ของรางวัล

แพ็คเกจเที่ยวประเทศอเมริกา จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 1 ที่นั่ง

Las Vegas - Grand Canyon - Los Angeles - Palm Spring - Solvang - Monterey - San Francisco




Tips ที่ควรรู้ก่อนเที่ยวอเมริกา

เช็คฤดูและสภาพอากาศเพื่อการเตรียมจัดประเป๋าได้อย่างเหมาะสม

ควรจัดเสื้อผ้าให้เหมาะสมแก่ฤดูที่จะเดินทางไปเที่ยว อเมริกาเป็นประเทศที่มี 4 ฤดูกาล


ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม สภาพอากาศร้อนในดีกรีที่คล้ายเมืองไทย แต่อากาศจะค่อนไปทางร้อนแห้ง


ฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงก่อนเข้าฤดูหนาว อากาศจะเย็นสบาย ซึ่งเหมาะแก่การไปท่องเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในหลายๆ เมือง


ฤดูหนาว ระหว่างเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ครอบคลุมเกือบทั้งทวีปอเมริกาเหนือ ฉะนั้นอุณหภูมิจะแตกต่างกันไปในเขตต่างๆ ในฤดูหนาว บางเขตรัฐอาจมีอุณหภูมิถึงขั้นติดลบ -30 องศาเซลเซียส ในขณะที่บางรัฐจะหนาวสุดเต็มที่แค่ 10 องศาเซลเซียส มีหิมะตกในหลายส่วนของประเทศ


ฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม อุณหภูมิอยู่ระหว่างหนาวไม่มากถึงอบอุ่น แต่ก็ยังต้องใส่เสื้อหนาว หรือแจ็คแก็ตคลุมทับด้านบน


การเตรียมเอกสารจำเป็นต่างๆ

เอกสารที่ควรมีติดตัวนั้นก็คือ พาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบินไปกลับ เอกสารการจองต่างๆ เช่น ที่พัก รถเช่า คูปองสวนสนุก บัตรสัมมนา เอกสารทางการแพทย์ ใบรับรองสุขภาพ และข้อมูลติดต่อญาติที่เมืองไทย อันสุดท้ายนี้ไม่ใช่เรื่องตลกแต่จำเป็นมาก เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในระหว่างการเดินทาง หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างน้อยคนที่เข้ามาช่วยคุณเขาก็สามารถทำการติดต่อพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนของคุณให้ทราบข่าวและประสานการช่วยเหลือส่งตัวคุณกลับบ้านได้โดยสวัสดิภาพ


การพกอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

เครื่องใช้ไฟฟ้าขาเสียบเหมือนของไทย แต่ขนาดกำลังความแรงต่างกัน ของอเมริกา 110 V


การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ

การเดินทางไปเที่ยวในอเมริกานั้นค่อนข้างสะดวก โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองใหญ่ๆ ที่มีบริการรถไฟทั้งบนดินและใต้ดิน รถบัส รถแท็กซี่ (ตัวเลือกสุดท้ายนี่แพงสุดเพราะต้องให้ทิปด้วย ยกเว้นคุณไปกันหลายคน) และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งก็มักจะกระจุกอยู่ในบริเวณเดียวกัน และสามารถเดินถึงกันได้ ส่วนคุณที่คิดจะเที่ยวสำรวจเมืองรอบนอกนั้น การเช่ารถขับเที่ยวนี่จะค่อนข้างสะดวกกว่า แต่ต้องคำนึงถึงด้วยว่าที่อเมริกานั้นรถขับพวงมาลัยด้านซ้าย เช็คราคารถเช่าได้ที่ ค้นหารถเช่าราคาถูก
ส่วนคุณที่วางแผนจะเดินทางข้ามรัฐหรือข้ามเมือง เราขอแนะนำให้ใช้บริการเครื่องบินดีกว่า เพราะประหยัดเวลาและราคาไม่แพง และหากคุณคิดจะประหยัดให้สุดๆ ไปเลย ก็สามารถเลือกไปลงที่สนามบินใกล้เคียงในเมืองเล็กๆ ที่โดยปกติแล้วราคาตั๋วเครื่องบินก็มักจะถูกกว่าเกือบครึ่ง และการต่อรถไปยังเมืองหลักก็ไม่ไกลและไม่แพง


เตรียมธนบัตรย่อย


อย่าพกธนบัตรใหญ่เยอะ เช่น แบงค์ 100 ดอลลาร์ เพราะร้านค้าทั่วไปเขานิยมใช้กันแต่แบงค์ย่อยๆ หากคุณเล่นพกแต่ใบใหญ่ไปแล้วร้านเขาไม่มีทอน เขาอาจไม่ยอมขายสินค้า-บริการให้คุณได้ และหากคุณทำเงินหล่นไปสักใบสองใบนี่ก็อาจทำให้คุณหัวใจแทบวายได้เช่นกัน


ร้านอาหารและวัฒนธรรมการให้ทิป


อันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเวลาคุณไปรับประทานอาหารในร้านที่มีพนักงานเสริฟ โดยมารยาทแล้วคุณควรวางค่าบริการหรือทิป (Tip) ให้แก่พนักงานที่เขาบริการคุณเป็นสินน้ำใจประมาณ 10-15% ของราคาอาหารมื้อนั้น แต่ถ้าคุณไปใช้บริการร้านฟาสต์ฟู้ดทั่วไปนั้นก็ไม่จำเป็นต้องวางทิป

สำหรับเรื่องการฝากปากฝากท้องนั้น ขอบอกเลยว่าร้านอาหารไทยในอเมริกานั้นค่อนข้างแพง ถ้าเน้นปริมาณและคุณภาพระดับกลางๆ ร้านอาหารจีนบุฟเฟต์จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากและช่วยคุณประหยัดไปได้เยอะ ยิ่งถ้ามากันเป็นหมู่คณะนี่ถือว่าคุ้มสุด และร้านจีนบุฟเฟต์ก็มีอยู่ทั่วไป หรือถ้าหากไม่เบื่อเบอร์เกอร์และฟาสต์ฟู้ด คุณก็มีตัวเลือกได้มากมาย เพราะร้านฟาสต์ฟู้ดเหล่านี้ราคาถูกและให้เยอะ เช่น อาหารชุดที่สามรถแบ่งกันได้ 2-3 คน เป็นต้น


ช้อปปิ้ง


การช้อปปิ้งที่นี่นั้นราคาสินค้าจะรวมภาษีอยู่ด้วย และในแต่ละรัฐก็มีการเก็บภาษีไม่เท่ากัน ส่วนแหล่งช้อปปิ้งเอ้าท์เล็ต (Outlet) นั้นมักจะอยู่ตามชานเมือง และเป็นแหล่งโละสินค้าตกซีซั่นของแบรนด์ดังมากมาย หากคุณเป็นนักช้อปปิ้ง นักเลือกสินค้ามือโปรฯ คุณจะเหมือนได้เยือนแดนสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งเพราะราคาสินค้าจะถูกน่าตกใจมาก และแฟชั่นก็ไม่ได้เอาท์มากมายอะไร เผลอๆ ยังฮิตกันอยู่เลยในเมืองไทย


บริการฟรีอินเตอร์เน็ต


บริการฟรีไวไฟ (Wi-Fi) มีอยู่ทั่วไปและเร็วมาก ซึ่งคุณสามารถไปใช้บริการฟรีได้ตามร้านค้าต่างๆ เช่น Starbucks McDonald's Dunkin Donuts KFC และแหล่งห้างสรรพสินค้าทั่วไป และขอแนะนำให้ใช้บริการโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตกลับเมืองไทยเพราะประหยัดกว่าการใช้บริการโรมมิ่ง (Roaming) จากเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของคุณ