5 อันดับบัตรเครดิตเงินคืน ที่ใช้ดีจนอยากบอกต่อ (อัพเดตปี 2018)

ไลฟ์สไตล์
5 อันดับบัตรเครดิตเงินคืน ที่ใช้ดีจนอยากบอกต่อ (อัพเดตปี 2018)

ของมันต้องมี 2018 บัตรเครดิตเงินคืน ที่ใช้ดีจนอยากบอกต่อ ดีแค่ไหนมาดูกัน…!!

สวัสดีค่าเพื่อนๆทุกคนก่อนอื่นเราขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่า เราเป็นพนักงานประจำที่แสนธรรมด๊า…ธรรมดา ที่ได้เงินเดือนที่จำกัดในแต่ละเดือน เป็นพวกรวยต้นเดือนจนปลายเดือน เอ้ย !! ไม่ใช่สิ เงินเดือนออกแล้วก็ต้องมาชำระหนี้ ต้องเป็น จนต้นเดือน รวยทั้งเดือน(เพราะใช้บัตรเครดิตรูดไปก่อน) ฮ่าๆ เราก็เลยคิดจะหาวิธีใช้เงินที่สามารถประหยัดการใช้จ่ายของเราได้มากที่สุด ซึ่งบัตรเครดิตเป็นวิธีๆหนึ่งที่เราใช้แล้วเวิร์ค เดี๋ยวนี้นะอะไรๆก็เราก็ใช้บัตรเครดิตหมด ก็มันได้พอยท์ มันมีโปรนู้นนั่นนี่นินา มาค่ะ…วันนี้เราจะเเชร์โปรโมชั่นบัตรเครดิตทั้งหลาย ที่ให้เงินคืนตามสไตล์สาวออฟฟิตอย่างเราๆที่ชอบเอาไว้ใช้ช้อปปิ้ง จะทำให้ประหยัดยังไง บอกเลยว่า บัตรเครดิตเงินคืน ที่ ShopBack จะมาแนะนำในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นของมันต้องมีประจำปี 2018 เลยทีเดียว ตามมา!!!
 
บัตรเครดิตเงินคืน
 
● TMB บัตรเครดิต so smartได้เงินคืน1% จากทุกยอดการใช้จ่าย
 
บัตรเครดิตเงินคืน
 
Image Credit : TMB
 
จริงๆแล้วมันจะมีแบบสำหรับสะสมพอยท์และก็แบบอื่นด้วยนะ แล้วเเต่คนจะชอบ แต่วันนี้เราจะขอแนะนำอันที่เราชอบเป็นพิเศษละกันนะคะ เราชอบแบบได้เงินคืนเลยไม่ต้องปวดหัวสะสมพอยท์ไปเรื่อยเเล้วค่อยแลกเป็นเงิน เราคิดว่าแบบได้เงินคืนเลยมันสะดวกและเห็นผลชัดดีและไม่ต้องยุ่งยาก ซึ่งข้อดีของเจ้าบัตรนี้ก็อย่างที่บอกไป คือได้เงินคืนและบัตรนี้สามารถผ่อนของ 0 % ได้ถึงสามเดือนเชียวนะ ซึ่งจะต้องมียอดการใช้ต่อ 1 การรูด ครั้งละ 1,000 บาทขึ้นไป สมมติรูดไป 1,000 บาท ก็โทรไปบอกทาง call center ว่าเราจะผ่อนจ่าย 3 งวด เขาก็จะทำให้เรา หรือว่าเราจะทำผ่าน App ของธนาคารเองก็ได้ สะดวกดี วิธีการนี้เราทำบ่อย สำหรับใครที่ไม่อยากจ่ายเงินเยอะๆภายในเดือนเดียว ก็สามารถใช้สิทธิ์การแบ่งจ่ายได้นั่นเอง แต่ว่าถ้าใครใช้สิทธิ์แบ่งจ่าย 3 งวดแล้ว ก็จะไม่ได้สิทธิ์เงินคืน  1%นะจ้ะ สำหรับคนที่จะทำเรื่องแบ่งจ่ายนั้น มีข้อที่ควรระวังนิดนึงก็คือ ต้องทำเรื่องก่อนที่บัตรเครดิตเขาจะสรุปยอดประจำเดือนออกมานะจ้ะ สำหรับข้อเสียของบัตรตัวนี้ คิดว่าอยู่ที่ ไม่ค่อยมีห้างที่ร่วมรายการกับบัตรเครดิต TMB สักเท่าไหร่ (ความคิดเห็นส่วนตัวจ้า) แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยติดเรื่องโปรโมชั่น อยากช้อปปิ้งเพลินๆแล้วได้เงินคืน เราแนะนำอันนี้จ้า
 
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ : www.tmbbank.com
 
ShopBack Tips : มีเทคนิคเพิ่มความประหยัดสำหรับนักช้อปออนไลน์มาบอก ทุกการช้อปปิ้งออนไลน์แต่ละครั้ง ให้เข้าไปที่ ShopBack ก่อน (มีทั้งเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น) จากนั้นก็ให้เลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าที่คุณสนใจตามปกติ ข้อดีก็คือ คุณจะได้รับเงินคืนเหมือนกันนะจ้ะ แถมใครใช้บัตรเครดิต TMB เมื่อกี้ที่เราแนะนำไปก็ยังได้เป็นเครดิตเงินคืนเพิ่มไปอีก 1% ทุกการรูดอีกด้วย
 
● บัตรเครดิต Citibank cashback platinum
 
บัตรเครดิตเงินคืน
 
Image Credit : Citibank
 
บัตรนี้ก็เป็นอีกหนึ่งใบที่ได้เครดิตเงินคืน เหมาะสำหรับคนเมืองที่เดินทางโดยรถไฟฟ้ารวมถึงสาวๆอย่างเราที่ช้อปปิ้งที่ร้านบู๊ทส์หรือว่าวัตสัน เพราะได้เงินคืนสูงถึง 5 % เลยทีเดียว แล้วก็สำหรับคนที่ชอบเรียก Grab เช่นเราเป็นต้น ก็ได้เงินคืนอีก 5% อะไรจะดีปานนั้น เราปลื้มมากเลย เรียก Grab ได้โค้ดลดราคาแล้ว ยังได้เงินคืนจากเจ้าบัตรเครดิต Citibank cashback platinum อีก ปกติใช้โค้ดลดราคาธรรมดาก็ว่าคุ้มแล้วนะ มาเจอแบบนี้อีกยิ่งรู้สึกดี๊…ดีย์อ่า (จำกัดยอดคืนเงินสูงสุด 500 บาท ต่อรอบบิลด้วย) ส่วนการใช้จ่ายอื่นๆก็ได้คืนอีก 1% คุ้มสุดพลังอีกเช่นกัน (จำกัดยอดคืนเงินสูงสุด 2,000 บาท ต่อรอบบิล)
 
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ : www.citibank.co.th
 
ShopBack Tips : ถ้าต้องใช้รถโดยสารสาธารณะ หรือพวกแท็กซี่เป็นประจำอยู่แล้วล่ะก็ แนะนำว่าใช้ Grab แบบตัดบัตรเครดิตดีกว่า เพราะนอกจากจะได้สะสมพ้อยท์แล้ว หากใช้บัตร Citi ที่แนะนำไปก็ยังได้เครดิตเงินคืน ประหยัดไปอีก แถมใครเรียก Grab ผ่าน ShopBack ก็ยังได้ส่วนลดเป็นเงินคืนอีกด้วย พลัสความคุ้มแบบนี้ ไม่ใช้จะเสียใจนะจ้ะ
 
● บัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า
 
บัตรเครดิตเงินคืน
 
Image Credit : Tesco Lotus visa
 
บัตรเครดิตนี้ แนะนำสำหรับสายเเม่บ้านที่ต้องซื้อของเข้าบ้านอยู่เป็นประจำหรือคนที่อยู่กันเป็นครอบครัวที่ต้องมีการจับจ่ายซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตอยู่เป็นประจำ ข้อดีของเจ้าบัตรเครดิตใบนี้ก็คือได้เป็นคูปองเงินสดสำหรับการซื้อสินค้าครั้งต่อไปที่ห้างโลตัส ซึ่งที่จริงเทสโก้ โลตัส เขาจะมีบัตร Club Card เอาไว้สะสมแต้มอยู่แล้ว แต่บัตรเทสโก้ โลตัสใบนี้ก็มีความพิเศษตรงที่เค้าจะใส่หมายเลข Club Card ไว้ที่หลังบัตรเลย ซึ่งเรียกได้ว่าผู้ใช้งานอย่างเราก็จะได้ทั้งสะสมแต้มเพื่อแลกคูปองเงินสด เอาไว้ใช้ในครั้งต่อไป และได้เป็นเครดิตเงินคืนอีก เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากๆเชียวหล่ะ
 
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ : www.tescolotusfs.com
 
● บัตรเครดิตกรุงศรี แพลทินัม
 
บัตรเครดิตเงินคืน
 
Image Credit : Krungsri
 
บัตรเครดิตเงินคืนอีกหนึ่งตัว ที่เหมาะสำหรับคนเมืองอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะสายขับรถกับการเติมน้ำมันบางจาก ก็รับเครดิตเงินคืน 2% เมื่อจ่ายค่าน้ำมันครบทุก 800 บาท หรือจะเป็นสายรถไฟฟ้าก็ดี เพราะแลกรับเครดิตเงินคืนถึง 18% เมื่อใช้จ่ายที่รถไฟฟ้า BTS หรือ MRT ในยอดการใช้งาน 300 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิป โดยแลกกับคะแนนสะสมกรุงศรีโบนัส 300 คะแนน ส่วนสายของกินก็คุ้มได้เช่นกัน ด้วยการแลกคะแนนสะสมผ่าน 7-eleven เป็นคูปองแทนเงินสดได้ ส่วนสายความสวยงามเเบบเราก็สามารถแลกรับเครดิตเงินคืน 150 บาทที่ Watson และ Boots โดยใช้คะแนนสะสมกรุงศรีโบนัส 1,000 คะแนน นอกจากนี้ สายเที่ยวก็สามารถเเลกรับตั๋วเครื่องบินไปกลับได้อีกด้วย หูยยย….เเละที่พิเศษสุดๆสำหรับสาวก Apple ก็คือ สามารถผ่อนสินค้าได้นานถึง 10 เดือน ด้วยดอกเบี้ย 0 เปอร์เซนต์ บอกเลยว่าสาวก Apple ห้ามพลาดจ้า หรือถ้าใครไม่ได้ฝักใฝ่สายไหนเป็นพิเศษก็รับเป็นเครดิตเงินคืนล้วนๆ โดยการสะสมโบนัสเอาได้เช่นกัน เพราะทุกๆ 5,000 คะเเนน ก็สามารถเเลกรับเครดิตเงินคืนได้ 500 บาท แอบบอกหน่อยว่าอาจจะต้องสะสมคะแนนโบนัสกันนานหน่อย แต่รับรองได้เงินคืนชัวร์จ้า
 
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ : www.krungsricard.com
 
● บัตรเครดิต UOB YOLO Platinum
 
บัตรเครดิตเงินคืน
 
Image Credit : UOB
 
บัตรเครดิตน้องใหม่ใบนี้ เรียกว่าน่าสนใจไม่เเพ้ใบอื่นๆเลยหล่ะ เค้ามีโปรโมชั่นพิเศษให้เงินคืนสูงสุด 10% (จำกัดยอดคืนเงินสูงสุด 200 บาทต่อรอบบิล) ใช้ได้ถึงก่อน 30 มิถุนายน 2018 นี้ สำหรับเพื่อนๆที่ใช้บริการรถไฟฟ้า, Grab, Uber หรือช้อปปิ้งออนไลน์อย่างร้าน Shopee รวมทั้งสายกินก็ได้สิทธิ์แบบนี้เช่นกันนะ ไม่ว่าจะเป็น Ubereats , Burger King, FamilyMart หรือจะเป็นร้านขวัญใจสาวๆอย่าง Boots, Watson, Matsumoto Kiyoshi ก็พากันมาร่วมรายการ และรับเงินคืน 1% เช่นกันเมื่อใช้จ่ายอื่น (จำกัดยอดเงินคืนสูงสุด 2,000บาท รวมกับโปรโมชั่นที่ได้เงินคืน 10%)
 
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.uob.co.th
 
นาทีนี้ถือว่าทุกเจ้าล้วนเข้าแข่งขันกันอย่างดุเดือดเลยทีเดียว งัดเอาโปรโมชั่นดีๆมาแข่งกันเพียบ เพื่อนๆลองพิจารณาดูว่าโปรโมชั่นของเจ้าไหนสอดคล้องกับความต้องการของเพื่อนๆมากที่สุด ลองเปรียบเทียบกันดูกันนะ สำหรับข้อแนะนำที่อยากจะฝากไว้สำหรับการใช้บัตรเครดิตก็คือ อย่าพยายามจ่ายล่าช้านะ เพราะถ้าจ่ายล่าช้าแล้วอาจจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม จากที่รู้สึกว่าประหยัดได้มากกว่า ก็อาจจะทำให้ต้องมาเสียเงินกับค่าธรรมเนียมพวกนี้แทน สำหรับวิธีการแก้ปัญหา ถ้าเกิดว่าลืมจ่ายขึ้นมา ก็คือ ให้โทรไปแล้วขอยกเว้นค่าธรรมเนียม (ซึ่งก็สุดแล้วแต่ว่าทางเขาว่าจะอนุมัติหรือเปล่า) ยังไงก็ใช้กันอย่างมีสติกันด้วยนะจ้ะ ด้วยความหวังดีจาก ShopBack


ขอบคุณบทความจาก ShopBack Blog