สโมสรโคโลเนียลให้บรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง เหมือนได้มานั่งทานข้าวที่ครัวในบ้าน เพราะอาหารที่เสิร์ฟส่วนใหญ่ก็เป็นเมนูง่ายๆ แต่ก็มีความพิเศษเฉพาะตัวอยู่
|
|
|
ถ้าหากใครได้มีโอกาสมาพักค้างคืน หรือแวะมาเที่ยว ทำกิจกรรมต่างๆ ที่เดอะปาร์ค แอดเวนเจอร์ แลนด์ จะ ต้องได้มายืนชมทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบที่มีทิวเขาตั้งตระหง่านเป็นฉาก หลังอย่างแน่นอน ซึ่งบริเวณท่าน้ำ และระเบียงริมน้ำแห่งนี้เองที่เป็นที่ตั้งของ สโมสรโคโลเนียล ห้องอาหารหนึ่งเดียวในเดอะปาร์คฯ
อาคารสีเหลืองหลังนี้ ถูกจัดให้เป็นเหมือนสโมสร หรือแหล่งนัดพบก่อนเริ่มทำกิจกรรมต่างๆ ภายในเดอะปาร์ค เพราะไม่ว่าใครจะติดต่อเรื่องใดๆ อยากจะพายเรือยาง นั่งเรือถีบ เล่นเปตอง เล่นเกมโต๊ะฟุตบอล ขี่จักรยานเสือภูเขา ว่ายน้ำ หรือหิวข้าวอยากหาอาหารทานซักมื้อ ก็ต้องมาที่สโมสรโคโลเนียลแห่งนี้แหละ ด้วยวิวทิวทัศน์อันงดงาม และบรรยากาศแบบสบายๆ ริมทะเลสาบทำให้ใครที่ได้ลองนั่งทอดอารมณ์บริเวณนี้แล้ว ยากที่จะยอมลุกไปไหนง่ายๆ โดยเฉพาะในช่วงเย็นโพล้เพล้ พระอาทิตย์กำลังจะลับเหลี่ยมภูเขาข้างหน้านั้น ยิ่งเป็นภาพที่จะประทับอยู่ความทรงจำของทุกคนไม่รู้ลืมแน่ๆ
|
|
|
|
และเมื่อมาถึงที่สโมสรโคโลเนียลแล้ว ก็ต้องขอชิมรสชาติอาหารเด็ดๆ ดูซักหน่อย เพราะระหว่างพักอยู่ที่เดอะปาร์คฯ นั้น เราจะต้องฝากท้องไว้ที่นี่อีกหลายมื้อเลยทีเดียว ซึ่งเมนูแนะนำที่ไม่ว่าใครไปใครมาก็ต้องสั่งให้ได้นั่นก็คือ “ผัดผักกูด” หรือ “น้ำพริกผักกูด” ที่เลือกเก็บเฉพาะตรงยอดอ่อนสดๆ จากสวนในเดอะปาร์คฯเอง ที่เค้าการันตีว่าอร่อยที่สุด เราจึงไม่ยอมพลาดของขึ้นชื่อแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งครั้งนี้เราเลือกสั่ง “น้ำพริกผักกูด” ที่ทางครัวจะเสิร์ฟ ผักกูดผัดน้ำมันมาคู่กับน้ำพริกกะปิ เวลารับประทาน ถ้าอยากจะลองชิมความหวานกรอบของผักกูดแบบเดี่ยวๆ ก็ไม่ผิดกติกา เพราะผักกูดผัดน้ำมันได้ถูกปรุงรสมาเล็กน้อย เวลาเคี้ยวก็จะรู้สึกถึงความสดกรอบของผักในปาก แต่ถ้าใครอยากให้มีรสชาติจัดจ้านขึ้นมาหน่อย ก็ต้องทานผักกูดคู่กับน้ำพริกกะปิ ซึ่งรับรองว่าได้ครบรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดตามแบบฉบับน้ำพริกแบบไทยๆ มีข้าวสวยร้อนๆ อีกจาน แค่นี้ก็ลืมกับข้าวจานอื่นๆ ไปได้เลย แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งสนใจแต่น้ำพริกผักกูดอยู่จานเดียวนะ เพราะยังมีเมนูอื่นๆ รออยู่อีก
|
|
|
|
เมนูต่อไปที่เรียกว่าถ้ามาถึงระยองแล้วก็ต้องกินให้ได้ คือ “หมูชะมวง” ซึ่งใช้หมูสามชั้นหั่นชิ้นใหญ่ซักหน่อย นำมาแกงกับใบชะมวงที่มีรสเปรี้ยว จนเนื้อหมูเปื่อยและรสแกงซึมเข้าเนื้อแล้วก็พร้อมเสิรฟ์ให้อร่อยได้ทันที ถึงแม้ดูจากหน้าตาแล้วอาจจะคิดว่าแกงสีแดงๆ แบบนี้ต้องเผ็ดถึงใจแน่ๆ แต่ต้องบอกว่าผิดถนัด เพราะแกงหมูชะมวงที่อร่อยนั้นจะต้องมีรสกลมกล่อม หวาน มัน อมเปรี้ยวจากใบชะมวงนิด และเผ็ดหน่อยๆ ถึงจะเรียกได้ว่าอร่อยของแท้ ซึ่งครัวของสโมสรโคโลเนียลก็ทำได้อร่อยไม่เป็นรองที่ใดเลย สำหรับเมนูต่อไปเราขอแนะนำ “หมี่กรอบโบราณ” ที่จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารว่างที่ให้เราได้เคี้ยวเพลินๆ กับความกรอบของเส้นหมี่ที่ทอดมาเหลืองกำลังดี แล้วนำมาคลุกเค้ากับน้ำปรุงที่มีรสหวานอมเปรี้ยว และแอบมีความเผ็ดแทรกอยู่เล็กๆ เมื่อทานพร้อมกับถั่วงอกขาวอวบ และผักชีที่โรยหน้ามา ก็ทำให้ได้ความหอมเพิ่มมากขึ้น และตัวถั่วงอกยังช่วยลดความเข้มข้นของรสน้ำปรุงให้กลมกล่อมขึ้นอีกด้วย ถ้าหากใครชอบอาหารว่างแบบไทยๆ คงถูกใจหมี่กรอบโบราณจานนี้อยู่ไม่น้อย เพราะหาทานอร่อยๆ ได้อยากในปัจจุบัน
ส่วนเมนูสุดท้ายที่เราจะแนะนำกันในครั้งนี้ คือ “ปลากะพงทอดราดน้ำปลา” ซึ่งใช้ปลากะพงตัวขนาดกำลังทาน ทอดจนเหลืองกรอบ แล้วราดด้วยน้ำปลาปรุงรส เป็นเมนูที่เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ไม่ว่าไปถึงร้านไหนๆ ก็ต้องมีเมนูนี้ให้ได้เลือกสั่งกัน ซึ่งต้องบอกว่าครัวของสโมสรโคโลเนียล ปรุงรสของปลากะพงทอดร้านน้ำปลาจานนี้ได้อร่อยอยู่ไม่น้อยเลย และหากใครหลายๆ คนยังรู้สึกว่ามาถึงระยองทั้งที ถึงแม้จะเปลี่ยนบรรยากาศมาอยู่ท่ามกลางภูเขาแบบนี้แล้ว แต่ก็ยังอดคิดถึงอาหารทะเลสดๆ ไม่ได้ ที่สโมสรโคโลเนียลก็สามารถจัดเป็นบาร์บีคิวซีฟู้ดให้ได้เช่นกัน ซึ่งอาหารทะเลที่จะนำมาปิ้งย่างนั้น ก็จะถูกคัดสรรกันสดๆ จากแหล่งขึ้นชื่ออย่างตลาดบ้านเพ แต่ต้องบอกก่อนว่าควรจะต้องแจ้งกับทางร้านไว้ล่วงหน้าเสียก่อน เพราะทางสโมสรจะไม่ซื้ออาหารทะเลจำนวนมากๆ มาเก็บตุนเอาไว้ ดังนั้นเพื่อให้ได้ความสดจากทะเลจริงๆ อาหารทะเลสำหรับปิ้งย่างจะมีเจ้าหน้าที่ออกไปซื้อเฉพาะวันที่ลูกค้าสั่งจอง ล่วงหน้าไว้เท่านั้น
|
|
|
|
หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่ลืมที่จะดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแสนสบายของทะเลสาบตรงหน้า เพื่อให้ได้อิ่มอาหารตาไปด้วย สำหรับที่สโมสรโคโลเนียลนี้เปิดให้บริการกันตลอดทั้งวัน ตั้งแต่อาหารเช้าสำหรับผู้ที่มาเข้าพักค้างคืนในเดอะปาร์ค แลนด์ อาหารกลางวัน อาหารเย็น รวมถึงอาหารว่างและเครื่องดื่มเย็นๆ ระหว่างวัน ไม่ว่าจะเลือกมาเวลาไหนก็จะได้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป ถ้าหากตอนกลางวันอากาศร้อนมากๆ ก็สามารถหลบเข้าไปนั่งในห้องแอร์เย็นๆ ได้ พอแดดเริ่มคล้อย ลมเริ่มโชย ก็ค่อยย้ายไปนั่งชิลชมวิวที่ริมน้ำกันต่ออีกหน่อย.....สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ เต็มปอด พักผ่อนให้เต็มที่ คุณก็จะได้คำตอบว่า ความสุขง่ายๆ อยู่ใกล้แค่นี้เอง แล้วคุณจะยังต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกหรือ
|
|
|
ที่อยู่ |
: |
103 หมู่ 5 ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง |
GPS |
: |
12.754133, 101.450367 |
เบอร์ติดต่อ |
: |
(จันทร์-ศุกร์) 02 712 3581, 086 970 8877 |
E-mail |
: |
plarayong@yahoo.com |
Website |
: |
http://www.theparkadventure.com |
Facebook |
: |
The Park Adventure Land |
อาหารแนะนำ |
: |
ปลาทอดราดน้ำปลา (300 บาท) หมี่กรอบโบราณ (150 บาท) น้ำพริกผักกูด (80 บาท)
แกงหมูชะมวง (100 บาท) |
จำนวนโต๊ะ |
: |
10 - 15 โต๊ะ |
เวลาทำการ |
: |
7.00-22.00 น. |
วิธีการชำระเงิน |
: |
เงินสด |
ที่จอดรถ |
: |
ลานจอดรถหน้าสโมสร |
รถยนต์:
ถ้ามาจากตัวเมืองระยองสามารถใช้เส้นทาง ถ.สุขุมวิท เมื่อมาถึง ก.ม.ที่ 248 ให้เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกกระเฉด จากนั้นให้วิ่งไปอีกประมาณ 11 ก.ม. จนเมื่อผ่าน ร.ร. บ้านสำนักทองด้านขวามือเล็กน้อย ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.เกษตรศิริ ซ.3 วิ่งเข้าไปจนสุดจะพบสามแยกก็ให้เลี้ยวซ้ายไปซัก 200 ม.ก็จะพบทางเข้า เดอะ ปาร์ค อยู่ขวามือ
หากมาจากกรุงเทพโดยเส้นทางมอเตอร์เวย์ เมื่อผ่านด่านจ่ายเงินพานทองแล้ว ให้ใช้ทางออก “บ้านบึง-แกลง” วิ่งจนมาถึง อ.แกลงแล้วให้มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองระยองโดยใช้ ถ.สุขุมวิท จนมาถึงแยกกระเฉด จากนั้นให้วิ่งไปอีกประมาณ 11 ก.ม. จนเมื่อผ่าน ร.ร. บ้านสำนักทองด้านขวามือเล็กน้อย ก็ให้เลี้ยวช้ายเข้า ถ.เกษตรศิริ ซ.3 วิ่งเข้าไปจนสุดจะพบสามแยกก็ให้เลี้ยวซ้ายไปซัก 200 ม.ก็จะพบทางเข้า เดอะ ปาร์ค อยู่ขวามือ
ข้อมูลเเละภาพประกอบจาก