'นมแม่' รากฐานแห่งชีวิต

ไลฟ์สไตล์
'นมแม่' รากฐานแห่งชีวิต

เพราะนมแม่ คือวัคซีนหยดแรกที่จะช่วยปกป้องลูกน้อย และเสริมภูมิคุ้มกันให้กับก้าวแรกของการเจริญเติบโต ความสำคัญของนมแม่จึงเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกรู้กันเป็นอย่างดี

เรื่องโดย : ปรภัต จูตระกูล team content www.thaihealth.or.th 
 
ข้อมูลจาก : งานสัปดาห์นมแม่โลก 2561 และหนังสือ คู่มือแม่ทำงานเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย
 
 
...เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนม ให้ลูกดื่มกิน...
 
หลายคนคงคุ้นชินกับท่อนเพลงนี้จาก เพลง ค่าน้ำนม ที่แสดงถึงที่มาของนมแม่ ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ที่กลั่นเลือดจากร่างกายในช่วงหลังคลอดให้กลายเป็นน้ำนมที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เหมาะกับลูกน้อยแรกเกิด ให้มีภูมิคุ้มสู่การเจริญเติบโตต่อไปในอนาคต
 
เพราะนมแม่ คือวัคซีนหยดแรกที่จะช่วยปกป้องลูกน้อย และเสริมภูมิคุ้มกันให้กับก้าวแรกของการเจริญเติบโต ความสำคัญของนมแม่จึงเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกรู้กันเป็นอย่างดี จึงเกิดเป็นสัปดาห์นมแม่โลก ซึ่งตรงกับวันที่ 1-7 สิงหาคมของทุกปี โดยประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายพันธมิตรนมแม่โลก คือ WABA (World Alliance for Breastfeeding Action) ที่มีภารกิจในการปกป้อง ส่งเสริม และสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และสื่อสารให้สังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้มากขึ้น โดยในปีนี้มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย จัดงานร่วมกับ กรมอนามัย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน องค์การยูนิเซฟประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้ธีม “นมแม่ รากฐานแห่งชีวิต Breastfeeding Foundation of Life”
 
“นมแม่ก็เหมือนรากแก้วในการที่จะทำให้ทุกชีวิตเจริญเติบโตขึ้นมา” พญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวภายในงานสัปดาห์นมแม่ว่า ได้เฟ้นหาและมอบรางวัลให้กับครอบครัวนมแม่ต้นแบบทั้ง 20 ครอบครัว ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วน 6 เดือน และกินมนมแม่พร้อมอาหารตามวัย 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตลอดจนคุณแม่ที่มีความรู้เรื่องพัฒนาการของลูก และดูแลลูกด้วยคู่มือพัฒนาการเด็ก DSPM จากสถาบันพัฒนาการเด็กแห่งชาติ และที่สำคัญครอบครัวต้องมีทักษะในการสื่อสารเพื่อให้สังคมเข้าใจและสนับสนุนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกด้วย ซึ่งการที่ให้ลูกกินนมแม่เป็นเหมือนรากฐานที่จะทำให้เด็กเจริญเติบโต แข็งแรง มีพัฒนาการสมวัย
 
นมแม่
 
“การที่จะให้ลูกมีพัฒนาการสมวัย คุณแม่ต้องเข้าใจว่าแต่ละช่วงอายุ ลูกสามารถทำอะไรได้บ้าง และก็ดูแลให้เขาทำได้ ซึ่งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ลูกมองหน้าแม่ คุยกับแม่ ฟังเสียงแม่ในระหว่างกินนม ซึ่งพอลูกโตขึ้นในแต่ละช่วงอายุ ก็จะมีการดูแลเรื่องพัฒนาการให้สมตามวัย” พญ.ศิริพร กล่าวทิ้งท้าย
 
โภชนาการเอกอุดมในนมแม่
 
นมแม่มีสารอาหารและสารต่าง ๆ มากกว่า 200 ชนิด มีสัดส่วนที่เหมาะสมทั้งปริมาณ และคุณภาพ เหมาะกับระบบทางเดินอาหารและไตของทารกที่ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ และยังปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของลูกทุกระยะการเจริญเติบโตอีกด้วย
 
- โปรตีน มีปริมาณที่พอเหมาะกับการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของทารก ย่อยง่าย และดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณสมบัติที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สารป้องกันเชื้อโรค สารช่วยการเจริญเติบโต

- ไขมัน มีกรดไขมันที่จำเป็น “ไลโนเลนิค” และ “ไลโนเลอิค” จำนวนมากเช่นเดียวกับกรดไขมันไม่อิ่มตัวสายโซ่ยาว อาทิ ดีเอชเอและเอเอ ซึ่งช่วยพัฒนาระบบสมอง และจอตา ช่วยสร้างความสมบูรณ์แข็งแรงให้แผ่นหุ้มเส้นประสาท ทำให้การรับส่งสัญญาณของเส้นประสาทระหว่างสมอง และร่างกายมีประสิทธิภาพ

- คาร์โบไฮเดรต แลคโตส มีมากที่สุดในน้ำนมคน เป็นส่วนสำคัญสำหรับการพัฒนาการของสมองและระบบประสาท เชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับขนาดของสมอง และมีโอลิโกแซคคาไรด์มากกว่า 130 ชนิด ส่งเสริมสุขภาพและช่วยป้องกันการติดเชื้อในลำไส้

- วิตามินในนมแม่ มีทั้งวิตามินละลายในไขมันและละลายในน้ำ เป็น “ตัวช่วย” เพิ่มความสามารถในการดูดซึมของแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กและสังกะสี

- แร่ธาตุในนมแม่ มีปริมาณที่เหมาะสมและดูดซึมได้ดี เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัส โดยเฉพาะธาตุเหล็กดูดซึม (50-70%) ดีกว่านมผง (5-10%)
ฮอร์โมน และเอ็นไซม์ มีอยู่มากมาย เช่น ฮอร์โมน ไทรอยด์ โปรแลคติน ออกซิโทซิน และอื่น ๆ ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต เผาผลาญสารอาหาร และการทำงานของอวัยวะ เช่น เอ็นไซม์ไลเปสช่วยย่อยไขมันในนมแม่ ทำให้การดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นมแม่
 
 
 
การให้นมลูกสร้างพลังชีวิตให้กับแม่
 
นอกจากประโยชน์ที่ทารกน้อยจะได้รับแล้ว คุณแม่ก็ได้ประโยชน์จากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เต็ม ๆ และถือเป็นการสร้างพลังชีวิตให้กับตนเองอีกด้วย
 
- ทางร่างกาย การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนออกซิโทซินในร่างกายแม่ ทำให้แม่รู้สึกผ่อนคลาย และมีความรักใคร่ ทะนุถนอนทารก การให้ลูกกินนมแม่ทันทีหลังคลอดจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรแลคติน และออกซิโทซินในร่างกาย ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างและหลั่งน้ำนม และกระตุ้นให้มดลูกหดตัว ลดการตกเลือดหลังคลอด ช่วยขับน้ำคาวปลา และทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว

- หุ่นเพรียวจากการให้นมลูก เนื่องจากไขมันที่ถูกสะสมในร่างกายในช่วงตั้งครรภ์จะถูกใช้ในการผลิตน้ำนม การยืดระยะเวลาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานขึ้นจะช่วยให้แม่สามารถลดน้ำหนักตัวได้เร็ว การให้ลูกกินนมบ่อย ๆ หรือให้ลูกกินนมแม่เพียงอย่างเดียวจึงมีส่วนในการช่วยให้แม่สามารถลดน้ำหนักตัวได้เร็ว

- ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ส่งผลดีต่อแม่ ช่วยลดอัตราการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ และโรคกระดูกพรุน

- คุมกำเนิดตามธรรมชาติ การให้นมลูกเป็นการคุมกำเนิดตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในช่วง 6 เดือนแรกเท่านั้น โดยคุณแม่ต้องให้นมแม่อย่างเดียว ไม่เสริมนมผสมน้ำ หรืออาหารอื่น ๆ และต้องให้ลูกดูดนมจากเต้าบ่อย ๆ ห่างกันไม่เกิน 6 ชั่วโมง โดยต้องให้ในช่วงกลางคืนด้วย เพราะการดูดนมเป็นการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน โปรแลคติน ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ได้ดี
 
นมแม่

Cr. lizasadler
 
ลิซ่า-อลิซาเบธ กับความฟินในการให้นมลูก 

“ตอนกลับบ้านมาเหนื่อย ๆ เป็นนาทีทองของชีวิตมากที่ได้ให้นมลูก เราหายเหนื่อย แม่ฟิน ลูกฟิน วินวินมากเลย เป็นเวลาโรแมนติคของแม่ลูกมาก” ลิซ่า-อลิซาเบธ แซดเลอร์ ลีนานุไชย พิธีกร นางแบบ นักแสดงและผู้ประกาศ ในฐานะคุณแม่ลูกสอง เล่าด้วยรอยยิ้มถึงการให้นมลูกว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ประโยชน์อย่างมหาศาล การสบตาเขาทำให้เขามีความมั่นคงในจิตใจ เขารู้สึกว่าไม่มีใครทิ้งเค้า อยู่กับแม่แล้วเค้าปลอดภัย นอกจากนี้อย่าคิดว่าการอุ้มลูกบ่อยจะทำให้ลูกติด อยากให้อุ้มลูกบ่อย ๆ เพราะเมื่อลูกโตเราจะไปขออุ้มตอนนั้นก็ไม่ได้แล้ว
 
นมแม่

Cr. unpuwanart
ความสุขของครอบครัวคุนผลิน 

“ข้อเสียอย่างเดียวที่เกิดจากนมแม่คือ ผมไม่รู้ว่านมจะมาเมื่อไหร่” อั๋น-ภูวนาท คุนผลิน นักร้อง นักจัดรายการวิทยุ นักแสดง ในฐานะคุณพ่อลูกหนึ่ง เล่าถึงความกังวลที่เกิดขึ้นในช่วงแรกเพราะกลัวว่าลูกจะหิว เกิดเป็นภาวะเครียด แต่จะให้กำลังใจกับภรรยาตลอดเพราะไม่ต้องการให้เครียด และพยายามทำให้ภรรยาผ่อนคลาย ซึ่งหลังจากภรรยาคลอดลูกแล้วพากลับมาบ้านก็ต้องการเลี้ยงด้วยตนเองไม่พึ่งพี่เลี้ยง ซึ่งวันนั้นลูกร้องทั้งคืน แต่ทุกครั้งที่ลูกร้องจะมองหน้าภรรยาและหัวเราะให้กัน สร้างความสุขให้กัน เพราะตราบใดที่ลูกไม่ป่วยก็ไม่เป็นห่วง
 
จ๋า-อลิสา พันธุศักดิ์ ภรรยาของอั๋น ภูวนาท เล่าเสริมว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือนมไม่พอ โดยจะรู้ทันทีเพราะลูกร้องหลังจากกินนมได้สักพัก จึงแก้ปัญหาด้วยการปั๊มนมเก็บเอาไว้สำรอง และเริ่มวัดว่าในแต่ละวันตนมีน้ำนมเท่าไหร่ และจะให้ลูกกินนมเท่าไหร่ เพราะไม่อยากให้ลูกกินนมเยอะเกินไปจะทำให้ลูกอาเจียน
 
นมแม่

Cr. 2popetorn

- ตู่-ภพธร กับการให้กำลังใจภรรยา

“สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องไม่เครียด คนที่อยู่ข้าง ๆ ต้องเข้าใจด้วยว่าภรรยาเครียดเพราะอะไร เราจึงต้องทำให้บรรยากาศภายในบ้านแฮปปี้มากที่สุด” ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ นักร้อง นักแสดง ในฐานะคุณพ่อลูกหนึ่ง เล่าว่าทางด้านการจัดการไม่ได้ช่วยอะไร แต่ในแง่ของการให้กำลังจะอยู่ข้าง ๆ เต็มที่ เพราะตนเข้าใจว่ากว่าจะให้นมลูกได้ แม่ต้องผ่านอะไรมากมาย ทั้งเจ็บ ทั้งกังวลว่าน้ำนมจะไม่ออก และอื่น ๆ มากมาย ตนจึงอยู่เป็นกำลังใจให้เท่านั้น และคอยรองรับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและฮอร์โมนของเขา ซึ่งจะต้องใจเย็นที่สุดในการให้กำลังใจ และเข้าใจภรรยา
 
นมแม่
 
ภาวะเครียดที่เกิดขึ้นกับคุณแม่มือใหม่อาจเกิดกับหลาย ๆ ครอบครัว โดยสิ่งสำคัญที่คุณพ่อสามารถช่วยได้คือการเป็นที่ระบายและรองรับอารมณ์ของคุณแม่อย่างเข้าใจ เพราะภารกิจใหญ่ในการเลี้ยงลูกในช่วงแรกเกิดคือการให้นมแม่ การอยู่เคียงข้าง คอยกุมมือให้กำลังใจและมอบความรัก ความสุขให้กันและกันจึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อจะทำให้กับคุณแม่ได้
 
นอกเหนือจากความอิ่มที่ลูกได้รับ ยังได้ไออุ่นจากรักของแม่ที่โอบกอดลูกในขณะที่กินนมอีกด้วย เพราะนมแม่เปรียบเป็นรากแก้วของการวางรากฐานให้เด็กไทยมีต้นทุนชีวิตที่ดี หากชีวิตเปรียบเป็นการเรียนรู้ “นมแม่” ก็เปรียบเป็นรากฐานของการเรียนรู้ตลอดชีวิต
 
...ใช่เพียงอิ่มท้อง ที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น
 
อุ่นไอรักอุ่นละมุน ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน...
 
-เพราะนมแม่ คือรากฐานแห่งชีวิต-