ป๋าเต็ด ควง สงกรานต์ แถลงข่าว บิกเมาน์เทน มิวสิกเฟสติวัล รีเทิร์น คว้า เป๊ปซี่ หนุนมันใหญ่มาก.. เน้น สนุกขึ้น-สะดวกขึ้น-สะแด่วขึ้น 10-11 ธ.ค.นี้

ได้เวลาการกลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องของเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่มากที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม แจ้งเกิดทันทีในฐานะเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดและมีผู้คนเข้าชมมากที่สุดแห่งประเทศไทย สร้างปรากฎการณ์ใหม่

ได้เวลาการกลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องของเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่มากที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม แจ้งเกิดทันทีในฐานะเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดและมีผู้คนเข้าชมมากที่สุดแห่งประเทศไทย สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับงานเทศกาลดนตรีบ้านเราเมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมาอย่างคึกคัก ซึ่งทุกคนต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า“มัน ใหญ่ มากกกกก” ล่าสุดเจ้าพ่อเด็กแนว “ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม” ผนึกกำลังเจ้าของพื้นที่คนเดิมอย่าง “สงกรานต์ เตชะณรงค์” แถลงข่าวการจัดงานเทศกาลดนตรีไซส์ใหญ่มากนี้ขึ้นอีกครั้งในชื่อว่า “เป๊ปซี่ พริเซนต์ บิกเมาน์เทน มิวสิกเฟสติวัล” โดยได้เลือกช่วงเวลาของเดือนที่มีบรรยากาศดีที่สุดคือ วันศุกร์ที่ 10 และเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553 นี้   2 วัน 2 คืน  ณ โบนันซ่า เขาใหญ่ ที่เดิม  ภายใต้สโลแกนที่ทุกคนจำขึ้นใจว่า “มัน ใหญ่ มาก” และที่จะเพิ่มเติมให้ถึงใจยิ่งขึ้นไปอีกคือ  ป๋าเต็ด การันตีว่าต้อง สนุกขึ้น...สะดวกขึ้น...สะแด่วขึ้น !!!!!

“จากครั้งที่แล้ว ผมและทีมงานเกเรก็พยายามรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อเด่น-ข้อด้อยเพื่อนำมาปรับปรุงสำหรับ บิกเมาน์เทน มิวสิกเฟสติวัลนี้ ก็ได้ข้อสรุปออกมาว่าเราจะเพิ่ม 3 เรื่องนี้เข้าไปคือ สนุกขึ้น-สะดวกขึ้น-สะแด่วขึ้น ในด้าน สนุกขึ้น จากเดิมที่สนุกกันอยู่แล้วเราก็จะทำให้สนุกขึ้นไปอีก เรื่องแรกเลยก็คือจำนวนและความหลากหลายของศิลปิน มีครบทุกค่าย ครบทุกแนว ที่นอกจากศิลปินยอดฮิตที่มีอยู่เดิมแล้ว “ครั้งนี้เรายังเพิ่มเติมศิลปินหน้าใหม่สำหรับงานบิกเมาน์เทนเข้าไปอีก เช่น ดา เอ็นโดรฟิน, ไฮดร้า, NOLOGO, Soul After Six, โดยเฉพาะ P.O.P ที่จะกลับมารียูเนียนกันในงานนี้ รวมทั้งสีสันใหม่ๆ จากศิลปินต่างประเทศ อาทิ FUGU ซึ่งเป็นวงป๊อประดับโลกอีกด้วย นี่ยังไม่นับศิลปินอีกมากมายที่เราจะประกาศเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป” ในส่วนของผับ ครั้งนี้จะมีผับเกิดใหม่ชื่อ“ผับอโคจร” บริหารงานโดย “น้าเน็ก” ซึ่งครั้งที่แล้วได้มาเดินเที่ยวงานแล้วติดใจ เลยอาสาขอทำอะไรสนุกๆ แบบฉีกกฎทุกอย่างสไตล์น้าเค้า และที่ขาดไม่ได้เลยคือ“ข้าวไข่เจียว”เพราะปีที่แล้วได้รับความนิยมถล่มทลาย ปีนี้เราเลยจัดโซนพิเศษ “ไข่เจียวซิตี้” พร้อมการแข่งขันข้าวไข่เจียวชิงแชมป์ประเทศไทย เสริมด้วย “อุโมงค์แห่งความสุข” ให้คนเข้าไปทำกิจกรรมเพลินๆ ช่วงกลางวัน เช่น มีบริการส่งโปสการ์ดในนี้  และที่มาใหม่อีกหนึ่งคือ “โรงหนังสยาม” ซึ่งจะฉายแต่หนังสยองขวัญตลอดคืน  

“ในแง่ สะดวกขึ้น เพราะในงานเราเป็นเมืองใหญ่ที่ทุกคนต้องใช้ชีวิตร่วมกัน 2 วัน 2 คืน นอกจากสนุกยังต้องมีความสะดวกในการเดินทางภายในเฟสติวัล เริ่มจากเวที ครั้งนี้เวทีหลักทั้ง 2 เวทียังคงอยู่ตำแหน่งเดิม แต่เราย้ายเวทีย่อย 3 เวทีมาอยู่ในมุมตลาด ซึ่งเป็นการขยับเวทีให้เข้ามาใกล้กันมากขึ้น เดินถึงกันได้สบายขึ้น และที่คาดว่าน่าจะถูกใจกันมากก็คือ ห้องน้ำก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็น 600 ห้อง จนเรากล้าเรียกว่านี่เป็นมิวสิคเฟสติวัลที่มีห้องน้ำมากที่สุดครับ พร้อมด้วยการเพิ่มบริการรถเมล์ 2 สายวิ่งรอบบริเวณงาน เพื่อให้สะดวกขึ้นกันอย่างทั่วถึง ซึ่งยังไม่เคยมีเฟสติวัลไหนที่มีรถเมล์วิ่งแบบนี้ และก็มีการปรับผังใหม่โดยย้ายโซนกางเต็นท์ไปไว้หน้างานใกล้ลานจอดรถ ส่วนตลาดจะตั้งอยู่กลางงาน และจะมีร้านค้าเพิ่มขึ้นอีก  พร้อมทั้งขยายตลาดผ้าขาวม้าให้ยาวขึ้นอีกเป็น 250 เมตร สามารถเดินช้อปปิ้งฆ่าเวลากันได้ตลอด 24 ชม.เลย โซน คาเฟเปลญวณ ที่ได้รับความนิยมก็จะถูกเพิ่มเติมเข้ามาให้ได้หลบร้อนนอนเล่นกันตอนกลางวันอย่างพอเพียง ร่วมด้วยโซน Refreshing นวดแผนไทยคลายเมื่อยกัน โซน J-Avenue หาของกินชิลล์ๆ ผ่อนคลายความหิวระหว่าง 2 เวทีหลัก ไม่ต้องเดินไกลไปถึงตลาดจะได้ไม่พลาดดูวงโปรด ที่สำคัญอากาศเย็นๆ และบรรยากาศดีๆ ของช่วงต้นหนาวเดือนธันวาคมมีให้สัมผัสกันที่โบนันซ่า เขาใหญ่ แน่นอน 

“ในแง่ สะดวกขึ้น เพราะในงานเราเป็นเมืองใหญ่ที่ทุกคนต้องใช้ชีวิตร่วมกัน 2 วัน 2 คืน นอกจากสนุกยังต้องมีความสะดวกในการเดินทางภายในเฟสติวัล เริ่มจากเวที ครั้งนี้เวทีหลักทั้ง 2 เวทียังคงอยู่ตำแหน่งเดิม แต่เราย้ายเวทีย่อย 3 เวทีมาอยู่ในมุมตลาด ซึ่งเป็นการขยับเวทีให้เข้ามาใกล้กันมากขึ้น เดินถึงกันได้สบายขึ้น และที่คาดว่าน่าจะถูกใจกันมากก็คือ ห้องน้ำก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็น 600 ห้อง จนเรากล้าเรียกว่านี่เป็นมิวสิคเฟสติวัลที่มีห้องน้ำมากที่สุดครับ พร้อมด้วยการเพิ่มบริการรถเมล์ 2 สายวิ่งรอบบริเวณงานเพื่อให้สะดวกขึ้นกันอย่างทั่วถึง ซึ่งยังไม่เคยมีเฟสติวัลไหนที่มีรถเมล์วิ่งแบบนี้ และก็มีการปรับผังใหม่โดยย้ายโซนกางเต็นท์ไปไว้หน้างานใกล้ลานจอดรถ ส่วนตลาดจะตั้งอยู่กลางงาน และจะมีร้านค้าเพิ่มขึ้นอีก พร้อมทั้งขยายตลาดผ้าขาวม้าให้ยาวขึ้นอีกเป็น 250 เมตร สามารถเดินช้อปปิ้งฆ่าเวลากันได้ตลอด 24 ชม.เลย โซน คาเฟเปลญวณ ที่ได้รับความนิยมก็จะถูกเพิ่มเติมเข้ามาให้ได้หลบร้อนนอนเล่นกันตอนกลางวันอย่างพอเพียง ร่วมด้วยโซน Refreshing นวดแผนไทยคลายเมื่อยกัน  โซน J-Avenue หาของกินชิลล์ๆ ผ่อนคลายความหิวระหว่าง 2 เวทีหลัก ไม่ต้องเดินไกลไปถึงตลาดจะได้ไม่พลาดดูวงโปรด ที่สำคัญอากาศเย็นๆ และบรรยากาศดีๆ ของช่วงต้นหนาวเดือนธันวาคมมีให้สัมผัสกันที่โบนันซ่า เขาใหญ่ แน่นอน 

และโปรเจ็คท์มิวสิคเฟสติวัลระดับบิ๊กที่สุดของเมืองไทยแบบนี้คงจะใหญ่ถึงใจไม่ได้ หากขาดผู้สนับสนุนหลักสุดซ่าอย่าง เป๊ปซี่ (PEPSI) โดย คุณเจษฎากร ธราธิป ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ได้เปิดเผยว่า “ในปีนี้เป๊ปซี่ได้ทำมิวสิกแคมเปญ ในคอนเซปต์ ‘ดนตรีเต็มที่ด้วยกันได้’ ซึ่งมาจากอินไซด์วัยรุ่นในปัจจุบันที่ชอบดนตรีหลากหลายแนว นำเสนอผ่านศิลปินขวัญใจวัยรุ่นในยุคนี้ ได้แก่ บอดี้สแลม  ดา เอ็นโดรฟิน และชิน ชินวุฒ ที่ล้วนเป็นที่สุดของศิลปินแต่ละแนวเพลงของบ้านเรา โดยบิกเมาน์เทนสามารถตอบโจทย์ของการรวมดนตรีทุกแนวได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นที่สุดของเทศกาลดนตรีที่ทุกคนยอมรับ ทั้งในแง่ของความยิ่งใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จด้วยฟีดแบ็คดีที่สุดอีกด้วย เราจึงไม่ลังเลที่จะสนับสนุนให้เกิดการ จัดงาน เป๊ปซี่ พริเซนต์ บิกเมาน์เทน มิวสิกเฟสติวัล ครั้งนี้ขึ้น ให้ได้ปลดปล่อยพลังความเต็มที่ไปกับอารยธรรมความมันส์ แบบ “มัน-ซ่า-มาก” พร้อมกับ 3 พรีเซนเตอร์เป๊ปซี่ ภายใน ‘เป๊ปซี่ โซน’ ที่ประกอบด้วย เวที Jukebox ให้โดดเพิ่มความมันส์  Pepsi Giant Tower ให้หนีความวุ่นวายมาสูดบรรยากาศที่สดชื่นเหนือใคร แล้วปล่อยตัวลงมาจากสไลด์เดอร์รูปวัวยักษ์สุดมันส์ และ Pepsi Refreshing Zone ให้หนีร้อนมาเติมความซ่าด้วยเป๊ปซี่และค็อกเทลสุดครีเอท ฯลฯ พิเศษสุดๆ ที่ช่วยให้เดินตัวเบาเข้างาน ด้วยการช่วยจ่ายค่าตั๋วให้สูงถึง 25% เพียงนำฝาจีบเป๊ปซี่ที่มีคำว่า Big Mountain หรือฉลากขวดเป๊ปซี่แบบใดขนาดใดก็ได้จำนวน 10 ชิ้น ไปแสดงเมื่อซื้อบัตรที่เคาน์เตอร์ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา จำนวนจำกัด 10,000 ใบแรกเท่านั้น”

“ปิดท้ายด้วยกิจกรรมดีๆ ‘พี่ชวนน้องมาสุดขอบซ่าด้วยกัน’ เปิดโอกาสให้เยาวชนจากชุมชนรอบเขาใหญ่ 5 โรงเรียน ซึ่งเป็นพื้นที่ในการจัดงาน ได้มีเวทีของตัวเองเพื่อโชว์ความสามารถทางดนตรีกับเพลง “สุดขอบซ่า” พร้อมกับ Big Surprise จากพรีเซนเตอร์ที่ทางเป๊ปซี่ได้จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้แสดงออกทางดนตรีอย่างเต็มที่ตามความฝัน พร้อมทั้งยังให้ผู้ร่วมงานได้ลุ้นเป็น 50 ผู้โชคดีที่จะได้สุดขอบซ่ากับพรีเซนเตอร์เป๊ปซี่ เพียงซื้อเป๊ปซี่พร้อมกระบอกเป๊ปซี่สุดซ่า ลิมิเต็ดเอดิชั่น ตูน-ดา-ชิน ในเพียงราคา 40 บาทก็ได้รับคูปองไปลุ้นกันได้เลย”

นอกจากการรักษาแชมป์ “มัน ใหญ่ มาก” และดูแลภารกิจใหม่ “สนุกขึ้น-สะดวกขึ้น-สะแด่วขึ้น” แล้ว เทศกาลดนตรี “เป๊ปซี่ พริเซนต์ บิกเมาน์เทน มิวสิกเฟสติวัล” ครั้งนี้ ยังเพิ่มให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการดูแลรักษาธรรมชาติแวดล้อมให้กับพื้นที่เขาใหญ่ โดยได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์อย่าง Big Bin เพื่อรณรงค์เรื่องการแยกขยะและให้พ่อค้าแม่ค้าใช้อุปกรณ์ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายง่าย ได้แก่ ไบโอชานอ้อย และแอดวานซ์ไบโอภายในงาน ควบด้วยอีกหนึ่งโปรเจ็คท์ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ โดยจับมือกับ TCDC ท้าคนมันที่มีไอเดียสร้างสรรค์ร่วมประชัน 10 สุดยอดไอเดีย เพื่อคัดสรรผลิตเป็นคู่มือการดำรงชีวิตกลางแจ้ง 48 ชั่วโมงเต็ม (Survival Kits Manual) ภายใต้คอนเซปท์ “Better Living by Design” ในงาน “เป๊ปซี่ พริเซนต์ บิกเมาน์เทน มิวสิกเฟสติวัล” ครั้งนี้ 

สำหรับผู้ที่อยากรู้ลึกขึ้นอีก... ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมแบบเจาะลึกทุกปลีกย่อยที่จะเกิดขึ้นใน “เป๊ปซี่ พริเซนต์ บิกเมาน์เทน มิวสิกเฟสติวัล” ครั้งนี้ได้ทาง www.bigmountainmusicfestival.com   แต่ถ้าใครที่รู้จักและแน่ใจกับบิกเมาน์เทนดีพอแล้ว... ควักกระเป๋าซื้อบัตรเตรียมตัวไป “มัน ใหญ่ มาก” แบบ “สนุกขึ้น-สะดวกขึ้น-สะแด่วขึ้น” กันได้เลย 2 วัน 2 คืน ศุกร์และเสาร์ที่ 10-11 ธ.ค.นี้  บัตรราคา 1,800 บาท แต่ถ้าซื้อภายใน 31 ตุลาคมนี้ ราคาพิเศษ 1,500บาท ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา โทร.02-262-3456 หรือ www.thaiticketmajor.com

>>> คลิกที่ภาพเพื่อขยาย <<<

ซื้อบัตรชมคอนเสิร์ต