ร้านระย้า กินอาหารพื้นเมือง รสมือจี้กุหลาบ ที่บ้านอั้งม้อหลาว

กินเที่ยว
ร้านระย้า กินอาหารพื้นเมือง รสมือจี้กุหลาบ ที่บ้านอั้งม้อหลาว

อาหารปักษ์ใต้โดยมากจะมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ คือ เผ็ดร้อน รสจัดเพราะความเข้มข้นของเครื่องเทศ แต่ที่ระย้า อาหารทุกเมนูสามารถพูดได้เลยว่า มีรสกลมกล่อมเป็นพระเอกของร้าน

 
เมื่อเห็นบ้านเก่าโบราณสไตล์ ชิโน – โปรตุกีส ตั้งเด่นเป็นสง่าด้วยทีท่าเงียบขรึม ท่ามกลางร้านรวงสมัยใหม่ หลายคนอาจรู้สึกไม่คุนชินและกลัวที่จะย่างก้าวเข้าไปสำรวจให้กระจ่างใจ ตึกเก่าที่เราพูดถึงคือ ร้านอาหารระย้า ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ด้วยลักษณะของตัวอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ ชาวภูเก็ตเรียกตึกเก่าว่า “อั้งม้อหลาว” โดยคำว่า อั้งม้อ ในภาษาจีนฮกเกี้ยน หมายถึง ฝรั่ง ส่วนคำว่าหลาว หมายถึง บ้าน หรือตัวอาคาร อั้งม้อหลาว จึงให้ความหมายว่า บ้านของฝรั่ง  ซึ่งสมัยก่อนบ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านของฝรั่งที่มาทำธุรกิจเหมืองแร่ในภูเก็ต สิริรวมอายุกว่า 100 ปีโดยประมาณ “ระย้า” เป็นร้านอาหารพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ตเปิดบริการมานานกว่า 14 ปี  ตั้งอยู่บน ถนนดีบุก หรือที่ชาวภูเก็ตรู้จักกันดี ว่า “แถวน้ำ ”
 
 
 
 
เพียงแค่เดินเข้ามาภายในร้านก็เราสัมผัสได้ถึงมนต์เสน่ห์ขอองความโบราณ คลาสสิก อาจด้วยเสียงเพลงเก่าบรรเลงขับขาน บวกกับการตกแต่งร้านด้วยของสะสมชิ้นเก่า ทั้งกระจกหน้าต่างหลากสีลวดลายโบราณ ชุดเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเล่นแผ่นเสียง ชุดโต๊ะอาหารไม้สีน้ำตาลปูทับด้วยผ้าใบสีขาวสะท้อนถึงความเรียบง่าย ของในร้านทุกชิ้นแฝงความสุขุม ในแบบฉบับโบราณ ทำให้เรานึกคิดว่าได้รับเกียรติเชิญให้ร่วมมื้ออาหารกับนายหัวเหมืองแร่ไม่ มีผิด

“จี้กุหลาบ” หญิงร่างท้วมอารมณ์ดี แต่เดิมพื้นเพเป็นชาวพังงา แต่มาอยู่ภูเก็ตมานานถึง 50 ปีแล้ว ในส่วนของร้านระย้าเปิดบริการมาถึงเดือนตุลาคมปีนี้ก็ 14 ปี เห็นจะได้  ส่วนตัวแล้วชอบทำอาหาร จึงมีแนวคิดอยากทำอาหารด้วยรสมือตัวเองที่จี้กุหลาบการันตีเองว่า “อร่อยแท้” ให้ผู้อื่นได้ทาน อยากให้นักท่องเที่ยวที่มาได้รู้จักรสชาติของอาหารพื้นเมืองภูเก็ตอย่างแท้ จริงและจริงใจ  

 
 
วันนี้เรามีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองต้น ตำรับของชาวภูเก็ต 3 อย่างด้วยกัน ซึ่งใครก็ตามที่ได้มาร้านระย้า ต้องเป็นอันสั่งมารับประทาน เมนูทีเด็ดที่ว่านี้คือ  "เส้นหมี่แกงปูใส่ใบชะพลู" โดยความพิเศษของจานแรกนี้อยู่ที่เนื้อปูม้าหวานฉ่ำชิ้นยักษ์ ผสานเครื่องแกงกะทิสีเหลืองอ่อนสูตรเฉพาะของทางร้าน เมื่อเห็นแล้วทำเอาเราตะลึงไปตามๆ กัน เพราะเนื้อปูที่ร้านก้อนใหญ่มาก สืบทราบมาว่าที่ร้านใช้เนื้อปูม้าเกรด A ที่แกะกันสดๆ วันต่อวัน ไม่เหม็นคาว กัดลงไปแต่ละทีได้รสของเนื้อปูเต็มๆ กลิ่นหอม หวาน มัน เผ็ดเล็กน้อยของน้ำแกงนี้ทำให้เจริญอาหารอย่างบอกไม่ถูก เราสามารถเลือกรับประทานแกงปูใบชะพลูให้อร่อยได้สองแบบด้วยกัน ทั้งข้าวสวยร้อนๆ และเส้นหมี่ลวก แต่ไม่ว่าจะเลือกรับประทานคู่กับอะไรปลายทางของรสชาติก็คือความอร่อยเหมือน กัน เห็นอย่างนี้แล้วคงสาสมใจคนที่รัก “น้องปู” ไม่น้อย อย่าหาว่าแกงปูของร้านระย้าแพงเลยครับ บอกได้เลยว่าคุ้มจริงๆ
 

 
จานถัดมากล้าพูดว่า ถ้าได้ลองเข้าไปสำรวจตู้กับข้าวของคนภูเก็ตดู เขากินกันแทบทุกบ้าน “ทุกบ้านต้องมี!” นั่นคือเมนู "หมูฮ้อง" ซึ่ง ที่นี่ต้องบอกเลยว่าต้นตำรับแท้ๆ โดยจี้กุหลาบไม่ยอมให้หมูฮ้องตกไปอยู่ในมือคนอื่น ถึงขนาดลงทุนหมักและเคี่ยวหมูฮ้องด้วยมือตนเอง รสชาติจึงเข้มข้น หวานมัน กลมกล่อม หอมหวลไปด้วยเครื่องเทศ ชนิดไม่มีใครเหมือนและไม่อยากเหมือนใครโดยเฉพาะเนื้อหมูที่คัดสรรเฉพาะราว ท้อง นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ หมักกับเครื่องเทศสูตรของร้านและหมักกับกระเทียม พริกไทย ซี่อิ๊วขาว ซี่อิ๊วดำ น้ำตาล หมักประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้วเอามาเคี่ยวต่อกว่า 3 ชั่วโมง
 

 
เมนูสุดท้ายที่เราจะแนะนำคือ "น้ำพริกกุ้งเสียบ" เมนูนี้จัดได้ว่าเป็นเมนูสุขภาพมานมนานแล้วไม่ได้ตั้งใจจะตามกระแสรักสุขภาพ แบบสมัยนี้ เพราะเครื่องเคียงที่มากับน้ำพริกเต็มไปด้วยผักพื้นเมืองนานาชนิด มองจากผักก็รู้ว่าทางร้านพิถีพิถันคัดเลือกผักมาอย่างดี นำเอาส่วนที่อร่อยสุดของผักมาเสิร์ฟเท่านั้น น้ำพริกกุ้งเสียบของจี้กุหลาบจานนี้เด็ดสะเด่าที่รสชาติของน้ำพริกให้รส ชาติกลมกล่อม หอม หวาน เปรี้ยว มัน ตัดกับความเค็มของเคยกะปิแบบภูเก็ต อีกยังไม่เผ็ดมาก นับได้ว่ามีน้อยร้านที่ทำน้ำพริกกุ้งเสียบได้อย่างลงตัวเช่นนี้ โดยมากไม่หวานนำ ก็เผ็ดนำ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติค่อนข้างจะทานลำบาก แต่สำหรับร้านระย้านั้นไม่ใช่ จัดของคาวไปหมดแล้วเกือบลืมเมนูล้างปากอย่างมะม่วงฟ้าลั่นสุก มีรสหวานพอดีๆ ซึ่งเป็นผลไม้ล้างปากตบท้ายให้ลูกค้าได้ชิมกันฟรีๆ
 

 
 
 

อาหารปักษ์ใต้ โดยมากจะมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ คือ เผ็ดร้อน รสจัดเพราะความเข้มข้นของเครื่องเทศ แต่ที่ ระย้า อาหารทุกเมนูสามารถพูดได้เลยว่า มีรสกลมกล่อมเป็นพระเอกของร้าน เป็นอาหารไทยพื้นเมืองที่ไม่ยี่หระต่อเครื่องปรุงใดๆ โดยเฉพาะพริกน้ำปลาก็ไม่ต้องมา น้ำตาล น้ำส้มสายชูก็ไม่ต้องมี ต่อให้คุณสั่งเมนูเดิมอีกสิบครั้ง รสแรกที่ได้สัมผัสก็ยังคงเหมือนครั้งเก่าที่ผ่านมา ทุกจานมีความอร่อยในตัวของมันเอง

ด้วยความใส่ใจและพิถีพิถันของจี้กุหลาบในเรื่องการประกอบอาหาร จี้กุหลาบจึงเคยมีโอกาสได้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองคนสำคัญๆ  ระดับวีไอพี และกระทั่งผู้คนในสังคมชั้นสูงของไทยและของโลกอยู่เนืองนิจ ส่วนเราก็เช่นกันได้สัญญากันไว้ว่าหากมาภูเก็ตครั้งหน้าจะแวะเวียนมากินข้าว รสมือจี้กุหลาบและเที่ยวชมบ้านอั้งม้อหลาวแห่งนี้อีกครั้งแน่นอน

 


ที่อยู่ : สี่แยกถนนดีบุกตัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
GPS : 7.885994995, 98.39096401
เบอร์ติดต่อ : 076 218 155
อาหารแนะนำ : หมูฮ้อง (500 บาท) น้ำพริกกุ้งเสียบ (200 บาท)  เส้นหมี่แกงปูใส่ใบชะพลู (550 บาท)
จำนวนโต๊ะ  : ประมาณ 20 โต๊ะ
เวลาทำการ : เปิดบริการ 11.00 น. – 23.00 น. ทุกวัน
วิธีชำระเงิน : เงินสด
ที่จอดรถ : มีลานจอดรถอยู่ด้านหลังร้าน


ขับรถมาถึง สี่แยกถนนดีบุกตัดใหม่แล้ว อาจจะยังหาตำแหน่งของร้านไม่เจอ ไม่เป้นไรครับ ! ลองสังเกตุร้านอาหารที่ชื่อประชาชื่นให้ดี เพราะร้านระย้าได้ทำการแทรกตัวอยู่หลังร้านประชาชื่น ชึ่งได้บดบังทัศนีภาพของระย้าไปกว่า 50 %

ข้อมูลเเละภาพประกอบจาก