สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นท์ส มารูน ไฟฟ์ เวิลด์ ทัวร์ 2015 ไลฟ์ อิน แบงค็อก

กระแสแรงสุดๆ “มารูน ไฟว์” เพิ่มรอบ 2 ตามคำเรียกร้อง
โชว์ 22 ก.ย. นี้ เตรียมจับจองบัตร 5 ก.ค.

ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี-เทโร ประกาศเพิ่มรอบคอนเสิร์ตสุดฮอต “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นท์ส มารูน ไฟว์ ไลฟ์ อิน แบงค็อก 2015” (Singha Corporation Presents Maroon 5 Live in Bangkok 2015) ตามคำเรียกร้องของแฟนเพลงทั้งไทยเทศที่มีมากมายเหนือความคาดหมาย โดยจะเพิ่มรอบการแสดงในวันอังคารที่ 22 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคมเป็นต้นไป
 
ด้วยกระแสตอบรับอย่างร้อนแรงจากแฟนเพลงชาวไทย ทำให้บัตรคอนเสิร์ตรอบแรกของหนุ่มๆ มารูน ไฟว์ (Maroon 5) วงดนตรีระดับโลกเจ้าของยอดขายระดับแพลทตินัมและรางวัลแกรมมี่ ถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงแค่ 3 นาที โดยมียอดผู้เข้าจองผ่านระบบออนไลน์ของไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทันทีที่เปิดจำหน่ายพร้อมกันมากกว่า 10,500 แอคเคาท์ สร้างความผิดหวังให้กับแฟนเพลง ที่กำลังยืนรอต่อแถวอยู่หน้าเคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์และไม่สามารถจับจองบัตรได้ทัน ครั้งนี้ ทาง ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี-เทโร จะสำรองโซนพิเศษและเปิดจำหน่ายให้เฉพาะผู้ที่ซื้อบัตรที่หน้าเคาน์เตอร์เท่านั้น เพื่อการันตีว่า แฟนเพลงที่มีความประสงค์ซื้อบัตรที่หน้าเคาน์เตอร์จะมีโอกาสได้รับบัตรอย่างแน่นอน
 
มารูน ไฟว์ (Maroon 5) จะเดินทางมาเปิดการแสดงพร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ 3 หนุ่มสวีดิช เดอร์ตี้ ลูพส์ (Dirty Loops) นักดนตรีมือฉมังที่จะมาเขย่าเวที เพิ่มดรีกรีความมันส์ให้กับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ด้วย วงเดอร์ตี้ ลูพส์ (Dirty Loops) ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 ขณะกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสอนดนตรี รอยัล คอลเลจ ออฟ มิวสิค (Royal College of Music) ที่เมืองสตอกโฮล์ม (Stockholm) พวกเขาเป็นที่รู้จักและโด่งดังเป็นพลุแตก เมื่อเพลง จัสท์ แดนซ์ (Just Dance) ของเลดี้ กาก้า (Lady Gaga) ที่พวกเขาหยิบมาเรียบเรียงใหม่ในสไตล์ของตัวเอง กลายเป็นกระแสชื่นชมและถูกกล่าวถึงเพียงชั่วข้ามคืน ทั้งนี้ ยังมีผลงานเพลงป็อปของนักร้องดังคนอื่นๆ ที่พวกเขานำมาคัฟเวอร์อย่างสร้างสรรค์ได้ไพเราะ สนุกสนาน และไม่เหมือนใคร อาทิ จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber), อะเดล (Adele), ริฮันน่า (Rihanna), บริทนีย์ สเปียร์ส (Britney Spears) และ จัสติน ทิมเบอร์เลค (Justin Timberlake) นอกจากนี้ พวกเขาได้ปล่อยอัลบั้มแรก ลูพิไฟล์ (Loopified) กับค่ายยูนิเวอร์แซล เรคคอร์ด ในปี 2014 ซึ่งมีซิงเกิ้ลใหม่ 10 เพลง รวมถึงเพลงฮิตอย่าง ฮิต มี (Hit Me) ด้วย   

สำหรับการแสดงสดในประเทศไทยทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมาของ หนุ่มๆ มารูน ไฟว์ (Maroon 5) พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่เคยทำให้แฟนเพลงชาวไทยต้องผิดหวัง พวกเขาขนทั้งเพลงฮิตและหอบหิ้วขุมพลัง มาเอ็นเตอร์เทนคนดูอย่างเต็มที่ชนิดไม่มีกั๊ก ทำให้แฟนเพลงได้สัมผัสถึงความสนุกสุดใจทุกครั้งที่ได้ชม เป็นเครื่องรับประกันสุดยอดประสบการณ์ทางดนตรีที่ตอกย้ำความมันส์ กับการกลับมาเปิดการแสดงสดของพวกเขาอีกครั้งในปีนี้ กับคอนเสิร์ตใหญ่ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นท์ส มารูน ไฟว์ ไลฟ์ อิน แบงค็อก 2015” (Singha Corporation Presents Maroon 5 Live in Bangkok 2015) ที่จะระเบิดขึ้น 2 รอบ ในวันจันทร์ที่ 21 และวันอังคารที่ 22 กันยายนนี้  ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี บัตรราคา 2,000 / 3,000 / 4,000 และ 5,000 บาท เปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และผ่านทางเว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com หรือโทร 0-2262-3838 ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่ www.bectero.com / www.facebook.com/bectero/ Twitter: @BEC_Tero_Ent และ Instagram: BECTERO_ENTERTAINMENT

มารูน ไฟฟ์ (Maroon 5) ได้รับรางวัลแกรมมี่ สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในปี 2005 และทำยอดขายกว่า 17 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก ผลงานของพวกเขาได้รับการ ยกย่องให้เป็นอัลบั้มระดับโกล์ดและแพลตินัมในกว่า 35 ประเทศทั่วโลก พวกเขาชนะใจแฟนเพลงและนักวิจารณ์ด้วยแนวเพลงที่ผสมความเป็นร็อคและอาร์ แอนด์ บี ในอัลบั้มชุดแรก ในชื่อ ซองส์ อะเบาท์ เจน (Songs About Jane) ต่อด้วยอัลบั้มดับเบิลแพลตินัมอย่าง อิท วนท์ บี ซูน บีฟอร์ ลอง (It Won’t be Soon Before Long) ซึ่งมีซิงเกิลฮิตอย่าง เมกส์ มี วันเดอร์ (Makes Me Wonder) และ อีฟ ไอ เนเวอร์ ซี ยัวร์ เฟส อะเกน (If I Never See Your Face Again) จากนั้นในปี 2010 พวกเขาเปิดตัวอัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อ แฮนด์ส ออล โอเวอร์ (Hands All Over) ซึ่งมีเพลงดังประจำวงอย่าง มูฟส์ ไลค์ แจ็กเกอร์ (Moves Like Jagger) ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในเพลงที่ทำยอดขายสูงสุดตลอดกาล จากนั้นอัลบั้มชุด โอเวอร์เอ็กซ์โปสต์ (Overexposed) ได้ทำให้พวกเขาทวงความเป็นสุดยอดศิลปินเพลงป๊อบแห่งยุคกลับมา เพลงในชุดนี้ทยานขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ทเพลงต่างๆ และทำสถิติครองอันดับ 1 มากที่สุด (ถึง 6 ครั้ง) ในชาร์ตท็อป 40 ในรอบ 20 ปี และการทัวร์คอนเสิร์ตของอัลบั้มชุดนี้ นับเป็นการทัวร์ที่สร้างรายได้มากที่สุดในปี 2013 คือกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐทีเดียว