เชลซี 2 เอฟเวอร์ตัน 1
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

บทสรุป
อันดับที่สามในพรีเมียร์ ลีกนั้นถูกรักษาไว้ได้สำเร็จจากประตูชัยสองประตูของเราจากผู้ทำประตูสูงสุดสองคนในฤดูกาลนี้ ฮวน มาต้า ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของเชลซี ทำประตูแรกได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกมของครึ่งแรก และ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ทำประตูชัยให้เชลซีได้ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย

เอฟเวอร์ตัน ตีเสมอได้หลังจากที่มาต้าทำประตูเปิดเกมให้เชลซี และ เป็นคู่แข่งที่ยากเมื่อเป็นเกมสุดท้ายของดาวิด มอยส์ที่จะคุมเอฟเวอร์ตันเป็นนัดสุดท้าย ทำได้ดีแต่พลาดโอกาสในครึ่งแรก แต่แม้ว่า ท็อฟฟี่จะมีโอกาสในช่วงครึ่งหลังอีก เชลซีแสดงให้เห็นว่าเราเหมาะสมที่จะเป็นผู้ชนะในคืนนี้

หลังจากการแข่งขัน 69 นัด เราจบฤดูกาลนี้พร้อมกับถ้วยรางวัล ยูโรป้า ลีก และการการันตีสิทธิ์ในการเข้าแข่งรอบแบ่งกลุ่มในแชมป์เปี้ยนส ลีก ฤดูกาลหน้า

เด็มบ้า บา และ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ทั้งคู่ได้ลงสนามตั้งแต่เริ่ม โดย ตอร์เรสไปเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ออสการ์ อยู่อีกฝั่งหนึ่ง และมีมาต้ายืนตรงกลาง ด้านหลังตำแหน่งของบา

 มีผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปี นาธาน อเก้ ลงในตำแหน่งมิดฟิลด์ เคียงข้างกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด บรานิสลาฟ อิวาโนวิชเป็นแบ็คขวา ส่วน ดาวิด ลุยซ์ ลงมาเป็นกองหลังคู๋กับ แกรี่ เคฮิลล์

 ในม้านั่งข้างสนาม อังเดรีย คริสเตนเซ่น มีส่วนร่วมในทีมเยาวชนที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ เยาวชน นักเตะวัย 17 ปีเป็นกองหลังซึ่งสามารถเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาได้ด้วย

เอฟเวอร์ตันมีการเปลี่ยนตัว ลีออน ออสแมน ออกเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ส่ง สตีเฟ่น ไนสมิธ ลงมาแทน
 
ครึ่งแรก
ก่อนที่จะเริ่มคิกออฟวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เดอะ บริดจ์ บ็อบบี้ แท็มบลิ้งส่งต่อรางวัลบู๊ททองคำให้แก่ แฟรงค์ แลมพาร์ด เพื่อจะเปลี่ยนมือให้กับผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของเชลซี ทำให้มีเสียงเชียร์ในสนามดังขึ้น ซึ่งต่อด้วยความบันเทิงตลอดช่วงเปิดครึ่งแรก

การป้องกันของเอฟเวอร์ตันเกือบจะทำให้เชลซีทำประตูนำไปก่อนได้เมื่อผ่านไปเพียงสามนาที บาลากบอลเข้าไปในเขตโทษ ซิลเวน ดิสติน พยายามบล็อกลูกยิงได้สำเร็จ

แกรี่ เคฮิลล์ ป้องกัน การทำประตูของ อนิเชเบ้ เช่นเดียวกัน และ ต่อด้วย การสกัดบอลของผู้ทำประตูเอฟเวอร์ตัน เมื่อผ่านไป 7 นาที เริ่มต้นสวนกลับโดย เชลซีขึ้นนำก่อน ออสการ์ลากบอลเข้าไปในแดนของเอฟเวอร์ตัน และจ่ายบอลต่อไปให้ บา ทิม ฮาวเวิร์ด เซฟลูกยิงของเขาไว้ได้ แต่มาต้าอยู่ที่นั่นพอดีและตามเข้าไปซ้ำ ทำให้เข้าประตูไปเต็มๆ เชลซีขึ้นนำไปก่อน 1-0 และเป็นประตูที่ 20 ของมาต้าในฤดูกาลนี้ในการแข่งขันทั้งหมด 64 นัด คู่กับออสการ์ และ ตอร์เรส เขาลงแข่ง เป็นนัดที่ 64 คู่กับออสการ์ และ ตอร์เรส

การตามหลังเรา และเพื่อจะสร้างความภาคภูมิใจให้ผ้จัดการทีมของพวกเขาให้ออกจากทีมอย่างดี เอฟเวอร์ตันอาจจะสวนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขามีการครองบอลมากกว่าในช่วง 15 นาทีต่อมา

ไนสมิธยิงออกข้างไปจากความพยายามในครั้งแรก ก่อนที่เขา จะตามตีเสมอได้สำเร็จ ในนาทีที่ 13 ที่ผ่านไป ดาวิด ลุยซ์ไม่สามารถควบคุมบอลที่ถูกจ่ายมาให้เขาได้ และมันเด้งออกไป ไนสมิธชิ่งบอลกับ อนิเชเบ้ และดวลกับเช็ก

สี่นาทีต่อมาทีมเยือนยิงบอลไปติดเสาสองครั้ง ดาร์รอน กิ๊บสันมีพื้นที่ว่างให้ยิง แต่บอลออกนอกเขตโทษไป และกระทบกับอเก้ ก่อนที่จะยิงเข้าตรงตัวเช็ก และตรงไปที่เสา ก่อนจะกระเด้งออกมาอีกครั้งและถูกเซฟไว้ได้

สกอร์ยังคงเป็น 1-1 และ ตอร์เรสโหม่งลูกโยนยาวออกข้างไปสำหรับเชลซี และ อเก้ ไม่ได้อยู่ห่างออกไป ในนาทีที่ 29 ลูกยิงจากระยะ 30 หลา ออกข้างไป

เอฟเวอร์ตันพยายามจะสร้างอุปสรรคให้เราอย่างต่อเนื่องและเราก็โล่งใจ เมื่อ เควิน มิราเลส จัดการกับลูกโยนยาวของเพือนร่วมทีมได้ไม่ดีนักทำให้บอลเข้ามือของเช็กไป

ฮาวเวิร์ด ชกบอลที่มาต้า พยายามจะยิงออก หลังจากนั้นไม่นาน และ เอฟเวอร์ตันก็บุกสวนกลับ ตอร์เรสพลาดไปทำฟาวล์โคลแมน ทำให้ได้รับใบเหลือง

มิราลเลส ยิงในนาทีที่ 38 แต่ข้ามคานไป และต่อมายิงไปโดนหลังของดาวิด ลุยซ์

สามนาทีก่อนหมดเวลา เป็นช่วงเวลาที่เชลซีเล่นได้ดีที่สุดในเกมนี้ แต่โชคร้ายที่ปิดจังหวะได้ไม่ดีนักจากแลมพาร์ด ความสำเร็จจากการส่งบอลครั้งแรกผ่านช่วงกลางสนามโดยนักเตะเจ้าของสถิติ 203 ประตู ยิงออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

ครึ่งหลัง
ไม่เหมือนกับประตูแรกของเกม เมื่อฮาวเวิร์ดไม่สามารถป้องกันลูกยิงของ เคฮิลล์ได้หลังจากเริ่มเกมมา 2 นาทีและไม่มีใครจัดการกับบอลนั้นได้ก่อนที่ผู้เล่นของเอฟเวอร์ตันจะทำได้ ความอันตรายมาอีกครั้งจากลูกเตะมุมของมาต้า

นาทีที่ 52 มาต้าจ่ายบอลให้ บา เข้าไปในเขตโทษจากด้านข้าง แต่ ดิสตินสามารถบล็อกไว้ได้อีกครั้ง เมื่อเขาทำได้อีกครั้งในสองนาทีต่อมา ในระหว่างสองเหตการณ์ อิวาโดนวิชมีพลังมาก แต่ไม่มีทิศทางให้ยิงเมื่อลูกเตะมุมเข้ามาในทางของเขา

อย่างไรก็ตาม เชลซีสามารถกดดันเกมได้มากกว่าครึ่งแรก พร้อมความสำเร็จจากลูกยิงถูกบล็อคในเขตของเอฟเวอร์ตัน นาทีที่ 59 ออสการ์จ่ายบอลไปให้โคล จากแดนกลาง โชคร้ายที่อยู่ติดกับกองหลังของเอฟเวอร์ตันและถูกป้องกันไว้ได้

เชลซี เกือบจะเปิดเกมรุกใส่เอฟเวอร์ตันได้ เมื่อหลังจากการจับเหยื่อที่ดีโดยอเก้ ในแดนของเรา บา จ่ายต่อไปให้มาต้าใกล้กับเขตโทษ แต่การเล่นผสานของ เบนส์ และ ดิสตินป้องกันอันตรายไว้ได้ นั่นเป็นการเล่นกับวิคเตอร์ โมเซส ครั้งสุดท้าย เมื่อนาทีที่ 65 เขาถูกเปลี่ยนตัวออก

เอฟเวอร์ตันเกือบจะทำประตูขึ้นนำได้ในนาทีที่ 73 เบนส์ลากบอลขึ้นหน้า หลังจากอิวาโนวิช พลาด บอลตกไปที่ นิกิก้า เจลาวิช แต่เขายิงออกข้างไป

เชลซีเอาคืนได้หลังจากความผิดพลาดนั้นโดยขึ้นนำอีกครั้งสองนาทีต่อมา อเก้ ได้บอลอีกครั้งเพื่อจะเริ่มต้น ออสการ์ วิ่งเข้าไปในพื้นที่ด้านขวา และ โยนต่อไปให้โมเซส นักเตะชาว ไนจีเรีย โหม่งลงต่อให้ตอร์เรสยิงเข้าไปในมุมที่ฮาวเวิร์ดเอื้อมไม่ถึง และเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 22 ของเขาในฤดูกาลนี้

เช็ก เซฟบอลสองครั้ง จากเจลาวิชก่อนจะจบเกม ฮาวเวิร์ดเซฟได้ครั้งหนึ่งจากโมเซส

เซซาร์ อัซปิลิเกวต้า ลงสนามในช่วงท้ายเกมและเล่นในแนวรุกที่ด้านขวา และ มีช่วงสั้นๆให้เปาโล เฟอร์เรร่า ลงมาในสนาม ซึ่งเขาลงมาและมีเสียงเชียร์สนับสนุนทุกครั้งที่เขาได้บอล

เอฟเวอร์ตันส่ง มารูนย์ เฟลไลนี่ลงมาในแดนหน้า ในช่วงท้ายเกม และ เล่นบอลจากด้านหลัง แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรเช็ก ได้ สัปดาห์ที่ดีของเชลซีผ่านไปได้อย่างสมบูรณ์

เฟอร์เรร่า ถือถ้วย ยูโรป้าลีก ในสนาม เพื่อเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ รวมถึง แฟรงค์ แลมพาร์ด และ จอห์น เทอร์รี่ คว้าไมค์กล่าวขอบคุณแฟนบอล สำหรับการสนับสนุนหลายๆเกมที่ผ่านมา

เชลซี จัดวางผู้เล่นในระบบ 4-2-3-1 : เช็ก; อิวาโนวิช, เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์ , โคล; แลมพาร์ด (c), อเก้; ออสการ์ (เฟอร์เรร่า น.87), มาต้า (อัซปิลิเกวต้า น.82), ตอร์เรส; บา (โมเซส น.65).
ผู้เล่นสำรองที่ไม่ได้ลงแข่งในสนามเทิร์นบูลล์, คริสเต็นเซ่น, เบนายูน, มาริน
ผู้ทำประตู มาต้า น.7,ตอร์เรส น.75.
ใบเหลือง ตอร์เรส น.33.

เอฟเวอร์ตัน จัดวางผู้เล่นในระบบ 4-4-1: ฮาวเวิร์ด; โคลแมน,จาเกียลก้า (c), ดิสติน, เบนส์; ไนสมิธ(เฮติงกา น.65), เฟลไลนี่, กิ๊บสัน; มิราลลาส; พีนาร์ อนิเชเบ้ (เจลาวิช น.65)
ผู้เล่นสำรองที่ไม่ได้ลงแข่งในสนาม: มูชา, ฮิบเบิร์ต, ดัฟฟี่, โอวิเอโด้, บาร์คเลย์.
ผู้ทำประตูไนสมิธ น.13.
ใบเหลือง เฮติงกา น.70.

ข้อมูลจาก : http://thai.chelseafc.com/facts/match/report/217