เคยสงสัยบ้างไหมคะว่า บางครั้งเมือเราวิตกกังวล เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง แล้วเราก็นอน แต่ปรากฏว่า ไม่ว่าจะนอนมากมายกี่ชั่วโมงแล้วก็ตาม ก็ยังไม่หายเพลีย กลับยังคงง่วงไม่สดชื่น เหมือนนอนไม่เต็มอิ่มอยู่ดี แล้วเราก็นอนอีก เพื่อหวังว่ามันจะได้เต็มอิ่มในที่สุด แต่แล้วเมื่อตื่นขึ้นมา เราก็ยังรู้สึกเพลียอีกอยู่ดี

ความจริงมันมีอยู่ว่าอาการง่วงนอน  อ่อนเพลียแบบไร้สาเหตุนั้น เกิดจากการที่ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จึงทําให้รู้สึกไม่สดชื่นและง่วงนอน โดยธรรมชาติแล้ว ไม่ว่าเราจะนอนที่ไหน มีออกซิเจนมากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม ร่างกายเราก็จะผลิตฮอร์โมนชนิดหนึ่งเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งมันมีฤทธิ์เหมือนยาสลบอ่อนๆ ให้เราคงอาการหลับไหลไว้ได้นั่นเอง ตรงนี่แหละคือเหตุผลที่ว่า ถ้าเรายิ่งนอนมาก ฮอร์โมนตัวนี้ก็ยิ่งถูกผลิตออกมามาก เพื่อคงสภาพการนอนหลับของเราไว้ และเมื่อเราตื่นขึ้นมาแต่ฮอร์โมนตัวนี้ก็ยังคงอยู่ในกระแสเลือดของเรา จึงทําให้เรายังคงรู้สึกสลึมสลือ อ่อนเพลียและง่วงนอนอยู่นั่นเอง


วิธีแก้ง่ายมาก ให้ลุกขึ้นแกว่งแขนขา ยกมือเคลื่อนไหวร่างกาย เดินไปเดินมา และหาที่สูดออกซิเจนกันซะหน่อย การทําเช่นนี้จะทําให้ชีพจรเต้นเร็วขึ้น ปอดพร้อมทํางานแลกเปลี่ยนถ่ายเทออกซิเจนในกระแสเลือด เท่านี้คุณก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นได้เเล้วค่ะ

แต่เมือถึงเวลากลางคืนที่ต้องเข้านอนจริงๆ คุณก็ต้องนอนตามปกตินะ ห้ามทําตัวเป็นมนุษย์ค้างคาวไม่ยอมหลับยอมนอน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เช้าขึ้นมาจะมาทําแกว่งแขนแกว่งขาบริหารร่างกายยังไง มันก็ไม่ช่วยให้หายง่วง หายเพลียได้นะคะ ^^