5 Seconds of Summer ชวนวัยรุ่นโดดยับสนั่นฮอล ร้องเล่นไม่มีเหนื่อย

บันเทิง
5 Seconds of Summer ชวนวัยรุ่นโดดยับสนั่นฮอล ร้องเล่นไม่มีเหนื่อย

สามทุ่มนิดๆ ก็ถึงคิวของ 4 หนุ่ม Calum Hood, Ashton Irwin, Luke Hemmings และ Michael Clifford (กีต้าร์/ร้องนำ) ขึ้นมาวาดลวยลายด้วย intro เพลง Carry On เพื่ออุ่นเครื่อง


สารภาพกันก่อนตั้งแต่บรรทัดแรกว่า อายุอานามเราก็เลยจุดที่เรียกว่า “วัยรุ่น” มาพอสมควรละ สำหรับวงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นจากออสเตรเลียอย่าง 5 Seconds of Summer เราก็เคยเห็น เคยฟังผ่านๆ มาบ้างเฉพาะเพลงดังๆ อย่าง “She Looks So Perfect” “Hey Everybody” “Don’t Stop” “Jet Black Heart” และเพลงที่คิดว่าน่าจะคุ้นหูกันอยู่หลายคนกับ “Amnesia”  นอกนั้นก็เพิ่งไล่ฟังก่อนดูคอนเสิร์ต 5 SECONDS OF SUMMER SOUNDS LIVE FEELS LIVE IN BANGKOK 2016 อยู่ไม่กี่วัน


ใครที่เกิดทันยุคเรา (ไม่บอกหรอก ปล่อยให้เดาเอาเอง เครนะ) สำหรับดนตรีป๊อบพังค์ หรือพังค์ร็อค ชื่อวงแรกๆ ที่นึกถึงอาจจะเป็น Greenday, New Found Glory, Blink182, Sum41 หรือหากเป็นสายวัยรุ่นหน่อย (สมัยนั้น) ก็ All Time Low, Fall Out Boy อะไรเทือกนั้น ฝั่งอังกฤษก็มีพังค์นิดๆ (ที่หน้าตาดีด้วย) อย่าง McFLY และ Busted ที่ตอนนี้รวมวงเป็น supergroup ชื่อ McBUSTED เป็นที่เรียบร้อย ใครที่รู้จักวงดังกล่าวที่ไล่มายืดยาว คงพอจะเข้าใจอารมณ์เพลงโดยรวมของ 5 Seconds of Summer ได้คร่าวๆ แต่ใครที่ไม่รู้จักวงที่พูดมาเลย ก็ลองคลิกที่ชื่อวงเพื่อเพลงพวกเขากันได้ น่าจะมีสักวงที่ชอบบ้าง

หลังจากได้วงดนตรีฝีมือแน่นอย่าง 60 Miles ที่ขนมาทั้งเพลงของตัวเอง และคัฟเวอร์เพลง “Sugar” ของ Maroon 5 และ “Can’t Get You Out Of My Head” ของ Kylie Minogue เอาในแฟนเพลงอินเตอร์เป็นที่เรียบร้อย สามทุ่มนิดๆ ก็ถึงคิวของ 4 หนุ่ม Calum Hood (เบส/ร้อง) , Ashton Irwin (กลอง/ร้อง), Luke Hemmings (กีต้าร์/ร้องนำ) และ Michael Clifford (กีต้าร์/ร้องนำ) ขึ้นมาวาดลวยลายด้วย intro เพลง Carry On เพื่ออุ่นเครื่อง ก่อนจะเปิดตัวจริงจังอลังการเวอร์กับ “Hey Everybody” ที่วัยรุ่นต่างพร้อมใจกันลุกขึ้นมากระโดด ชูไม้ชูมือ ชูป้าย ชูอะไรสารพัดที่ในมือถืออยู่กันอย่างพร้อมเพรียง



ยังมันกันไม่พอ เหงื่อยังไม่ค่อยออก หนุ่มๆ เลยพาไปมันกันต่อกับ “Money” มีท่อนที่ร้องว่า “Take My Moneyyyy” เหมือนกันแฟนๆ ร้องให้หนุ่มๆ ว่า “เอาเงินฉันไปเลยยยย เธอจะได้มาหาฉันอีก” ยังไงยังงั้น จากนั้นก็ slow down ลงนิดหนึ่งด้วยเพลงจังหวะกลางๆ อย่าง “Disconnected” (จังหวะเพลงฟังแล้วนึกถึงเพลงของ The 1975) ถึงท่อนที่หนุ่ม Calum ร้องว่า “We put the world away” แฟนๆ กรี๊ดกันสนั่นฮอล แหม...ณ จุดๆ นี้ เป็นใครใครก็กรี๊ดเนอะ

หนุ่มๆ พักเบรกพูดคุยกับแฟนเพลงนิดหน่อย ก่อนจะลุยกันต่อกับเพลงสำหรับขาโดดอีกครั้งกับ “Don’t Stop” ท่อน “No way, no way” ทุกคนต่างตะโกนช่วยร้องกันเสียงดังสนั่น จากนั้นก็จัดต่อรัวๆ สลับกับให้สมาชิกแต่ละคนออกมาทักทายแฟนเพลงเล็กน้อย ทั้ง “Heartache On The Big Screen” “Waste The Night” “Castaway” (เพลงนี้หนุ่ม Luke ออกมายืนยันว่าเป็นหนึ่งในเพลงที่พวกเขาชอบและภูมิใจที่สุด) และเพลงเก่งอย่าง “Jet Black Heart” ที่เหล่าแฟนเพลงหยิบกระดาษรูปหัวใจ ครึ่งหนึ่งเป็นหัวใจรูปธงชาติประเทศไทย และอีกครึ่งหนึ่งเป็นธงชาติรูปประเทศออสเตรเลีย ติดเข็มกลัดเข้าหากัน ทำโปรเจ็คไปตลอดทั้งเพลง (ทั้งที่จริงแล้วในใบโปรเจ็คบอกให้ชูขึ้นในเพลง Beside You) จะด้วยสื่อสารผิดพลาดหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่เป็นไร เมื่อเริ่มต้นท่อนโซโล่แรกของ “Amnesia” ทุกคนต่างตะโกนร้องเพลงตามหนุ่มๆ ได้แทบจะทุกท่อนของเพลงเลยทีเดียว และเราต้องขอบอกว่า เวอร์ชั่นสดดีกว่าเวอร์ชั่นสตูดิโอจริงๆ



แล้วเมื่อเพลง “Beside You” ดังขึ้น คราวนี้กระดาษโปรเจ็คถูกชูขึ้นมาข้างบนเต็มฮอลอีกครั้ง และต่อกันด้วย “Vapour” จากนั้นช่วงที่ทุกคนรอคอย และเป็นช่วงโปรดของหนุ่มๆ ก็มาถึง ช่วงเมดเลย์สดๆ กับชื่อเมืองแต่ละเมืองที่พวกเขาไป คราวนี้เป็นคิวของซิงเกิลใหม่ล่าสุด (หนุ่มๆ ล้อเล่นนะ) ที่พวกหนุ่มๆ คิดขึ้นเอง เลือกหาคีย์เสียงเองสดๆ อย่าง “Pad-Thailand” ตอนนี้เอะอะๆ ก็ผัดไทยๆ ไปหมด เพราะเป็นอาหารที่สมาชิกในวงโปรดปรานเป็นพิเศษนั่นเอง ไหนจะ “Bangkok” อีก สาวไทยปลื้มกันเป็นแถว

จากนั้นมาต่อกันด้วย “End Up Here” Voodoo Doll” และ “Good Girls” ที่หนุ่ม Luke เปลี่ยนเนื้อเพลงเป็น "She's eating Pad Thai" ด้วย อุ่นเครื่องต่อจนร้อนได้ที่ คราวนี้มากระโดดกันแบบ non-stop ไม่มีเหนื่อยด้วยสองเพลงติด “Permanent Vacation” (เพลงโปรดของเรา) และ “What I Like About You” เพลงคัฟเวอร์จาก The Romantics ที่ช่วง transition ระหว่าง 2 เพลงนี้สมูธกันดีมากๆ ฟังเพลินแบบอารมณ์มันส์ต่อเนื่องสุดๆ แถมหนุ่ม Michael ยังหยิบหมวกไหมพรมลายธงชาติไทยมาใส่เอาใจแฟนๆ อีกด้วย



จากนั้นหนุ่มๆ ทั้ง 4 ก็หายไปหลังเวทีสักพัก รอไม่นาน Ashton ก็มาปลุกพลังด้วยเสียงกลองอันทรงพลัง ก่อนที่เหล่าสมาชิกจะกระโดดเต้นเหยงๆ อย่างน่ารักน่าชังมาร้อง 2 เพลงเด็ดในช่วง encore กับ “She’s Kinda Hot” และ “She Looks So Perfect” ปิดงานนี้ไปแบบฟินๆ  สาวๆ หลายก้นแทบไม่แตะเก้าอี้เลยทีเดียว  หนุ่มๆ แอบกระซิบว่าจะมาหาแฟนเพลงชาวไทยอีกแน่นอน เอาสัก 20 ครั้งเลยเป็นไง? ถ้าพูดแล้วไม่มีมามีงอนแน่! อิอิ

จบงานแล้ว นึกถึงช่วงสัมภาษณ์ที่ทั้ง 4 หนุ่มมีเป้าหมายว่าอยากจะฝึกฝีมือการเล่นดนตรีให้เก่งขึ้น เพื่อที่จะได้แสดงสดได้เจ๋งๆ ยิ่งขึ้นไปอีก เว่านี้ก็เจ๋งแล้วนะ ถ้าจะเจ๋งยิ่งไปกว่านี้ แบบนี้ครั้งหน้าต้องมาไทยให้ได้ล่ะ จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองว่าเก่งขึ้นหรือเปล่า?

ที่มา :