อยากปีน ภูเขาไฟฟูจิ สักครั้งในชีวิต นี่คือ 3 ข้อที่คุณควรรู้!

กินเที่ยว
อยากปีน ภูเขาไฟฟูจิ สักครั้งในชีวิต นี่คือ 3 ข้อที่คุณควรรู้!

ภูเขาไฟฟูจิ คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 



ภูเขาไฟฟูจิ คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นครับ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมานี้ โดยภูเขาไฟฟูจิ เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยความสูงถึง 3,776 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล และเป็นสถานที่ที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายและงานศิลปะมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ เรียกได้ว่า หากใครพูดถึงประเทศญี่ปุ่น ก็นึกถึงภาพของภูเขาไฟฟูจิแห่งนี้เป็นที่แรกเลยก็ว่าได้ครับ

และทั้งหมดนี้ทำให้บรรดานักปีนเขา ต่างต้องการที่จะไปสัมผัสประสบการณ์ปีนภูเขาไฟฟูจิครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ทางการญี่ปุ่นจะเปิดให้นักปีนเขาได้ปีนภูเขาไฟฟูจิเพียงแค่ช่วงเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคมเท่านั้นครับ เพราะนอกเหนือไปจากนี้ สภาพอากาศ จะไม่เป็นใจนัก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้สภาพอากาศจะเหมาะ เพื่อนๆ ที่อยากไปปีนภูเขาไฟฟูจิก็ควรทราบ 3 ข้อเหล่านี้ครับ เรามาดูกันเลยว่าจะมี
ข้อควรรู้อะไรก่อนการปีนภูเขาไฟฟูจิกันบ้าง

 
1. ยิ่งสูง ยิ่งหนาว
 
ในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคมที่เหมาะกับการปีนภูเขาไฟฟูจินั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น และบริเวณด้านล่างของญี่ปุ่นอากาศจะร้อน แต่อากาศบนภูเขาไฟฟูจิต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ เพราะมันจะยังเย็นมากอยู่ และยิ่งขึ้นสูงไปเท่าไหร่ อากาศก็จะเย็นมากเท่านั้น เพราะฉะนั้น สิ่งที่เพื่อนๆ ต้องเตรียมตัวคือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ต้องอบอุ่นเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นลองจอห์นด้านใน และเสื้อขนเป็ดสำหรับนักปีนเขาเป็นต้น แต่ก็อย่าลืมว่าต้องทะมัดทะแมงเหมาะกับการปีนเขาในเวลาเดียวกันนะครับ 
 
นอกจากนี้ คำแนะนำก็คือ เวลาที่เพื่อนๆ เดินเขาขึ้นไปนั้น จะมีส่วนที่พักที่คนจองล่วงหน้าเอาไว้ ถึงแม้เพื่อนๆ จะไม่ได้พักที่นั่น ก็ควรแวะเข้าห้องน้ำครับ เหตุผลก็คือ ห้องน้ำเหล่านี้จะมีเครื่องทำความร้อน หรือ Heater อยู่ภายใน และการได้พักจากความหนาว ได้รับความอบอุ่นเพียงชั่วครู่ ก็จะทำให้เพื่อนๆ สบายตัวและพร้อมที่จะเดินสู้ต่อไปครับ และเมื่อถึงที่ยอดเขาฟูจินั้น ที่นั่นจะมีตู้ขายน้ำดื่มและของกิน อย่างกาแฟร้อน โกโก้ร้อนให้เพื่อนๆ ได้ดื่มคลายหนาว และยิ่งเวลาใกล้เช้า ที่นักปีนเขาต่างพากันรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่เหนือยอดภูเขาไฟฟูจินั้น ก็จะมีร้านรวงขายราเมงร้อนๆ เรียกได้ว่าฟินสุดๆ เลยล่ะครับ

 
2. ยิ่งสูง อ็อกซิเจนยิ่งเบาบาง
 
การเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจินั้น มีสองทางเลือกครับ บางคนจะเดินเขาทีละครึ่งทางและพักนอนที่กลางทาง ซึ่งมีที่พักให้บริการ และตื่นเร็วๆ เพื่อเดินอีกครึ่งทางที่เหลือเพื่อไปให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูเขาไฟฟูจิครับ ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งก็คือ การเดินรวดเดียวจบในยามค่ำคืนและไปถึงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาพอดี แต่ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกไหน อีกข้อที่คุณพึงระวังคือ “อากาศ” หรืออ๊อกซิเจนที่เราต้องใช้หายใจครับ เพราะยิ่งเราอยู่ในระดับที่สูงมากๆ อากาศและอ็อกซิเจนจะเบาบางลงมากขึ้นเรื่อยๆ คำแนะนำก็คือ เมื่อเพื่อนๆ เริ่มเดินเขาจากสถานีที่ 5 ซึ่งเป็นสถานีที่รถบัสจากโตเกียวจะมาส่งนั้น เมื่อเดินไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ จะเจอร้านขายของ ให้เพื่อนๆ แวะซื้อขนม เครื่องดื่มร้อนๆ แก้หนาว ไม้ค้ำช่วยเดิน และที่สำคัญคือ ถุงบรรจุอ็อกซิเจนที่จะมีขายครับ และเมื่อเพื่อนๆ เดินขึ้นไปเรื่อยๆ และรู้สึกเหนื่อยหอบ หายใจไม่ทัน วิงเวียนศีรษะ นั่นคืออาการของการขาดอ็อกซิเจนครับ ให้เพื่อนๆ สูดดมถุงบรรจุอ็อกซิเจนที่ซื้อมา หลังจากนั้นอาการจะดีขึ้นและพร้อมที่จะเดินต่อแล้วครับ

 
3. “หมี”
 
เมื่อเพื่อนๆ เริ่มเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิ เพื่อนๆ จะรู้สึกว่าอยากได้ไม้ค้ำช่วยเดินครับ ซึ่งเราแนะนำมากๆ ให้ซื้อไว้ซักอัน ด้วย 3 เหตุผลนี้ครับ
 
1. ช่วยให้เพื่อนๆ เดินขึ้นเขาลงเขาได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเวลาลงเขา ภูเขาไฟฟูจิมีความชันสูง และมีก้อนหินเล็กๆ อยู่รายรอบที่อาจทำให้ลื่นได้ การมีไม้ค้ำยันจะช่วยให้การเดินขึ้นลงเขาง่ายและปลอดภัยขึ้นครับ
 
2. เมื่อเดินขึ้นไปเรื่อย จะมีพนักงานที่จะทำสัญลักษ์ปั้มพ์ตราที่ไม้ค้ำของเราเพื่อบ่งบอกว่าเราปีนถึงความสูงเท่าไหร่แล้ว พวกเขาจะอยู่ตามกระท่อมที่พักตามความสูงระดับต่างๆ ครับ โดยเสียค่าใช้จ่ายไม่กี่ร้อยเยนเท่านั้น ซึ่งอย่างน้อยที่สุดเพื่อนๆ ควรให้เขาปั้มพ์ตราที่ยอดภูเขาไฟฟูจินะครับ โดยจะปั้มพ์ที่ไม้ค้ำของเรา และมันจะเป็นที่ระลึกแสดงถึงความสำเร็จของเราในการปีนภูเขาไฟฟูจิครั้งนี้นั่นเองครับ
 
3. ข้อสุดท้ายคนอาจจะไม่ค่อยรู้นักก็คือ ไม้ค้ำยันจะมีกระดิ่ง ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไร คำตอบคือเป็นการทำให้ “หมี” กลัวเรา และไม่ทำอะไรครับ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะไม่มีนักปีนเขาคนไหนได้เจอหมีบนภูเขาไฟฟูจิแล้ว แต่กันไว้ดีกว่าแก้นะครับ มีไม้ค้ำยันที่มีกระดิ่ง ก็ทำให้เราอุ่นใจมากขึ้นนั่นเองครับ 

 
ถึงแม้ว่าการปีนเขาจะเป็นกิจกรรมที่ยากและท้าทายในสายตาของใครหลายๆ คน แต่ผลตอบแทนบนยอดก็สวยจนทำให้เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ลองปีนเขาในที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งในชีวิตนะครับ