โดยทีมหงส์แดงได้ 3 ประตู ในช่วง 30 นาทีแรกของเกมจาก ซาล่าห์, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ มาเน่ และจบเกมในครึ่งแรกด้วยสกอร์ที่ไม่มีใครคาดคิดถึง 3-0

 

เปิดครึ่งหลังมาเป็นฝั่งทีมเยือนที่ครองบอลไว้ได้เกือบทั้งหมด และพยายามทำเกมรุกเข้าใส่ฝั่งเจ้าบ้าน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถเจาะแนวรับเข้าไปทำประตูตีตื้นได้
 

 

จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 3-0 และการที่ไม่เสียอะเวย์โกลน่าจะทำให้พวกเขาเล่นได้ง่ายขึ้นในแม็ตช์ที่ต้องไปเยือน แมนฯซิตี้ ในเกมเลกสองซึ่งจะลงเตะกันวันอังคารที่ 10 เม.ย. นี้

 

5 สถิติ หลังจบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้าน อัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0

 

1. หลังเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในแอนฟิลด์ไปได้ 3-0 ทำให้ ลิเวอร์พูล ทำสถิติยังไม่แพ้ใครในบ้านในศึกแชมเปี้ยน ลีก 15 นัดติดต่อกัน โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ในแอนฟิลด์ในถ้วยใบนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 โดยเป็น รีล มาดริด ที่บุกมาชนะไป 0-3 

 

2. ความพ่ายแพ้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกิดเรื่องไม่น่าเชื่อขึ้นอย่างหนึ่งนั่นคือ ในเกมนี้พวกเขายิงไม่ตรงกรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขายิงไม่ตรงกรอบเลยนับตั้งแต่เกมที่พวกเขาเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมลีกคัพ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2016

 

3. สามประตูที่ ลิเวอร์พูล ทำได้เมื่อคืน ทำให้ทีมเจ้ายุโรป 5 สมัย ถล่มประตูคู่แข่งในแชมเปี้ยน ลีกฤดูกาลนี้ไปแล้ว 31 ลูก

 

4. หลังผ่านเกมเมื่อคืน แมนฯซิตี้ เสียประตูรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 38 ลูก โดยเป็นการเสียให้กับ ลิเวอร์พูล ทีมเดียวถึง 7 ลูก ซึ่งมาจากฝีเท้าของ ซาล่าห์, มาเน่, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน คนละ 2 ลูก และฟีร์มีโน่ อีก 1 ลูก

 

5. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงมีสถิติที่ย่ำแย่ในการมาเยือน ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ต่อไป โดย 17 นัดหลังสุดที่พวกเขามาเยือนที่นี้ ไม่เคยพบกับชัยชนะเลย เป็นการแพ้ไปถึง 12 นัด และเสมอไปอีก 5 นัด