วัดเทวราชกุญชร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิด วรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๙๐ ถนนศรีอยุธยา แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร อาณาเขต ทิศเหนือติดกับถนนศรีอยุธยา
|
วัดเทวราชกุญชร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิด วรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๙๐ ถนนศรีอยุธยา แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร อาณาเขต ทิศเหนือติดกับถนนศรีอยุธยา ตอนโค้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาและเขตท่าวาสุกรี ทิศใต้ติดกับปากคลองผดุงกรุงเกษม และตลาดเทวราชของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทิศตะวันออกติดกับถนนศรีอยุธยา และตลาดเทวราชของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทิศตะวันตกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาและเขตอภัยทานท่าน้ำวัดเทวราชกุญชรที่ดิน ที่ตั้งวัดมีจำนวน ๒๐ ไร่
วัดเทวราชกุญชร นามเดิมว่า “สมอแครง” เป็นวัดเก่าแก่โบราณ มีมาก่อนสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ ปฐมกษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ได้ทรงสถาปนาใหม่ ต่อมาเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี (ต้นสกุลมนตรีกุล) พระโอรสของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ จากนั้น กรมพระพิทักษ์เทเวศร (ต้นสกุลกุญชร ณ อยุธยา) พระนามเดิมว่า “พระองค์ เจ้ากุญชร” พระราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงบูรณ์ปฏิสังขรณ์
วัดเทวราชกุญชร ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๑๘๕๐ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๐ เดิมเป็นวัดราษฎร์สร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เหตุที่เรียกกันว่าวัดสมอแครง เล่ากันว่าเพราะมีต้นสมอร่องแร่งมาก แต่บางท่านสันนิษฐานว่า คำว่าสมอ เพี้ยนมาจาก คำว่า ถมอ (ถะมอ) เป็นภาษาเขมรแปลว่า หิน วัดนี้คงเรียกกันครั้งแรกว่า ถมอแครง แปลว่า หินแกร่งหรือหินแข็งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระองค์ทรงรับเป็นพระอารามหลวงและพระราชทานนามว่า “วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร” พระองค์ทรงนำคำว่า เทวราช มานำหน้าพระนามของพระองค์เจ้ากุญชร ซึ่งเป็นพระนามเดิมของกรมพระพิทักษ์เทเวศรผู้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้
พระอุโบสถ
มีขนาดใหญ่และสูง กว้าง ๑๗ เมตร ยาว ๓๖ เมตร กรมพระพิทักษ์เทเวศรทรงสร้างมีเขตพัทธสีมา กว้าง ๒๖ เมตร ยาว ๔๓.๕๐ เมตร มีกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ ที่มุมกำแพงแก้วมีเจดีย์อยู่ทั้ง ๔ มุม ภายในกำแพงแก้วด้านทิศเหนือมีวิหารก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้องดินเผาด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเป็นศาลารายก่อ อิฐถือปูนหลังคามุงกระเบื้องดินเผา
ผนังพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรม ผนังด้านข้างทั้ง ๒ ด้าน เหนือช่องหน้าต่างเขียนภาพเหตุการณ์ตอนเหล่าเทพยดามาชุมนุมกัน ขณะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดวงดึงส์ ส่วนผนังตอนล่างด้านหน้าระหว่างช่องประตูเป็นภาพทศชาติ เรื่อง สุวรรณสาม ด้านข้างทั้ง ๒ ด้านเป็นภาพภิกษุกำลังปลงอสุภกรรมฐาน และด้านหลังเป็นภาพกิจวัตรประจำวันของพระสงฆ์
พระพุทธเทวราชปฏิมากร พระประธานประจำพระอุโบสถ
พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปโลหะหล่อลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ฝีมือช่างสมัยทวารวดี ประดิษฐานบนฐานชุกชี หน้าตักกว้าง ๔.๓๕ เมตร สูงตั้งแต่ พระเพลาถึงยอดเปลวรัศมี ๕.๖๕ เมตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามพระประธานประจำพระอุโบสถ นามว่า “พระพุทธเทวราชปฏิมากร” เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖
ประวัติของพระพุทธรูปองค์นี้ คุณหลวงวรศักดิ์ภูบาล เล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ทรงทราบว่า กรุงศรีอยุธยาพบพระทององค์ใหญ่โปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นพระพิทักษ์เทเวศรไปอัญเชิญลงมายังพระนคร ในกรมได้ทรงต่อแพเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่ล่องลงมา ครั้งถึงปากคลองเทเวศร์ แพเกิดดื้อฉุดเท่าไรก็ไม่มายังตำหนักแพจึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นพิทักษ์เทเวศรอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ขึ้นที่วัดสมอแครง
|
พิพิธภัณฑ์สักทอง
พิพิธภัณฑ์สักทอง ซึ่ง อยู่ภายใน วัดสมอแครง (วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร) เดิมพิพิธภัณฑ์นี้มีชื่อว่า “บ้านแก้ว” ในจังหวัดแพร่ โดยที่เจ้าของซึ่งมีอายุที่สูงวัย อีกทั้งลูกหลานต่างก็แยกย้ายและทำงานอยู่ในกรุง เทพฯ จึงไม่มีเวลาดูแลและมีความคิดที่จะขายบ้านหลังนี้ แต่ก็กลัวว่าไม้ที่มีค่าจะถูกแปรรูปเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและหมดค่าไปในที่ สุด จึงได้ ขอร้องให้ทางโครงการ นาวิน ปาร์ค รับซื้อไว้เพราะเชื่อว่าจะยังคงรักษาสภาพบ้านแก้วไว้อย่างดี หลังจากนั้นบ้านหลังนี้จึงย้ายมาอยู่ที่ นาวิน ปาร์ค รังสิต จังหวัดปทุมธานี
ต่อมา ศ.ดร.อุกฤษ และ คุณมณฑินี มงคลนาวิน ซึ่งเป็นผู้ที่รับซื้อบ้านหลังนี้ได้มอบบ้านหลังนี้ให้กับทาง วัดเทวราชกุญชร เพื่อสร้าง เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้สักทอง เพื่อแหล่งการเรียนรู้การอนุรักษ์ และเป็นศูยน์เผยแพร่ความรู้ทางด้านพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นการเฉลิม ฉลองในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี พ.ศ. 2549 และทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา ในปี พ.ศ. 2550
ลักษณะของพิพิธภัณฑ์เป็นทรงปั้นหยาประยุกต์ 2 ชั้น กว้าง 16.75 เมตร ยาว 30.15 เมตร เป็นเนื้อที่ชั้นละประมาณ 505 ตารางเมตร รวม 2 ชั้น มีเนื้อที่ประมาณ 1,010 เมตร
|
|
ส่วนที่ 1
จัดแสดงประวัติของ ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภา 5 สมัย ผู้ที่มอบบ้านหลังนี้ เพื่อแหล่งการเรียนรู้การอนุรักษ์ และ เป็นศูยน์เผยแพร่ความรู้ทาง ด้านพระพุทธศาสนาี้
ส่วนที่2
จัดแสดงประวัติของ วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร (วัดสมอแครง) และประวัติของ พระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาส
ส่วนที่ 3
ห้องรับรองสำหรับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์่ษานุวงศ์ เวลาที่ทรงเสด็จเพื่อมาประกอบพิธี ณ. วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร
ส่วนที่ 4
เป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะต่างๆ และพระบรมสารีริกธาตุ
ส่วนที่ 5
จัดแสดงรูป ปั้นพระสมเด็จพระสังฆราช 18 พระองค์
ส่วนที่ 6
ห้องพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( ร.5 )
|
ชมบรรยากาศและร่วมเดินทางไปกับทริปล่องเรือไหว้พระ 9 วัดว่าจะสนุกและอิ่มบุญแค่ไหน คลิกที่นี่