โรงกาแฟแบบชาวภูเก็ตที่ไม่เพียงโดดเด่นแค่เครื่องดื่ม แต่กลับโดดเด่นด้วยเมนูและรสชาติอาหารอีกด้วย สามารถสัมผัสได้ถึงความใส่ใจ การเลือกใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงชั้นดี
| |
พูดถึงโรงเตี๊ยม อาจพาให้หลายคนจินตนาการไปถึงหนังจีน กำลังภายในตามสูตรที่พระเอกมักเจอผู้ร้ายและต่อสู้กันสุดพลังกันที่โรง เตี๊ยม ทว่ามีโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในภูเก็ตที่พระเอกผู้มาเยือนอย่างคุณจะไม่มีวันได้พบเจอผู้ร้าย ในทางกลับกันล้วนมีแต่สหาย โรงเตี๊ยมที่เรากำลังพูดถึงนี้คือร้านอาหาร “โกปี้เตี่ยม” ณ ถนนถลางใจกลางเมืองภูเก็ตนั่นเอง “โกปี้” หมายถึงกาแฟ “เตี่ยม หรือ เตี๊ยม” หมายถึงที่พักหรือโรงแรม ซึ่งมีความหมายโดยรวมว่า “โรงกาแฟ”
|
|
|
| |
วันนี้เรามีโอกาสได้กลับมาย่านเมืองเก่าที่ถนนถลาง อีกครั้ง โดยครั้งนี้เราจะไปกันที่ร้านโกปี้เตี่ยมซึ่งเป็นร้านอาหารในเครือ “วิไล” บริหารงานโดย "คุณวิว" ลูกสาวคนสวยของ “คุณป้าวิไล” ผู้ใจดี ซึ่งภายในร้านมีอาหารและการตกแต่งภายใต้แนวคิดจีนฮกเกี้ยน สไตล์ “บ้าบ๋า ย่าย๋า” ดั้งเดิมของภูเก็ต ด้วยความโดดเด่นของสีแดงที่เห็นชัดเจนตั้งแต่ยังไม่เข้าร้าน ก็เป็นสัญญาณบอกเราให้รู้ในทันทีว่าที่นี่ต้องเป็นร้านอาหารสไตล์จีนอย่าง แน่นอน ภายในตกแต่งจากเดิมที่เป็นบ้านเก่าให้เป็นร้านอาหารใหม่สวยงามด้วยโทนสีแดง ขาว พร้อมด้วยรูปถ่ายการทำเหมืองแร่แบบขาวดำและข้าวของโบราณ สังเกตได้จากกระจกเงาบานโต รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ นำมาประดับตกแต่งได้เข้ากันอย่างลงตัว กลายเป็นเอกลักษณ์ของร้านที่ไม่มีใครเหมือนในย่านนี้
|
|
|
| |
มาถึงที่หมายทั้งทีจะไม่ลงมือชิมอาหารจานเด็ดของร้านก็กะไรอยู่ เมนูมื้อนี้เต็มไปด้วยจานเด็ดแบบจีนฮกเกี้ยนจริงๆ เริ่มกันที่จานหลักจานแรกกันก่อนเลยดีกว่า นั่นคือ “หมูทอดภูเก็ต” ได้ยินคำว่าหมูทอดทีแรกคิดว่าที่ไหนก็คงเหมือนๆ กันแต่ที่ร้านคัดสรรเนื้อหมูอย่างดี โดยเลือกมาจากเนื้อขาหมูส่วนหน้าติดมัน คลุกเคล้ากับพริกไทย รากผักชีและเครื่องเทศจีนอย่างหัวเปลาะแล้วจึงนำไปทอด รับประทานคู่กับผักดองสดกรอบ ให้รสชาติของเนื้อที่นุ่มและกลิ่นของสมุนไพรจีน ต้องบอกว่ารสชาติจานนี้พิเศษและกลมกล่อมอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
จานถัดมาชื่อแปลกแบบอาหารจีน “เต้ากั้วเจี้ยน” เต้า กั้ว หมายถึง เต้าหู้ขาว โดยการนำเต้าหู้มาย่างจนหอมสุก รับประทานคู่กับน้ำจิ้มมะขามสูตรเฉพาะของทางร้านที่ให้รสชาติหวานนิดเปรี้ยว หน่อย แต่สำหรับใครที่ชอบรสจัดจ้านยังมีพริกและกระเทียมให้เติมอีกด้วย
|
|
|
| |
จานต่อมาต้องบอกว่าคนภูเก็ตไม่มีใครไม่รู้จัก “หมี่ซั่วผัด” ลักษณะ เส้นนุ่มบางเล็กไม่เหมือนใครหาได้เฉพาะที่ภูเก็ตที่เดียว โดยสูตรของทางร้านจะนำมาผัดกับน้ำมันงาจนแห้งให้กลิ่นหอมของเส้น ผ่านการคลุกเคล้าด้วยวัตถุดิบซีฟู๊ดที่สดสะอาดอย่างเนื้อปลาและหมึก อาหารจานนี้นับว่าหาทานได้ยากมากในสมัยนี้ เพราะโดยมากนิยมนำเส้นหมี่ซั่วไปปรุงแบบน้ำ
|
|
จานถัดไปคุณวิวบอกกับเราว่าเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านเลยทีเดียวนั่นก็คือเมนู “บะกู๊ดเต๋” ซึ่งมีกรรมวิธีและส่วนผสมต่างจากที่อื่น เป็นสูตรที่ตกทอดมาจากคุณย่าซึ่งเป็นชาวจีน โดยนำซี่โครงหมูต้มกับเครื่องยาจีนที่เรียกว่า “สกเต๋” ปรุง รสด้วยเกลือและเห็ดหอม เท่านั้นก็ทำให้ได้น้ำซุปที่มีสีเข้มแต่ใส ปราศจากสีปรุงแต่งจากซี่อิ๊วดำเหมือนร้านอื่นๆ หากมาแล้วลืมสั่งเมนู บะกู๊ดเต๋ เท่ากับมาไม่ถึงร้านก็ว่าได้
|
|
|
| |
อิ่มท้องกันไปเป็นที่เรียบร้อยกับอาหารหลักหลากหลายเมนู แต่หากจะไม่พูดถึงเมนูเครื่องดื่มเลยก็คงจะดูขัดกับชื่อร้านเอามากๆ เพราะชื่อก็บอกชัดเจนตรงไปตรงมาว่า “โรงกาแฟ” เริ่มที่เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านกันก่อนเลยนั่นคือ “โกปี้ช้าม” คือ กาแฟผสมชา มีรสเข้มข้นหวานกลมกล่อมเหมาะกับคอกาแฟโบราณอย่างยิ่ง ซึ่งนับวันก็ยิ่งหาดื่มได้ยากมากอาจเหลือเฉพาะที่ภูเก็ตเพียงที่เดียว แก้วต่อมามีสีขาวนวล ดูผ่านๆ คล้ายเมนูนมร้อนธรรมดา แต่เมื่อได้ชิมเป็นต้องดื่มอย่างต่อเนื่องจนหมดแก้วอย่างไม่รู้ตัว ด้วยความหอมหวานอร่อยราวกับทานผลเชอรี่ แก้วนี้มีชื่อว่า “เฮงหยิน” เป็นน้ำนมสกัดมาจากเมล็ดอัลมอนด์นำเข้าจากมาเลเซีย ถือเป็นเครื่องดื่มพื้นเมืองแสนอร่อยที่อยู่คู่ภูเก็ตมาอย่างช้านาน แก้วต่อมาคือ “ถั่วเหลืองบด” รู้สึก ถึงการบดแบบไม่ละเอียดทำให้ได้เนื้อของถั่วเหลืองเมื่อดื่ม ทั้งยังหอมกลิ่นถั่วเหลืองคั่ว นับเป็นเสน่ห์ของแก้วนี้อย่างแท้จริง ทั้ง 3 แก้วนับเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของร้านก็ว่าได้ แต่ด้วยสภาพอากาศของเมืองภูเก็ตที่ร้อน ทำให้ลูกค้าหลายคนร้องหาเครื่องดื่มเย็นๆ สดชื่นทางร้านจึงคิด 2 เมนูขึ้นใหม่เพื่อสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยเครื่องดื่มหวานเย็นรสซ่าอย่าง สตอเบอรรี่เลมอนเนตโซดา และ อัญชัญมะนาว นับเป็นสองสหายคลายร้อนที่ครองใจลูกค้าได้ดีมาอย่างต่อเนื่อง
|
|
|
|
|
| |
ด้วยทำเลย่านเมืองเก่าและการตกแต่งอย่างสวยงามโดดเด่นของโรงกาแฟ บวกกับรสชาติอาหารที่ให้อารมณ์และรสสัมผัสแบบจีนฮกเกี้ยนดั้งเดิม ในความอร่อยนั้นเราสัมผัสได้ถึงความใส่ใจ การเลือกใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงชั้นดี ไม่แปลกใจเลยที่วันนี้ลูกค้าของร้านซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติต่างติดอก ติดใจกับเสน่ห์ของร้านโกปี้เตี่ยมและนี่ก็เป็นอีกหนึ่ง “โรงเตี๊ยม” ที่ปลอดภัยไร้โจรผู้ร้ายที่ไม่ควรพลาดที่จะแวะชิมยามมาเยือนเกาะภูเก็ต
|
|
|
| ที่อยู่ |
: |
18 ถนนถลาง ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต |
| GPS |
: |
7.884807, 98.387950 |
| เบอร์ติดต่อ |
: |
083 606 9776 |
| E-mail |
: |
kopitiamphuket@gmail.com |
| Facebook |
: |
www.facebook.com/kopitiambywilai |
| Twitter |
: |
twitter.com/kopitiambywilai |
| อาหารแนะนำ |
: |
เต้ากั้วเจี้ยน (50 บาท), หมูทอดภูเก็ต (120 บาท), ชุดข้าวบะกู๊ดเต๋ (100 บาท), หมี่ซั่วผัด (70 บาท), ถั่วเหลืองคั่วบดร้อน (30 บาท), เฮงหยินร้อน(นมอัลมอนด์) (30 บาท), โกปี้ช้ามเย็น(กาแฟผสมชา) (40 บาท) |
| จำนวนโต๊ะ |
: |
6 - 8 โต๊ะ |
| เวลาทำการ |
: |
11.00 น. – 22.00 น. |
| วิธีชำระเงิน |
: |
เงินสด |
| ที่จอดรถ |
: |
บริเวณถนนหน้าร้าน |
จากสี่แยกแถวน้ำ(ถนนดีบุกตัดใหม่ ) เลี้ยวขวาเข้าถนนถลาง ตรงไปเกือบสุดถนน สังเกตด้านซ้ายมือ จะเห็นป้าย ร้านโกปี่เตี๊ยม ติดกับร้านยาจีนและร้านวิไล ซึ่งทั้งสามร้านคือร้านเดียวกัน
ข้อมูลเเละภาพประกอบจาก
