12 เมืองต้องห้าม…พลาด ที่คุณไม่ควรพลาด !!

กินเที่ยว
12 เมืองต้องห้าม…พลาด ที่คุณไม่ควรพลาด !!

เมืองที่ใครๆ หลายคนคิดว่าเป็นเมืองทางผ่าน เมืองที่เหมือนไม่มีอะไร ถูกลืม ถูกเพิกเฉย ถูกมองข้าม แต่จริงๆ แล้วเป็นเมืองที่มีความน่าสนใจ มีของดีซ่อนตัวอยู่

เมืองที่ใครๆ หลายคนคิดว่าเป็นเมืองทางผ่าน เมืองที่เหมือนไม่มีอะไร ถูกลืม ถูกเพิกเฉย ถูกมองข้าม แต่จริงๆ แล้วเป็นเมืองที่มีความน่าสนใจ มีของดีซ่อนตัวอยู่ รอให้คนไทยออกไปค้นหา ออกไปสัมผัส แล้วคุณจะยิ่งหลงรักประเทศไทย เมืองต้องห้าม…พลาด นั้นมี 12 เมืองดังนี้


12 เมืองต้องห้าม…พลาด ที่คุณไม่ควรพลาด !!
 

ลำปาง

1. เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา จ.ลำปาง
ต่อให้เราจะก้าวเร็วแค่ไหน เมื่อมาถึงลำปางคล้ายจะกลายเป็นคนเดินช้าที่อยากจะค่อยๆ ซึมซับและสัมผัสความสวยงามของเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลาแห่งนี้

น่ารู้
เพราะลำปางเป็นเมืองรถม้า การนั่งรถม้าชมเมืองลำปางจะเปิดมุมมองใหม่ๆ ของการเดินทางท่องเมืองนี้ โดยมีหลายเส้นทางให้เลือก ทั้งเส้นทางรอบเมืองเล็ก เส้นทางรอบเมืองใหญ่ เส้นทางชมย่านตลาดเก่า หรือจะเช่าเป็นชั่วโมงก็มีบริการเช่นกัน โดยคิวรถม้าจะอยู่ที่หน้าศาลากลางหลังเก่า เปิดให้บริการ 06.00-16.00 น.



น่าน

2. กระซิบรักเสมอดาว จ.น่าน
น่าน ตำนานแห่งขุนเขา เมืองเก่าที่มีชีวิต  และวัฒนธรรมที่โดดเด่น  เพราะหัวใจน่ารักของคนน่าน และบรรยากาศโรแมนติก  ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมที่นี่จึงเป็นปฐมบทของการกระซิบรักได้ละมุนละไมที่สุดของเมืองไทย

น่ารู้
น่านเป็นเมืองโดดเด่นในงานหัตถกรรมที่สะท้อนผ่านถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการทอผ้าลายน้ำไหล และการทำเครื่องเงิน



เพชรบูรณ์

3. ภูดอกไม้สายหมอก จ.เพชรบูรณ์
คงฟินดีไม่น้อย ถ้าทะเลหมอกลอยมาเคาะหน้าต่างยามเช้า คงเพลินดีไม่เบา ถ้าสองตาได้ดื่มด่ำดอกไม้บานท่ามกลางภูสูง ที่นี่ล่ะ … เพชรบูรณ์

น่ารู้
ของฝากของกินชื่อดังในเพชรบูรณ์มีมากมาย อาทิเช่น มะขามหวาน ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป สะเดาหวานจากหล่มสักที่มีรสชาติแปลกว่าสะเดาภาคอื่นๆ ปลาส้มไร่กำนันจุล และขนมจีนเส้นสดจากหล่มเก่า



เลย

4. เย็นสุด … สุขที่ “เลย” จ.เลย
นิยามใหม่ของภาคอีสานที่เล่าขานเรื่องราวเย็นสบายกลางทุ่งดอกไม้สีชมพูบนภูสูง ทริปดีๆ คราวนี้คงละ ‘เลย’ ไม่ได้แล้ว ไม่ว่าเป็นภูลมโล ภูป่าเปาะ แก่งคุดคู้ ฯลฯ ที่คุณพลาดแล้วจะเสียใจ

น่ารู้
อำเภอภูเรือ เป็นแหล่งปลูกไม้ประดับใหญ่ที่สุดของประเทศ ช่วงเดือนธันวาคม จะได้เห็นทุ่งต้นคริสต์มาสสีแดงสดฉ่ำละลานตา และภูลมโล แหล่งของนางพญาเสือโคร่ง สีชมพูหวานแหววบานทั่วทั้งภูเขาสวยงาม



บุรีรัมย์

5. เมืองปราสาทสองยุค จ.บุรีรัมย์
จากดินแดนที่หยัดยืนบนรอยอดีตที่เต็มไปด้วยปราสาทหิน กำลังพลิกโฉมไปสู่ความล้ำสมัยของปราสาทยุคใหม่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าบุรีรัมย์กำลัง…‘อิน’

น่ารู้
ใช่ว่ามีแต่ข้าวหอมมะลิจากบุรีรัมย์ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น กุ้งจ่อมของอำเภอประโคนชัยก็เลื่องลือไม่แพ้กัน และในปัจจุบันยังพัฒนาไปสู่ทำเป็นกุ้งจ่อมแห้งได้แล้วด้วย อีกชิ้นที่ขอแนะนำคือ “ผ้าภูอัคนี” ผ้าฝ้ายย้อมดินภูเขาไฟแห่งเดียวในประเทศไทย ที่สวมใส่สบาย เป็นสิริมงคล



จันทบุรี

6. สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้ จ.จันทบุรี
ไม่เพียงเป็นดินแดนที่ต้อนรับทุกคนด้วยท้องทะเลสงบงาม วิถีประมงอบอุ่นเท่านั้น หากจันทบุรียังโอบรับทุกคนไว้ด้วยอ้อมกอดของสวนแห่งความสุขหวานฉ่ำล้ำรสผลไม้อร่อย

น่ารู้
ราวๆ เดือนมิถุนายนของทุกปี จันทบุรีจะมีการจัดงานเทศกาลของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้ของจันทบุรี อย่างเช่น สละ เงาะ ทุเรียน ฯลฯ ซึ่งล้วนมีคุณภาพคับแก้ว



ตราด

7. เมืองเกาะในฝัน จ.ตราด
เมื่อทะเลใส หาดทรายสงบงาม รีสอร์ตสวยหรู และบริการสุดเอ็กซคลูซีฟ คือความสุขของตราดที่มาเติมฝันของคนรักทะเลได้อย่างเพอร์เฟ็กต์

น่ารู้
ตราดเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีความเป็นตัวของตัวเอง ตั้งแต่งานหัตถกรรมงอบเมืองตราดจนถึงผลไม้อย่างสับปะรดตราดสีทอง ซึ่งล้วนกลายเป็นของฝากที่น่าซื้อหา



สมุทรสงคราม

8. เมืองสายน้ำสามเวลา จ.สมุทรสงคราม
เก็บเกี่ยวความสุขเรียบง่าย กับหัวใจของเมืองสายน้ำอย่างสมุทรสงคราม ที่เต็มไปด้วยโมงยามอันน่ารื่นรมย์ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ดื่มด่ำวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม

น่ารู้
สำหรับกิจกรรมที่จะทำให้เห็นอีกมุมของสายน้ำสมุทรสงครามได้สนุกขึ้น ลองปั่นจักรยานลัดเลาะชมสวนมะพร้าวอันเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของชาวสมุทรสงคราม



ราชบุรี

9. ชุมชนคนอาร์ต จ.ราชบุรี
ความเป็นเมืองศิลปะของราชบุรีมีให้เห็นทุกตารางนิ้ว ศิลปะจากอุโบสถ ศิลปะจากหนังใหญ่ ศิลปะร่วมสมัย ศิลปะเพื่อหัวใจเด็ก สมแล้วที่เมืองเล็กๆ แห่งนี้จะกลายเป็นจุดนัดพบคนรักศิลปะไปโดยปริยาย

น่ารู้
เติมอารมณ์คนรักงานศิลป์ให้เต็มอิ่มด้วยการเดินเล่นชมตึกเก่าในราชบุรี ไม่ว่าจะเป็นตึกแถวโบราณของย่านเก่าโพธาราม ตึกเก่าใจกลางอำเภอเมืองที่ยังคงสถาปัตยกรรมคลาสสิก



ชุมพร

10. หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้ จ.ชุมพร
เมื่อเสน่ห์ของผืนทรายยาวไกลสุดสายตา พร้อมด้วยความละเอียดและเนียนนุ่มของเม็ดทราย จึงเป็นดั่งเรื่องราวแสนหวานของชุมพรที่เล่าขานสู่กันฟังได้ทุกเมื่อเชื่อวัน … ท่านจะเป็นคนแรกที่ได้ประทับรอยเท้าลงบนผืนทรายสวยของชุมพร แห่งนี้

น่ารู้
ทะเลชุมพรนั้นสวยงามและเหมาะสำหรับการดำน้ำ ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก เป็นจุดดำน้ำอีกจุดหนึ่งที่นักดำน้ำไม่ควรพลาด ท้องทะเลยังคงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ ทั้งปะการังหลากหลายสายพันธุ์ ดงดอกไม้ทะเลมากมาย ฝูงปลานานาชนิด นอกจากนี้ผู้โชคดีจะมีโอกาสได้พบกับฉลามวาฬยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเลที่แวะเวียนมาในหน้าร้อน



นครศรีธรรมราช

11. นครสองธรรม จ.นครศรีธรรมราช
ชวนท่องนครสองธรรม พบกับสองมุมต่างที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในนครศรีธรรมราช เมื่อ “ธรรมะ” กับ “ธรรมชาติ” คือเอกภาพที่ไม่สามารถแยกจากกัน

น่ารู้
นครศรีธรรมราชคือดินแดนต้นตำรับของความเป็นปักษ์ใต้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกิน ขนมจีน วัฒนธรรมการเชิดหนังตะลุง การรำโนราห์ เครื่องถม ฯลฯ ถ้าเป็นของนครศรีฯ แล้ว ทุกคนยกนิ้วให้



ตรัง

12. ยุทธจักรความอร่อย จ.ตรัง
ความอร่อย 24 ชั่วโมงเป็นสิ่งที่อยู่คู่ตรังมายาวนาน ตำนาน “เมืองแห่งคนช่างกิน” จากเสน่ห์ของเมืองที่มีความสงบ เงียบและเรียบง่ายบวกกับวิถีวัฒนธรรมการกินที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น หมูย่างหนังกรอบ ติ่มซำคำโต ขนมเค้กมีรูเนื้อนุ่มลิ้น และเมนูพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองจานเด็ด ที่ทุกท่านไม่ควรพลาดลิ้มลองอีกมากมาย

น่ารู้
เค้กเมืองตรัง ของแท้ต้องมีรู
ขนมเค้กจังหวัดตรัง มีประวัติความเป็นมาและสูตรการผลิตที่ตกทอดมากว่า 100 ปี มีรูตรงกลาง การผลิต   แต่เดิมนั้นมีผู้ประกอบการเพียง 5 ราย และเป็นการผลิตในครัวเรือน แต่นับจากปี พ.ศ.2534 ซึ่งได้มีการจัดงานเทศกาลขนมเค้กเป็นปีแรก จนมาถึงปัจจุบัน ขนมเค้กจังหวัดตรังเป็นที่รู้จักแพร่หลายกันทั่วประเทศ และกลายมาเป็นของที่ระลึกที่ผู้มาเยือนจังหวัดตรังได้ซื้อหากลับไปเป็นของฝาก ขนมเค้กในปัจจุบันมีมากมายกว่า 20 รสชาติ มีผู้ประกอบการมากถึง 83 ราย ทุกปีมีการจัดเทศกาลขนมเค้กในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม

ขนมเปี๊ยะ
เป็นขนมที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักมานานกว่า 20 ปี เป็นสูตรดั้งเดิมที่มาจากฮ่องกง และตกทอดมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน มีมากมายหลายไส้ แต่ที่นิยมมากคือไส้เผือกหอมไข่เค็ม

ขนมจีบสังขยา อีกขนมพื้นบ้านของจังหวัดตรัง ใช้สูตรดั้งเดิมในการผลิต กรอบนอกด้วยแป้งบาง 2 ชั้น นุ่มในกับสังขยาโบราณแท้ๆ ไม่ใส่แป้ง ใช้เวลากวนกว่า 6 ชั่วโมง อบขนมด้วยความร้อนที่ 400 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30 นาที หอมกรุ่นอร่อยได้ทุกวัน… นอกจากนี้เมืองตรังยังมีการผลิตขนมพื้นเมืองโบราณ นานาชนิด อาทิ ขนมหวี หรือขนมพริกไทย ขนมไหว้พระจันทร์สูตรดั้งเดิม ขนมเกรียว กรอบเค็ม ดอกบัว ฯลฯ อร่อยไม่ซ้ำเมนู ได้ทุกวัน

 


ข้อมูลเพิ่มเติม
Website : www.เมืองต้องห้ามพลาด.com
Facebook : www.facebook.com/12citieshiddengems


ที่มา :