วันนี้ทีมงาน my home ยกทีมเดินเท้าฝ่าทุ่งนา เดินตามคันนา มุ่งหน้าตรงสู่ บ้านสีขาว หนึ่งในบ้านที่ส่งประกวดในโครงการ Show me your home ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางทุ่งนา บรรยากาศแรกหลังจากที่ทุกคนวางสัมภาระ และอุปกรณ์ในการทํางานก่อนลงมือถ่ายบ้านคือ เราต่างคนต่างยิ้มให้กัน และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ บ้านสีขาวหลังนี้น่าอยู่สุด ๆ !! ”

 

 

 

ทิวทัศน์จากหน้าบ้านมองเห็นผืนนาจรดท้องฟ้า และยอดดอยเชียงดาวที่ซ่อนตัวอยู่หลังมวลเมฆ

 

บ้านสีขาวฉาบปูนทรงสง่า ตัดกับไม้เก่าที่ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมโคโลเนียลแบบฝรั่งเศส จากโรงแรมที่หลวงพระบาง นอกจากความสะดุดตาของอาคารภายนอกแล้ว ทําเลที่ตั้งของบ้านสีขาวหลังนี้ ที่อยู่กลางทุ่งนา มีบึงเล็ก ๆ นําพาความชุ่มชื้นเข้าบ้าน และ หันหน้าเข้าหาดอยหลวงเชียงดาวแบบไม่เขินอาย เป็นเสมือนทําเลในฝันของใครหลาย ๆ คน นั้นยังช่วยส่งเสริมตัวบ้านให้ดูโดดเด่น และ ดึงดูดผู้ที่แวะเวียนเข้ามาอีกด้วย คุณฟ้าใส วิเศษกุล นักศิลปะบำบัดพื้นเพเดิมเป็นคนกรุงเทพฯ เล่าให้เราฟังถึงเหตุผลที่สร้างบ้านสีขาวท่ามกลางทุ่งนาทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่คนพื้นถิ่นในย่านนี้ว่า

 

 

 

“ เนื่องจากพี่เคยทํางานที่เชียงใหม่ระยะหนึ่ง แล้วมีโอกาสได้เที่ยวไปด้วย เลยทําให้รู้สึกประทับใจกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ เราชอบเชียงดาว ประกอบกับมีเพื่อนที่เป็นนักบําบัดด้วยกันทั้งมูลนิธิมะขามป้อมนักเคลื่อนไหวบําบัดอยู่รอบ ๆ บริเวณนี้ หลายคนจึงขอติดต่อซื้อที่ ตอนแรกก็ตั้งใจจะสร้างเป็นมูลนิธิ เนื่องจากพี่เคยทํางานบ้านพักฉุกเฉินสําหรับผู้หญิงโดนทําร้าย แต่ด้วยความที่ยังไม่ลงตัวเรื่องการงาน และภายหลังเรารู้สึกว่ามันค่อนข้างเหนื่อย เลยทําเป็นบ้านสําหรับพักผ่อนให้เพื่อนฝูงมาใช้เวลาดี ๆ ด้วยกันที่นี่คงจะดีกว่า ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อมีเพื่อนมาบ้านก็จะนั่งอ่านหนังสือวาดรูป เราเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ทําอาหารบ่อยนัก จึงมีแค่ส่วนเตรียมอาหารอย่างง่าย ๆ เท่านั้น ไม่ถึงกับเป็นครัวจริงจัง ”

 

 

มุมนั่งเล่นซึ่งรับลมที่พัดผ่านได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีช่องลมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้พื้นที่ภายในเย็นสบายเหมาะกับการนั่งพักผ่อนตลอดวัน

 

 

นอกจากทําเลที่ตั้ง ซึ่งไม่มีแม้แต่แนวเขตรั้ว ทําให้บ้านไม่รู้สึกอึดอัดแถมยังสะท้อนถึงพฤติกรรมที่เรียบง่าย เอื้ออาทร และพึ่งพิงกันของเพื่อนบ้านในละแวกนี้ แล้วเรายังรู้สึกว่าตัวบ้านเอง ก็มีความโดดเด่นด้วยสัดส่วน และวัสดุที่สะดุดตา บรรยากาศดูโปร่ง โล่ง  อบอุ่น ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งให้ความรู้สึกเคอะเขินแม้แต่น้อย

 

 

มุมนั่งวาดภาพและอ่านหนังสือ นำบานประตูจากบ้านเก่า มาวางบนโครงขาเหล็ก  ได้โต๊ะเก๋ๆไม่เหมือนใคร

 

 

“ ลักษณะตัวบ้านภายนอกนี้คุณแม่เป็นคนให้แรงบันดาลใจ เนื่องจากมีความประทับใจในโรงแรมสมัยที่ไปเที่ยวหลวงพระบาง จึงได้บอกกับรุ่นน้องที่รู้จักกัน ซึ่งเป็นสถาปนิกให้ช่วยออกแบบบ้านสีขาวหลังนี้ ให้มีหน้าตาคล้ายกับโรงแรมนั้น บ้านสีขาวหลังนี้จึงออกมามีช่องเปิดเยอะแยะคล้ายโรงแรม  แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่ได้ร้อนเหมือนที่อื่น ๆ ในประเทศ ทําให้เวลาใช้งานจริง ช่องเปิดเหล่านี้กลายเป็นช่องลม และช่องแสงนําความสบายเข้าตัวบ้านแทน  แถมยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย ”

 

 

ที่นั่งเล่นหลังบ้านซึ่งมีระแนงบังแดดซ้อนใต้หลังคาอีกที  เนื่องจากหลังคาสูงชายคาจึงไม่สามารถกรองแดดในองศาเฉียงได้

 

“ เรายังอยากให้บ้านดูสะอาดโปร่งตา  ภายในจึงใช้สีขาวคุมโทนให้ดูสะอาด เสาไม้เก่าก็ได้มาจากบ้านเก่าแถวเชียงดาว ซึ่งเหมามาทั้งหลัง ก่อนจะนํามาถอดประกอบ เพื่อสร้างบ้านหลังนี้ วัสดุส่วนใหญ่จะมีไม่กี่ชนิด  เพื่อความง่ายและประหยัด พื้นก็ใช้ซีเมนต์ขาวขัดมัน  ส่วนประตูไม้ก็ย้อมเสี้ยนขัดสีขาว  ซึ่งช่างที่ทําบ้านจะแอบเมาท์กันว่า บ้านหลังนี้ยังเก็บงานไม่เสร็จ ”

 

 

 

โคมไฟติดผนังซึ่งคุณฟ้าใสนำหมวกผ้าปัก และผ้าพันคอมาสวมตัวโคม  ได้ลูกเล่นสุดน่ารักประจำหน้าห้อง

 

นอกจากความสวยงามได้สัดส่วนตามแบบสถาปัตยกรรมโคโลเนียลแล้ว ผังด้านในที่ชั้นล่างยังโปร่ง โล่งถึงกันหมดทําให้ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความสะดวก เพราะไม่มีเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน รายละเอียดด้านในซึ่งเป็นฝีมือการตกแต่งของคุณฟ้าใสเจ้าของบ้าน เป็นตัวส่งเสริมให้บ้านสีขาวหลังนี้ มีความน่ารักลงตัว และ ดูมีเอกลักษณ์ของความเป็นพื้นถิ่นเข้ากับสภาพแวดล้อมเป็นอย่างดี

 

 

“ คิดโดยคร่าว ๆ หมดค่าแต่งบ้านไปประมาณแสนนึง  ซึ่งถือว่าไม่แพงกับบ้านที่มีพื้นที่ขนาดนี้ และยังมีห้องนอนถึง 6 ห้อง เราอยากใช้งบให้น้อยที่สุด จึงเลือกของตกแต่งบ้านด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีของจากตรอกเล่าโจ๊ว ซึ่งเป็นแหล่งขายของพื้นเมืองจากชาวเขา แถวตลาดวโรรส ผ้าจากพาหุรัดบ้าง  สําเพ็งบ้าง และ งานสานไม้ไผ่แถวละแวกนั้น ต้องการให้บ้านมีกลิ่น folk คือมีความเป็นพื้นถิ่นหน่อย ๆ  แต่ก็ไม่อยากให้โบราณมากเลยทาสีพื้นให้เป็นขาวก็จะดูสบายตาโปร่ง ๆ อย่างเก้าอี้ หรือ แหย่งที่มาเป็นสีไม้เข้ม ๆเคลือบแล็กเกอร์วาว ๆ เราก็จับทาสีขาวหมด

 

 

 

โถงนั่งเล่นหน้าห้องนอนด้านบนเหมาะสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนอ่านหนังสือหรือจิบชาตอนบ่ายพร้อมดูวิวภายนอก

 

บ้านสีขาวหลังนี้สร้างโดยช่างพื้นถิ่น งานจะไม่เนี้ยบมากจนเกินไป เราสามารถเห็นร่องรอยของการทํางานได้ไม่ยาก ประตู หน้าต่าง ที่ขัดสี แต่ละบานอาจดูสีไม่เสมอกัน แต่งานแบบนี้ หาไม่ได้จากการซื้อบานสําเร็จรูปที่สั่งทําจากโรงงาน ต้องบอกเลยว่าถึงจะไม่เนี้ยบ แต่ก็ออกมาดูดี และมีเอกลักษณ์ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของงานพื้นถิ่น “ ทั้งการออกแบบ และ ก่อสร้างใช้เวลาประมาณ 1 ปี จริง ๆ แล้วทําแบบไม่นาน แต่ด้วยความที่เราใช้ช่างท้องถิ่นทําให้มีอารมณ์หนืด ๆ บ้าง  เดี๋ยวปีใหม่ เดี๋ยวสงกรานต์ แต่สุดท้ายก็เสร็จสมความตั้งใจ นอกจากนี้สถาปนิกยังช่วยเราประหยัดค่าตกแต่ง โดยเอาเศษเหล็กโครงหลังคาที่เหลือ มาเชื่อมเป็นเตียงให้ครบทุกห้อง เก๋ไปอีกแบบ ”

 

 

โมบายล์ที่เกิดจากการนำโคมไฟ คละแบบมารวมกัน ซึ่งคุณฟ้าใสเป็นคนคิดให้ช่างช่วยติดตั้งให้

 

 

ถึงแม้ว่าผังของห้องนอนแต่ละห้องจะไม่ต่างกันมากนัก แต่เรายังเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งสร้างความแตกต่างให้แต่ละห้องได้เป็นอย่างดี ผ่านโคมไฟโต๊ะหัวเตียง และ ของตกแต่งอื่น ๆ ซึ่งมีรายละเอียดต่างกันในแต่ละห้อง ส่วนใหญ่เป็นของทํามือ หรือ ของพื้นเมือง นำมาสร้างบรรยากาศ แบบที่เจ้าของบ้านอยากได้ให้ลงตัว ในอนาคต คุณฟ้าใสยังคงคิดว่าอาจจะมาลงหลักปักฐานที่นี่อย่างถาวร และมีไอเดียที่จะค่อย ๆ เนรมิตพื้นที่รอบ ๆ บ้านให้สวยขึ้น

 

ถึงแม้ว่าผังของห้องนอนแต่ละห้องจะไม่ต่างกันมากนัก แต่เรายังเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งสร้างความแตกต่างให้แต่ละห้องได้เป็นอย่างดี ผ่านโคมไฟโต๊ะหัวเตียง และ ของตกแต่งอื่น ๆ ซึ่งมีรายละเอียดต่างกันในแต่ละห้อง ส่วนใหญ่เป็นของทํามือ หรือ ของพื้นเมือง นำมาสร้างบรรยากาศ แบบที่เจ้าของบ้านอยากได้ให้ลงตัว ในอนาคต คุณฟ้าใสยังคงคิดว่าอาจจะมาลงหลักปักฐานที่นี่อย่างถาวร และมีไอเดียที่จะค่อย ๆ เนรมิตพื้นที่รอบ ๆ บ้านให้สวยขึ้น

 

 

 

บ้านสีขาวหลังนี้แม้จะเป็นเพียงบ้านตากอากาศ ที่เจ้าของยังไม่ได้มาอยู่เต็มตัว แต่เราสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเรียบง่าย และ เป็นมิตรที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามความเอาใจใส่ดูแล my home เชื่อว่าอะไรก็ตามที่ทําด้วยความรัก ความใส่ใจ สิ่งนั้นย่อมฉายแสงงดงาม และอบอุ่นด้วยความรักเสมอ แม้เป็นเพียงรูปสลักจากหินหนึ่งก้อน ก็จะกลับดูมีชีวิตขึ้นมาได้ ด้วยความรักจากผู้สร้าง แล้วนับประสาอะไรกับบ้านหนึ่งหลัง ที่ผูกพันโดยตรงกับมนุษย์อย่างเรา ๆ ล่ะคะ : )

 

 

 

เจ้าของ : คุณฟ้าใส วิเศษกุล

 

เรื่อง : Sine chU

 

ภาพ : อุ้ม เชาวนปรีชา , อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม

 

ผู้ช่วยช่างภาพ :  ปฎิยุทธ์ พิมพ์ทอง

 

สไตล์ : เกษม์จงกล พูลล้น

 

ผู้ช่วยสไตล์ : พักตร์ชนก ภูยานนท์

 

เรียบเรียง : ออ – ร – ญา