เอาจริงๆ โลกออนไลน์ที่เราเล่นกันอยู่ทุกวันก็มีทั้งข้อดีและก็ข้อเสียนะ บางอย่างที่เราทำกันในโลกออนไลน์จนเป็นเรื่องปกติ แต่จริงๆ อาจจะมีความอันตรายแฝงอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างง่ายๆที่เห็นกันบ่อยๆ เวลาใครจะไปเที่ยวต่างประเทศก็ต้องขอโพสรูปพาสปอร์ตกับบอร์ดดิ้งพาสลง Facebook Instagram หรือ Twitter กันหน่อยเพื่อความเก๋ๆ ชิคๆ ใครเคยทำแบบนี้บ้างยกมือขึ้น…? (แอบยกตามเบาๆ)

 

รู้หรือไม่คะ ว่าการโพสรูป Boarding Pass ลงโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเลยค่ะ เพราะในนั้นไม่ได้บอกแค่ว่าเรากำลังจะเดินทางไปที่ไหน แต่ในนั้นมีข้อมูลส่วนตัวของเราอยู่เพียบ ถ้าใครยังไม่รู้ว่าแค่โพสรูป Boarding Pass ลงโลกออนไลน์จะน่ากลัวยังไง วันนี้ มัชรูมทราเวล จะอธิบายให้ฟัง ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่า Boarding Pass แปลว่า อะไร และมีความสำคัญยังไง น้ออ..?

 

 

บอร์ดดิ้งพาส หรือ Boarding Pass แปลว่าอะไร ความหมายตรงตัวเลยก็คือ ใบอนุญาตให้ผ่านขึ้นเครื่อง ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ผู้โดยสารจะได้รับหลังจากการเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่เราได้ทำการจองเที่ยวบินเอาไว้ โดยในวันที่ออกเดินทาง เราจะต้องนำพาสปอร์ตไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ และเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบข้อมูลและออก Boardind Pass มาให้เราถือขึ้นเครื่องพร้อมกับพาสปอร์ตค่ะ พูดง่ายๆ Boarding Pass แปลว่า ตั๋วเครื่องบิน ที่ใช้ขึ้นเครื่องนั่นแหละค่ะ

 

พาสปอร์ตกับบอร์ดดิ้งพาสเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเดินทางมากๆ  เพราะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของทริปเลยล่ะค่ะ เรามาพูดถึงเหตุผลที่ไม่ควรโพสรูปบอร์ดดิ้งพาสลงโซเชียลมีเดียกันบ้างค่ะ

 

Cr: tripzilla
 

หน้าตาทั่วไปของบอร์ดดิ้งพาสจะเป็นกระดาษทรงยาว ซึ่งแสดงข้อมูลต่างๆ ของผู้โดยสาร ประกอบไปด้วย

 

- ชื่อ นามสกุล ของผู้โดยสาร (The Passenger’s Name)

- เลขที่เที่ยวบิน (Flight number)

- จุดหมายปลายทาง (Destination)

- ประตูทางออกขึ้นเครื่อง (Boarding Gate)

- เลขที่นั่งบนเครื่อง (Seat Number)

- บาร์โค้ด หรือ QR Code
 

บางคนอาจจะคิดว่าข้อมูลแค่นี้ไม่น่าจะเป็นอะไร ที่จริงก็อาจจะไม่อันตรายค่ะถ้ารูปบอร์ดดิ้งพาสที่เราลงในโซเชียล ถ่ายไม่ติดข้อมูลทั้งหมด ส่วนที่สำคัญมากบนบอร์ดดิ้งพาสก็คือ บาร์โค้ด ที่เห็นอยู่นั่นแหละค่ะ เป็นส่วนที่เก็บรวมข้อมูลทุกสิ่งอย่างของเราเอาไว้ เวลาจะขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่หน้าประตูทางออกจะนำบอร์ดดิ้งพาสไปสแกนบาร์โค้ด แล้วเราถึงจะผ่านขึ้นเครื่องไปได้ แต่ก็ไม่ใช่แค่เครื่องมือหน้าประตูทางออกเท่านั้นที่อ่านบาร์โค้ดได้ ถูกมั้ยคะ? เดี๋ยวนี้ในมือถือก็มีแอพพลิเคชั่นที่อ่านบาร์โค้ดได้เหมือนกัน ใครมีบอร์ดดิ้งพาสใบเก่าอยู่ใกล้ตัว ลองดูได้เลยค่ะ ใช้มือถือสแกนดูปุ๊บ ผลที่ได้คือ รายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเที่ยวบินรวมถึงข้อมูลที่เรากรอกตอนทำการจองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินนั่นแหละค่ะ

 

Cr: flickr โดย mroach
 

ถ้ามีคนแปลกหน้ามุ่งร้ายนำข้อมูลนี้ไปใช้ต่อโดยการ Log in เข้ากับเว็บไซต์ของสารการบิน เค้าก็จะเห็นข้อมูลทั้งหมดของเรา ทั้งชื่อ นามสกุล หมายเลขเที่ยวบิน ที่นั่ง รหัสการจอง ลำดับการออกตั๋ว ที่อยู่ E-Mail รวมถึงข้อมูลว่าเดินทางกับใครบ้าง และจะกลับประเทศเมื่อไหร่ ด้วยเที่ยวบินไหน ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถจัดการบุ๊คกิ้งของเรา เช่น การเปลี่ยนที่นั่ง เปลี่ยนอาหารบนเครื่อง หรือจะทำการยกเลิกเที่ยวบินนั้นไปเลยก็ได้ เห็นมั้ยคะว่าจากข้อมูลจุดเล็กๆ ที่เรามองข้าม อาจจะนำไปสู่อันตรายได้เลย

 

ทางที่ดีระวังเรื่องการโพสข้อมูลลงโซเชียลมีเดียบ้างก็ดีนะคะ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก้าวไกล สามารถเจาะข้อมูลกันได้อย่างง่ายดายเลย มัชรูมทราเวล ว่าถ้าเพื่อนๆ อยากโพสรูปบอร์ดดิ้งพาสลงโซเชียลมีเดีย หรืออยากส่งต่อให้กับใคร ก็ปิดข้อมูลบนบอร์ดดิ้งพาสไว้บ้าง หรือถ่ายไม่ต้องติดทั้งหมดดีกว่าเนอะ โดยเฉพาะในส่วนสำคัญอย่างบาร์โค้ด เป็นส่วนที่เราดูด้วยตาเปล่าไม่ออกว่าคืออะไร แต่ถ้านำไปสแกนแล้วอ่านข้อมูลออกมาได้ เรื่องจะยาวมากเลยค่ะ ยังไง มัชรูมทราเวล ก็ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวต่างประเทศกันทุกคนเลยจ้าาาา

 

ขอบคุณข้อมูลจาก mushroomtravel