วิธีรักษาต้นกุหลาบหินเน่าเพราะรดน้ำมากไป

ไลฟ์สไตล์
วิธีรักษาต้นกุหลาบหินเน่าเพราะรดน้ำมากไป

กุหลาบหินเน่า เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอบ่อย ซึ่งกุหลาบหินเป็นพรรณไม้ในกลุ่ม ไม้อวบน้ำ เป็นพันธุ์ไม้จอมทรหดที่สามารถเก็บกักนํ้าไว้ตามส่วนต่างๆ เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตท่ามกลางความร้อนแห้งแล้ง

ไม้กลุ่มนี้ จึงเป็นกลุ่มที่มีกิ่งหรือใบอวบหนาไปด้วยนํ้า มีหลายสีหลายรูปทรง ทั้งสูงโปร่งและมีลักษณะเป็นพุ่ม รูปร่างอวบอ้วน และยังมีมาตรการป้องกันการระเหยของนํ้าด้วยการเคลือบผิวใบและลำต้น ทั้งยังมีชนิดที่มีขนอ่อนๆ สั้นๆ ปกคลุมด้วย กุหลาบหิน ซึ่งเป็นซัคคิวเลนท์พันธุ์หนึ่ง มีรูปทรงคล้ายดอกไม้ที่แผ่กลีบบานหลายชั้นนั่นเอง
 
รู้จักกุหลาบหินกันก่อน
 
ชื่อพืช กุหลาบหิน (Succulent)
ชื่อสามัญ Aeonium
วงศ์ Crassulaceae
ชื่อวิทยาศาสตร์ Aeonium nobile (Praeger) Praeger
โรครากเน่าในกุหลาบหิน อาการที่พบคือ ใบด้านล่างที่ติดกับโคนต้นนิ่ม บางใบที่ติดกับผิวดินมีอาการเน่าเละ ทรงพุ่มแผ่กางออกสังเกตเห็นต้นมีรอยแผลถลอกหรือช้ำเน่า อาจเป็นจุดสีน้ำตาล ต้องรีบตัดทิ้งเพราะจุดจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆจนอาจทำให้ต้นเน่าตายในที่สุด สาเหตุเกิดจากการรดน้ำมากเกินไป อากาศไม่ถ่ายเท วัสดุปลูกแน่นทึบ ไม่ระบายน้ำ
 
ขั้นตอนแก้ไข

STEP 1
 
กุหลาบหิน
 
• งดให้น้ำ รอจนดินค่อนข้างแห้ง ตรวจสอบ การรดน้ำ โดยใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มลงไปในดิน ทิ้งไว้สักครู่ แล้วดึงขึ้นมาจับดูถ้าปลายไม้ยังชื้นอยู่ก็ไม่ต้องรดน้ำ ถ้าไม้แห้งให้รดน้ำเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว
 
STEP 2
 
กุหลาบหิน
 
• ส่วนใหญ่ใบด้านล่าง ๆ จะเน่า ให้ตัดใบนั้นทิ้งโดยตัดให้ใกล้ลำต้นที่สุด
 
STEP 3
 
กุหลาบหิน
 
• เปลี่ยนวัสดุปลูกให้มีการระบายน้ำดีขึ้นโดยผสมทรายและอิฐทุบลงในวัสดุปลูกด้วย
 
STEP 4
 
กุหลาบหิน
 
• รดน้ำโดยใช้ช้อนเล็ก ๆ ตักน้ำรด หรืออาจใช้ขวดซอสหรือขวดน้ำยาคอนแท็คท์เลนส์ที่ไม่ใช้แล้วใส่น้ำบีบเป็นสาย ๆ ใส่ก้อนกรวดที่โรยอยู่โดยรอบ
 
กุหลาบหิน
 
หนังสือ “ดูแลต้นไม้ด้วยตัวเอง” ของสำนักพิมพ์บ้านและสวน จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนรักต้นไม้ เพราะได้รวบรวมปัญหาที่มักเกิดกับต้นไม้ที่นิยมปลูกเลี้ยง อาทิ กุหลาบ แคคตัส บัว เฟินก้านดำ ฯลฯ พร้อมเสนอวิธีแก้ปัญหาที่สามารถทำได้ด้วยตัวของคุณเอง
 
เรื่อง : อิศรา แพงสี
 


เรื่องที่เกี่ยวข้อง: [DAILY GUIDE] “ราสนิม” ขึ้นลั่นทม ทำไงดี?
ขอบคุณข้อมูลจาก: บ้านและสวน
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.baanlaesuan.com