5 เหตุผล ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องไปพิชิตภูกระดึง

กินเที่ยว
5 เหตุผล ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องไปพิชิตภูกระดึง

ด้วยเสน่ห์อันมากมายของธรรมชาติ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จึงทำให้นักท่องเที่ยวหลงใหล จนหลายคนติดใจต้องกลับมาซ้ำ

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2505 ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมธรรมชาติ ทดสอบความอดทนและความแข็งแกร่งของจิตใจ ตลอดทั้งปี ยกเว้นช่วงฤดูฝน ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว โดยฤดูกาลท่องเที่ยวภูกระดึงปีนี้ เปิดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2560 - 31 พฤษภาคม 2561

จากวลี "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ที่เราได้เห็นได้ยินจนคุ้นเคย เคยสงสัยมั้ยคะ? ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร และทำไมต้องไปภูกระดึง วันนี้เราจะรวบรวม 5 เหตุผล ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องไปพิชิตภูกระดึง มาฝากกันค่ะ
 
1. รอยยิ้มและมิตรภาพ
แน่นอนว่า ช่วงที่เดินขึ้นภูกระดึง สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นระหว่างทาง คือ รอยยิ้มและมิตรภาพจากเพื่อนร่วมทาง ที่ไม่ใช่แค่การเดินสวนกันไปมาเหมือนในเมืองใหญ่ รวมถึงตำนานที่ว่ากันว่า หากอยากพิสูจน์รักแท้ ให้พาคนที่เรารักเดินทางไปพิชิตภูกระดึงด้วยกัน ถ้าหากสามารถร่วมเดินทางไปด้วยกันและคอยช่วยเหลือดูแลกันเป็นอย่างดีจนสุดทาง เขาหรือเธอคนนั้นจะต้องเป็นรักแท้ของเราแน่นอน!!!
 
2. การท้าทายตัวเอง
เหตุผลที่หลายคนเลือกไปภูกระดึง คงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนที่กินและที่นอน แต่เพราะอยากพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง ประมาณว่า.. ใจสู้หรือเปล่า ไหวมั้ยบอกมา ทุกคนที่เคยได้ไปสัมผัสต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ระหว่างทางเหนื่อยมากๆ แต่พอถึงยอดภูกระดึง ได้ชมทะเลหมอกยามเช้า ได้ชมดาวยามค่ำคืนแล้ว คุ้มค่าสุดๆ
 
 
3. เสน่ห์ของลูกหาบ
ลูกหาบ เป็นอาชีพที่ขาดไม่ได้ และนับว่าเป็นผู้มีพระคุณของเรา >< ด้วยเส้นทางอันแสนทรหดของภูกระดึง นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการลูกหาบ ลำพังแค่แบกน้ำหนักตัวเองเดินก็ลำบากแล้ว ให้แบกสัมภาระอีกคงไม่ไหว ลูกหาบที่นี่แข็งแรงมากและเต็มใจปฏิบัติหน้าที่โดยแทบไม่แสดงสีหน้าของความเหน็ดเหนื่อยให้นักท่องเที่ยวเห็น
 
4. ไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินสุดโรแมนติก
หากไม่อยากให้ภาพพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินที่ภูกระดึงเป็นเพียงรูปภาพในโปสการ์ด ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเดินทางไปพิชิตภูกระดึง และไปเห็นภาพนั้นด้วยตาของตัวเอง ซึ่งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ที่ "ผานกนางแอ่น" และจุดชมพระอาทิตย์ตกอยู่ที่ "ผาหล่มสัก" ด้วยลักษณะของชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา โดยมีต้นสนแผ่องค์ประกอบไว้อย่างสวยงาม จึงเป็นไฮไลท์รอให้นักท่องเที่ยวมาเยือน
 
 
5. เส้นทางเดินที่น่าหลงใหล
กว่าจะขึ้นไปถึงยอดภูกระดึง จะต้องผ่านเส้นทางที่ยากลำบาก ทั้งหน้าผา น้ำตก หรือป่าปิด ซึ่งหลายคนอาจจะท้อถอดใจ ชนิดที่ว่าไม่อยากกลับมาอีกแล้ว แต่เชื่อเถอะค่ะว่า นี่เป็นสิ่งที่น่าหลงใหล ชวนให้ใครหลายคนอยากกลับมาภูกระดึงซ้ำแล้วซ้ำอีก ความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา จะทำให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลิน จนลืมความเมื่อยล้า
 



 
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงทำให้แต่ละก้าวของผู้พิชิตภูกระดึงเต็มไปด้วยความประทับใจ และคงเพียงพอที่จะทำให้คนที่ไม่เคยไปภูกระดึง อยากไปสักครั้งนะคะ
 
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://nps.dnp.go.th/ หรือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทรศัพท์ 0-42810-833 และ 0-42810-834 ในเวลาราชการ (08.00 น.-16.30 น.) ในกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาท่องเที่ยวพักแรมบนยอดเขาที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงนั้น ให้มาติดต่อซื้อค่าบริการบุคคลก่อนเวลา 13.30 น. และในเวลา 14.00 น. ของทุกวัน จะทำการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นเขาและลงเขาในแต่ละวัน