลง Thriller ของไมเคิล แจ็คสัน เรียกเสียงเฮและเสียงปรบมือจากแฟนๆ ได้แบบดังสนั่น (ซึ่งโก๊ะตี๋มาเฉลยทีหลังว่าฝึกร้องเพลงนี้ด้วยการแกะเนื้อร้องเป็นภาษาไทยแบบคาราโอเกะ) ตามออกมาด้วยแขกรับเชิญทุกคนทั้ง โน้ต เชิญยิ้ม, ค่อม ชวนชื่น, ตั๊ก บริบูรณ์, เอกชัย ศรีวิชัย, มัม ลาโคนิค, แม่แดง-ฉันทนา กิตติยาพันธ์, แม่เม้าท์-สุดา ชื่นบาน ที่ออกมาวาดลวดลายกันแบบไม่ยอมน้อยหน้ากัน ก่อนจะมอบเวทีให้ โก๊ะตี๋, ป๋าโน้ต, น้าค่อม และตั๊ก ที่มาผลัดกันเล่าเรื่องผี ขำบ้าง ฝืดบ้าง แต่ก็เรียกเสียงฮาครืนทุกครั้งไป ที่ฮาสุดน่าจะเป็นเรื่อง ผีคาวค้าง กับ ผี 3 ตัว ของโก๊ะตี๋ รวมถึง ผีข้าวมันไก่ ของน้าค่อม ก็เรียกเสียงฮาได้ไม่น้อย

          ต่อด้วยการโชว์พลังเสียงของ 2 นักร้องสาวรุ่นลายคราม เริ่มจาก แม่แดง ที่ขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับเพลง “เกลียดคนสวย” ตามมาติดๆ ด้วย แม่เม้าท์ ที่ขึ้นมาร้อง “เพลงสุดท้าย” ที่เราก็เพิ่งได้รู้จากงานนี้เหมือนกันว่า เพลงดังอมตะ (ซึ่งถือเป็นชาติของเหล่าสาวประเภทสองทั้งหมู่มวลด้วย) อย่าง  “เพลงสุดท้าย” แม่แดง นี่แหละ ที่เป็นคนร้องเพลงนี้เป็นคนแรก!

          ผลัดกันร้องไปคนละเพลงแล้ว ที่นี้ทั้งแม่แดงและแม่เม้าท์ก็เปลี่ยนมาแท็คทีมร้องเพลงคู่บ้าง กับเพลงทำนองสุดคึกคักอย่าง Single Ladies (Put a Ring on it) ของ บียอนเซ่ ซึ่งต้องยอมรับในสปริตของทั้งแม่แดง-แม่เม้าท์จริงๆ เพราะแกสองคนทั้งร้องทั้งเต้นกันแบบลืมอายุเลยทีเดียว แถมยังได้ โก๊ะตี๋ ขึ้นมาป่วนบนเวทีด้วยเลยทำให้บรรยากาศคึกครื้น คนดูคึกคัก ยิ่งขึ้นไปอีก

          หลังจากนั้นผู้ชมสาวๆ ในพารากอน ฮอลล์ ก็ได้กรี๊ดกันสนั่นเมื่อเห็นหนุ่มหล่อเท้าไฟ ชิน ชินวุฒิ ขึ้นมาโชว์บนเวทีรวดเดียว 5 เพลงติด ไล่ไปตั้งแต่ “กลัว” เพลงดังของปาล์มมี่ (ที่โดม ปกรณ์ ลัม เคยนำมาคัฟเวอร์), “ยุ่งน่า” ของ เจ เจตริน, “พลิกล็อค” ของ คริสติน่า, “มนุษย์ค้างคาว” ของ ติ๊ก ชิโร่ แต่ที่เห็นเรียกเสียงกรี๊ดได้มากที่สุดหนีไม่พ้น “ปากไม่ตรงกับใจ” เพลงดังของหนุ่มชินนั่นเอง ซึ่งได้ โก๊ะตี๋ มาร่วมเต้นในลีลาที่คนดูทั้งขำทั้งทึ่งในความสามารถ โดยช่วงสุดท้ายของการโชว์ระหว่าง โก๊ะตี๋ กับ หนุ่มชิน มีการทำเสียงบีตบ็อกซ์ร่วมกันด้วย แต่ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนสุดท้ายกลายเป็นบีตบ็อกซ์ผสมเพลงแหล่ซะงั้น งานนี้ก็เลยได้ฮากันทั้งฮอลล์ไปตามระเบียบ

          ถัดมาเป็นโชว์ของไอ้หนุ่มบ้าพลัง ตั๊ก บริบูรณ์ (เจ้าของ สโลแกน “ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึง”) ที่ขึ้นมาพร้อมกับเพลง “It’s Alright” ของ บี้ เดอะสตาร์ ซึ่งในช่วงกลางเพลง โก๊ะตี๋ ก็ออกมาร่วมเต้นเลียนแบบหนุ่มบี้ได้อย่างน่ารักน่าชัง (ระหว่างดูแอบลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าหนุ่มบี้มีหุ่นแบบ โก๊ะตี๋ คงน่าเอ็นดูไปอีกแบบเหมือนกัน) จากนั้น ป๋าโน้ต กับ น้าค่อม ก็ออกมาผสมโรงร่วมกับ โก๊ะตี๋ และ ตั๊ก ด้วยมุขตลกที่ขนกันมาสาดใส่ผู้ชมแบบไม่ยะบันยั้ง โดยเฉพาะตอนที่ ตั๊ก บริบูรณ์ โชว์เสียงร้องเพี้ยนๆ แบบฮาได้ใจคนดูจริงๆ อ่อ...เกือบลืมบอกไปว่าโชว์คืนนี้ ตั๊ก เค้าเอาแฟนคลับส่วนตัวมาเชียร์ด้วย ถึงขนาดทำป้ายไฟที่เขียนว่า “Love Tuck” มาชูหน้าเวทีเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นแม่กับน้าของตั๊กเอง (แหม...ช่วยกันทำมาหากินดีจริงๆ เลยครอบครัวนี้)

          ตามมาติดๆ ด้วย เอกชัย ศรีวิชัย ที่มาร่วมงานใน โก๊ะตี๋ คาแฟ่ออนสเตจ เป็นครั้งที่ 2 โดยคราวนี้ พี่เอกของเราเปิดตัวด้วยเพลง “แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ” ของ อ๊อฟ ปองศักดิ์ ก่อนจะเปลี่ยนฟีลมาร้องเพลงดังของตัวเองอย่าง “หมากัด” ที่สร้างความคึกคักให้กับคนดูทั้งฮอลล์ด้วยจังหวะชวนโยก ตระการตาด้วยหางเครื่องสุดอลังการ เสร็จแล้วทั้งพี่เอกและโก๊ะตี๋ก็ออกมาดวลมุขกันชนิดไม่มีใครยอมใคร งานนี้ก็เลยเดือดร้อนผู้ชมอีกตามเคย เพราะฮากันชนิดขากรรไกรค้าง! ครับพี่น้อง...

          จากนั้นก็ถือคิวของ พี่มัม ลาโคนิค ซึ่งมาเป็นแขกรับเชิญของ โก๊ะตี๋ เป็นครั้งที่สองเช่นกัน ประเดิมเวทีในบรรยากาศแบบภารตะกับเพลง Hava Nagila ที่สร้างสีสันด้วยแดนเซอร์เต็มเวที ซึ่งแน่นอนว่า โก๊ะตี๋ ก็ออกมาเต้นประชันแบบสุดเหวี่ยงด้วย หลังจบเพลงนี้ พี่มัม เซอร์ไพรส์ โก๊ะตี๋ ด้วยเพลงพิเศษสุดฮาที่บอกว่าแต่งให้ โก๊ะตี๋ โดยเฉพาะ ซึ่ง โก๊ะตี๋ เองก็ไม่ยอมน้อยหน้าแก้เผ็ดทันควันด้วยการแปลงเพลง “เติมใจให้กัน” (ซึ่งเป็นเพลงหากินของ พี่มัม) ให้กลายเป็นเพลงฮาๆ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

          เสร็จจากนั้น พี่มัม ขอเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าเล็กน้อย โดยทีมงานมีการยกห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามาให้ พี่มัม เปลี่ยนกันสดๆ บนเวทีเลยทีเดียว พอแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จ พี่มัม ก็นำเพลงเพราะๆ มาร้องเมดเล่ย์ให้ผู้ชมได้ฟังกันไม่ว่าจะเป็น “ค้นใจ” ของ เจ เจตริน, “ทำไมต้องเธอ”,  “จะได้ไม่ลืมกัน” ของ พี่เบิร์ด ธงไชย,  “เหงา” ของ พีชเมกเกอร์ เรียกได้ว่า เสียงร้องอันไพเราะและทรงพลังของ พี่มัม ทำเอาคนดูทั้งฮอลล์เคลิ้บเคลิ้มราวต้องมนต์สะกดกันเลยทีเดียว

          จบจากโชว์ของ พี่มัม พระเอกของงานอย่าง โก๊ะตี๋ ก็พา ป๋าโน้ต, น้าค่อม และตั๊ก บริบูรณ์ กลับขึ้นเวทีอีกครั้งพร้อมกับเนรมิตโรงลิเกย่อมๆ ขึ้นมา โดยได้ ปลาคร้าบ เชิญยิ้ม มาช่วยเล่นระนาดด้วย นอกจากผู้ชมจะได้ฮาไปกับมุขตลกที่งัดมาเล่นกันแบบเต็มสตรีมแล้ว งานนี้ โก๊ะตี๋ ยังมีเซอร์ไพรส์โดดลงมาชวนคนดูขึ้นไปร่วมเล่นลิเกบนเวทีด้วย

          และแล้ว โชว์ก็ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายจนได้ หลังจากไฟบนเวทีดับลงชั่วครู่ แม่แดง และ แม่เม้าท์ พร้อม แดนเซอร์ ก็ขึ้นมาในเพลง I will Survive จากนั้นแขกรับเชิญทุกคนรวมถึง โก๊ะตี๋ เจ้าของงานก็ขึ้นมาร่วมร้องเพลงนี้ด้วยกัน เพื่อร่ำลาและกล่าวขอบคุณผู้ชมที่วันนี้มาให้กำลังใจกันเต็มพารากอน ฮอลล์

          เรียกว่าได้ความบันเทิงกันไปแบบเต็มอิ่มจุใจกว่า 3 ชั่วโมง ครบถ้วนทุกความสนุกหรรษา ฮา ครื้นเครง สมใจแฟนคลับเค้าล่ะ อันนี้คงต้องยกเครดิตให้กับ โก๊ะตี๋ และแขกร่วมโชว์ทุกคนที่ทุ่มเทกันแบบสุดตัว สำหรับใครพลาดงานนี้บอกได้คำเดียวว่า...น่าเสียดาย

โดย...ไอ้แผน เด็กขายตั๋ว