โครงการโขน ศาลาเฉลิมกรุงชุดหนุมานข้าราชบริพารพระจักรี

ชมสุดยอดศิลปะการแสดงชั้นสูง โขนศาลาเฉลิมกรุง “ชุด หนุมานข้าราชบริพารพระจักรี” ถ่ายทอดผ่านการแสดงอันวิจิตรงดงามตระการตาและถูกต้องตามขนบจารีตแบบแผน เปิดการแสดง ุกวันพฤหัสบดี / ศุกร์ รอบ 19.30 น. ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง เริ่มเบิกโรงวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 นี้ เป็นต้นไป
โขนศาลาเฉลิมกรุง สุดยอดแห่งศิลปะการแสดงชั้นสูงเฉลิมฉลองเนื่องมหามงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ชุด หนุมานข้าราชบริพารพระจักรี เริ่มเบิกโรง 15 กรกฎาคม ศกนี้ เป็นต้นไป เนื่องในมหามงคลสมัยที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พุทธศักราช ๒๕๔๙ มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเฉลิมฉลองครองสิริราชสมบัติ 60 ปี จัดการแสดง โขน~ศาลาเฉลิมกรุงขึ้น เพื่อเผยแพร่นาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย ซึ่งเป็นโครงการจัดแสดงระยะยาว อันจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดไป โดยนำเสนอ

          ชุดที่ 1 ในชื่อชุด พระจักราวตาร มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2548 และจบการแสดงรอบสุดท้าย ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2549
          ชุดที่ 2 ในชื่อชุด หนุมานชาญกำแหง เปิดการแสดงมาตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2549 และจบการแสดงรอบสุดท้าย เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
          และสำหรับการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง ชุดที่ 3 นำเสนอ ในชื่อชุด หนุมานข้าราชบริพารพระจักรี เปิดการแสดง ุกวันพฤหัสบดี / ศุกร์ รอบ 19.30 น. ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง เริ่มเบิกโรงวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 นี้ เป็นต้นไป
           โขนชุดนี้เป็นโขนคณะใหม่ที่ได้คัดเลือกศิลปินกว่า 60 คน ที่ได้รับการฝึกฝนนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย จากหลากหลายสถาบันเข้าร่วมแสดง กำกับการแสดงโดย อาจารย์เฉลิมศักดิ์ ปัญญวัตวงศ์ บรรเลงดนตรีโดย วงโรหิตาจล
           ชมสุดยอดศิลปะการแสดงชั้นสูง โขนศาลาเฉลิมกรุง “ชุด หนุมานข้าราชบริพารพระจักรี” ถ่ายทอดผ่านการแสดงอันวิจิตรงดงามตระการตาและถูกต้องตามขนบจารีตแบบแผน ดำเนินเรื่องราวสั้นกระชับด้วยการพากย์-เจรจา และ เพลงหน้าพาทย์แบบโบราณ ชมความพิเศษสวยงามของเครื่องแต่งกายที่วิจิตรตามขนบเดิม ซึ่งสร้างสรรค์เพื่อการแสดงครั้งนี้โดยเฉพาะ พร้อมคำบรรยายตัววิ่งภาษาอังกฤษประกอบการแสดง

          เรื่องย่อ หนุมานข้าราชบริพารพระจักรี
          นนทุกอสูรผู้มีหน้าที่ล้างเท้าเทวดา นางฟ้า และถูกเทวดา นางฟ้า เขกหัวเ่ล่นจนหัวล้านนนทุกจึงขึ้นไป เฝ้าพระอิศวรบนยอดเขาไกรลาส ขอประทานนิ้วเพชรสามารถชี้ทำร้ายผู้อื่นได้ไว้ป้องกันตัวแต่เมื่อพระอิศวรประทานนิ้วเพชรให้ นนทุกกลับใช้นิ้วเพชรนั้นชี้ทำร้ายเทวดา นางฟ้า และกำเริบเที่ยวทำร้ายผู้อื่นไปทั่ว เมื่อพระนารายณ์ทราบเหตุจึงแปลงเป็นนางงามมาลวงนนทุกให้หลงชอบ แล้วหลอกล่อให้นนทุกรำตาม จนนนทุกเผลอใช้นิ้วเพชรชี้ขาตนเองหัก เมื่อกลับร่างเป็นพระนารายณ์ นนทุกได้กล่าวหมิ่นพระนารายณ์ ว่าเป็นถึงเทพแต่ต้องทำกลแปลงร่างเป็นนางมาลวงพระนารายณ์จึงประทานสัตย์ ในชาติหน้า ให้นนทุกลงมาเกิดเป็นอสูรมี ๑๐ พักตร์ ๒๐ กร มีฤทธิ์มาก ส่วนพระนารายณ์จะอวตารมาเป็นมนุษย์มี ๒ มือ และจะขอสู้กับนนทุกให้ได้ นนทุกจึงสาบานจะทำให้พระนารายณ์ต้องพรากจากคนรักและทนทุกข์ทรมาน จากนั้นพระนารายณ์จึงสังหารนนทุกสิ้นชีวิต นนทุกลงมาเกิดเป็นทศกัณฐ์เจ้าลงกา
           พระอิศวรเห็นเหตุการณ์จึงคิดให้พระนารายณ์มีทหารคู่ใจ และให้พระพายนำพลังและเทพอาวุธมารวมกันก่อกำเนิดเป็นหนุมาน เพื่อรอเป็นข้าทหารพระนารายณ์ มีพระพายเป็นพ่อ นางสวาหะเป็นแม่พระนารายณ์อวตารพร้อมทั้งพระลักษมี ลงมาเป็นพระรามและนางสีดา แล้วได้ออกเดินป่าตามคำสัตย์ของบิดาพร้อมด้วยพระลักษมณ์อนุชา ทศกัณฐ์ได้ทำอุบายให้มารีศแปลงเป็นกวางทองมาลวง นางสีดาหลงกลขอให้พระรามออกตามจับกวางทอง พระรามออกตามและเห็นว่ากวางผิดสังเกต จึงแผลงศรสังหาร ก่อนตายกวางทองร้องเป็นเสียงพระรามให้พระลักษมณ์ตามมาช่วย ทางด้านนางสีดาอยู่อาศรมตามลำพัง ทศกัณฐ์แปลงเป็นฤษีเข้าไปหานางสีดา และจับตัวนางไป พระราม พระลักษมณ์ ออกติดตามนางสีดา ได้พบกับหนุมาน และได้กองทัพวานรของหนุมานมาช่วยรบกับทศกัณฐ์ พระรามได้รับชัยชนะ รับนางสีดากลับคืนมาได้ ทั้งสามกษัตริย์เดินทางกลับมายังนครอโยธยา พระพรต พระสัตรุษ พระอนุชา จึงอัญเชิญพระรามขึ้นครองราชย์เพื่อความร่วมเย็นสงบสุขต่อไป