ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส งามอร่าม 360 องศา

กินเที่ยว
ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส งามอร่าม 360 องศา

ความงดงามของทุ่งโปรงทอง ที่ให้สีสันสวยงามสบายตา รวมถึงสภาพของป่าชายเลนที่ค่อนข้างสมบูรณ์

 

 

ป่าชายเลน ชุมชนบ้านแสมภู่ หมู่ 7 แห่งปากน้ำประแสนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานอนุบาลสัตว์ทะเลตัวน้อยๆ ให้ได้เติบโตพร้อมเผชิญออกไปกับคลื่นลมเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นแหล่งในการหาปู หาหอยที่สำคัญ เพื่อเลี้ยงชีพของชาวบ้านในละแวกนี้อีกด้วย ซึ่งจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายนั้น ล้วนผูกพันอยู่กับป่าชายเลนจนยากจะตัดขาดออกจากกัน ทั้งนี้เนื่องด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์พืชนานาชนิดนั่นเอง จึงทำให้ที่นี่ได้รับการพ่วงเข้าไปเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งโดยปริยาย 

นักท่องเที่ยวหากว่ามีโอกาสได้มาเยือน จะสามารถเดินบนสะพานไม้เพื่อยลโฉมธรรมชาติ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นโกงกางที่ขึ่นกันอย่างหนาแน่นได้ตลอด 2 ข้างทาง รากของพวกมันดูเก้งก้าง ยื่นเหยียดตัวเพื่อแย่งพื้นที่ปักหลักลงบนผิวโคลนนุ่มๆ ทำให้นึกถึงภาพงานศิลปะในแนวนามธรรมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ขณะที่ทุ่งโปรงทองก็ถือเป็นจุดที่ใครก็ไม่ควรพลาดความงดงาม ด้วยสีสันเหลืองอร่ามจากฝีมือธรรมชาติ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นภาพแนว อิมเพรสชันนิสม์ ก็คงไม่ผิด เพราะสัมผัสแรกเมื่อได้พบเห็น ก็สร้างความประทับใจได้แทบจะในทันที

 

ทุ่งโปรงทอง ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของผู้ที่ได้มาเยือน เพราะสามารถยืนมองได้อย่างรอบตัว 360 องศา สบายตาดีทีเดียว ซึ่งบรรดาต้นโปรงที่ ขึ้นกันอย่างหนาแน่นนั้น เมื่อยามที่ยอดของพวกมันต้องกระทบกับแสงแดด โดยเฉพาะแสงแดดรำไรในยามเช้า หรือในช่วงเวลาเย็นๆ แล้วละก็ ยิ่งจะแลดูสวยงามสร้างความตรึงใจให้กับผู้พบเห็นได้อย่างง่ายดาย เพราะทุ่งโปรงทองแห่ง นี้จะขับเน้นสีสันเหลืองอมเขียวเฉพาะตัวอย่างถ้วนทั่ว ทำให้ทั้งทุ่งเรืองรองเป็นสีทอง และไม่ต้องแปลกใจหากผู้ที่ได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้ หน้าตามีรอยยิ้มและแววตาที่ฉายลุกวาว จนไม่อยากจะเคลื่อนย้ายร่างกายไปชื่นชมยังจุดอื่นๆ ซึ่งก็มีความน่าสนใจอยู่แต่อาจจะน้อยกว่า แต่ทว่าไหนๆ ก็มาถึงที่กันแล้ว จึงน่าจะลองเดินไปยังจุดอื่นๆ กันดูซักหน่อยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว

จากจุดชมทุ่งโปรงทอง หากเดินมาตามสะพานไม้ระยะทางกว่า 1 ก.ม. จะมาสิ้นสุดที่ตรงศาลาริมชายฝั่ง ซึ่งสามารถนั่งพักให้ลมทะเล ที่พัดเอาความสดชื่นมาให้ได้สูดกันอย่างเต็มปอด ทำให้หายเหนื่อยได้อย่างเป็นปลิดทิ้ง แล้วถ้ามาในช่วงน้ำขึ้นด้วยละก็ ยิ่งจะทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายลงไปได้อย่างยอดเยี่ยม ว่าแต่ปล่อยให้เดินกันมาอยู่นานสองนาน ลืมบอกไปครับว่าขณะเดินควรใช้ความระมัดระวังกันซักหน่อย เพราะสะพานทางเดินไม้บางช่วงนั้นจะอันตรายพอสมควร พื้นไม้ค่อนข้างผุ รวมถึงเมื่อเปียกน้ำฝนด้วยแล้วละก็ อาจทำให้ลื้นล้มเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นเวลาเดินจึงไม่ควรหยอกล้อกัน เพราะอาจจะหกล้มเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เที่ยวหมดสนุกไปได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถพบเห็นได้เป็นระยะ ช่างเป็นภาพที่ดูขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง ต้นไม้สวยๆ รายล้อมไปด้วยถุงขนม ขวดพลาสติก และอื่น ซึ่งอาจจะกระทบกับสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยในบริเวณนั้นได้

จึงอยากจะขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยวว่า หากได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่ใดก็ตามแต่ ควรที่จะช่วยกันรักษาสภาพเดิมเหล่านั้นเอาไว้ให้มากที่สุด เพราะบางคนคิดเพียงว่า แค่ขยะชิ้นเดียวทิ้งไปคงไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหากมีคนคิดอย่างท่านซักร้อยคน มันจะเป็นอย่างไร ซึ่งการทิ้งขยะให้ถูกที่นั้นมันก็คงไม่น่าจะลำบากซักเท่าไหร่จริงไหมครับ เราเชื่อว่าการสร้างสรรค์ที่ง่ายที่สุดก็คือการไม่ทำลายนั่นเองครับ     

ที่สุดแล้ว โดยภาพรวมของทุ่งแห่งนี้ก็ยังมีความน่าสนใจมากอยู่เลยทีเดียว ธรรมชาติพยายามนำเสนอจุดเด่นอันไร้การปรุงแต่งให้ได้ชื่นชม แม้บางอย่างอาจจะไม่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ แต่ก็ถูกชดเชยด้วยความงดงามด้วยธรรมชาติรังสรรค์ ที่จะประทับติดอยู่ในใจไปอีกนาน

 

ที่อยู่ : ชุมชนบ้านแสมภู่ หมู่ 7 ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง
GPS : 12.707533, 101.716450
เบอร์ติดต่อ : 038-661-720-1 ข้อมูลการท่องเที่ยว เทศบาลปากน้ำประแส
แฟกซ์ : 038-661-720-1 ต่อ19
Website : www.prasae.com
เวลาทำการ : ประมาณ 06.00 น. – 18.00 น.
ช่วงเวลาแนะนำ : ช่วงตอนพระอาทิตย์ขึ้น และช่วงบ่ายแก่ๆ ประมาณ 16.00 น.
ไฮไลท์ : ความสวยงามของทุ่งโปรงทอง
กิจกรรม : เดินเที่ยวชมระบบนิเวศของป่าชายเลน

 

ถ้าเดินทางมาจากระยองด้วย ถนนสุขุมวิท พอถึง ก.ม.ที่ 278 ให้เลี้ยวขวาที่แยกประแส จากนั้นให้วิ่งตรงเข้ามาเรื่อยๆ จนมาเลี้ยงซ้ายที่ ถนนเทศบาล 5 แล้ววิ่งมาจนสุดทางที่รถจะสามารถเข้าได้ จากนั้นก็เที่ยวชมได้ทันที

ข้อมูลเเละภาพประกอบจาก