Mayday เป็นวงร็อคอันดับ 1 ของประเทศไต้หวัน ที่ถูกขนานนามจาก เอเชี่ยน มีเดีย (Asian Media) ว่าเป็น “ราชาแห่งการแสดงคอนเสิร์ตร็อค” และเป็น “หนึ่งในวงที่ขายดีที่สุดในโลก” โดยนิตยสาร บิลล์บอร์ด นอกจากนี้ เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ยังยกให้พวกเขาเป็น “เดอะ บีทเทิลส์ แห่งประเทศจีน” อีกด้วย เมย์เดย์มีสมาชิกด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย อาซิ่น (Ashin) ร้องนำ, สือโถว (Stone) และ ไกว้โซว่ (Monster) มือกีตาร์, หม่าซา (Masa) มือเบส และ กวนโหย่ว (Ming) มือกลอง พวกเขาสร้างสรรค์ผลงานและเปิดการแสดงคอนเสิร์ตมาอย่างโชกโชนจนเป็นตำนานอยู่ในวงการเพลงมากว่า 20 ปี และมีแฟนเพลงอยู่ทั่วโลก 

 

โดยพวกเขาได้เปิดการแสดงในสถานที่สำคัญๆ หลายแห่ง อาทิ เมดิสัน สแคว์ การ์เด้น, บาร์เคลย์ส เซ็นเตอร์, ดิ โอทู, เวมบลี อารีน่า, นิปปอน บูโดกัน โตเกียว, สนามกีฬารังนกปักกิ่ง และสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ที่ล่าสุดพวกเขาได้กลับมาเปิดคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้ง ก่อนเคยเดินทางมาเปิดการแสดงเมื่อช่วงปลายปี 2017 ซึ่งมีแฟนเเพลงกว่า 30,000 คนซื้อบัตรเข้าชมการแสดงของพวกเขาแน่นเต็มทั้ง 3 รอบ

 

การแสดงของ Mayday เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ยังคงสร้างความประทับใจให้กับแฟนเพลงชาวสิงคโปร์ที่มาชมกว่า 40,000 คนไม่รู้ลืม โดยมีศิลปินร่วมค่ายเล่นเปิดเวทีเรียกน้ำย่อยก่อนที่ความมันส์จะระเบิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ พวกเขาจัดเต็มโปรดักชั่นอย่างยิ่งใหญ่ ทั้ง แสง สี เลเซอร์ เอฟเฟ็ค และกราฟฟิคที่ถูกฉายบนจอแอลอีดีขนาดยักษ์เต็มเวที รวมถึงระบบเสียงอันทรงพลัง ที่ทำให้แฟนเพลงได้สนุกและมันส์ไปกับการแสดงของพวกเขาได้อย่างทั่วถึงทุกที่นั่ง โดยพวกเขาเปิดฉากกระหน่ำความมันส์ด้วยเซ็ตลิสต์ที่จัดเตรียมมากว่า 26 เพลง ให้แฟนเพลงได้เต้นและร้องตามอย่างสนุกสนานเต็มอิ่มตลอดการแสดงกว่า 3 ชั่วโมง ท่ามกลางบรรยากาศสีสันของกระบองไฟที่เปลี่ยนเป็นทะเลสีต่างๆ ตามจังหวะเพลงและเสียงดนตรีอย่างสวยงามทั่วทั้งสนามกีฬา

 

ภายในสิ้นปี 2018 นี้ Mayday จะออกแสดง Life Tour จำนวน 106 โชว์ ใน 53 เมืองทั่วโลก และจะมียอดผู้ชมกว่า 3.74 ล้านคน ซึ่งหลังจบการแสดงที่ประเทศสิงคโปร์ พวกเขาได้ประกาศเพิ่มตารางทัวร์อีก 2 ประเทศ โดยจะเดินทางไปเปิดการแสดงที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนกันยายน และประเทศไทยบ้านเราในวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมนี้ โดยผู้จัด ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี-เทโร แฟนเพลงสามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวได้ที่ www.bectero.com หรือที่เฟซบุค www.facebook.com/bectero, ทวิตเตอร์ @BEC_Tero_Ent และอินสตาแกรม @BECTERO_ENTERTAINMENT