เยือนถิ่นเก่า เล่าขาย ย่านนางเลิ้ง

กินเที่ยว
เยือนถิ่นเก่า เล่าขาย ย่านนางเลิ้ง

ความเป็นตลาดเก่าแก่ซึ่งยังคงหลงเหลือกลิ่นอายให้ได้สัมผัสทั้งโรงหนังเก่า บ้านเรือน และที่สำคัญของอร่อยต่างๆ ให้เลือกทานมากมาย

ตลาดนางเลิ้ง เดิมเรียกว่า บ้านสนามควาย ก่อนจะเรียกว่า อีเลิ้ง ตามชื่อตุ่มชนิดหนึ่งของชาวมอญ จนมาเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น นางเลิ้ง ในยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม นัยว่าเพื่อความสุภาพตามธรรมเนียมนิยมนิยม

ตลาดนางเลิ้ง เป็นตลาดบกแห่งแรกของประเทศไทย ในสมัยก่อนชาวบางกอกนิยมเดินทางเฉพาะน้ำ จึงยังไม่มีตลาดบกตั้งเป็นหลักแหล่ง เพราะชาวบ้านนิยมพายเรือนำของสวนมาขายตามสองฝั่งคลอง ที่นี่เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อในสมัยรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ. 2442 และวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552 ตลาดนางเลิ้งจะมีอายุ 113 ปีพอดี

ในอดีตละแวกนี้เปรียบได้กับย่านสยามสแควร์ในปัจจุบันอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากย่านนี้นับเป็นศูนย์รวมความบันเทิงใจกลางกรุงเลยทีเดียว นับตั้งแต่ “ราชตฤณมัยสมาคม” (สนามม้านางเลิ้ง) “โรงหนังเฉลิมธานี” ที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่า “โรงหนังนางเลิ้ง” ที่เปิดฉายกันตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นหนังเงียบก่อนที่จะปิดตัวลงไปเมื่อปี 2536 นี้เอง นอกจากนี้วังเก่าของ “เสด็จเตี่ย” กรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ ยังตั้งอยู่ในย่านนี้ รวมถึงข้าราชบริพารของท่านก็อาศัยอยู่ในระแวกนี้เช่นเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นหมู่ตึกทรงขนมปังขิงสวยงามตั้งเด่นตระหง่านมาจนถึงปัจจุบัน จากตึกรามบ้านช่องที่ยังคงอยู่ก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ในอดีตย่านนี้มีความเจริญและคึกคักแค่ไหน

ถึงแม้ตลาดนางเลิ้งจะเปลี่ยนแปรไปตามกาลเวลาแห่งยุคสมัย ทว่าสิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็ยังแฝงไว้ด้วยประวัติศาสตร์ และกลิ่นอายของอดีตอันน่ารื่นรมย์ และอีกสิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่คู่กับตลาดนางเลิ้งมาอย่างไม่เปลี่ยนแปลงไปไหนนั้นก็คือ ตำรับความอร่อย ที่มีทั้งของคาวของหวานขึ้นชื่อลือชาให้เหล่านักชิมได้แวะเวียนไปอยู่ไม่ขาด ซึ่งหลายๆ ร้านก็ยังคงสูตรเด็ด มีรสมือการปรุงตามแบบฉบับโบราณแท้ๆ ซึ่งสืบทอดกันมายาวนานนับศตวรรษ ดังนั้นเมื่อมาถึงตลาดนางเลิ้งทั้งที จะไม่พูดถึงเรื่องอาหารการกินก็คงจะเหมือนมาไม่ถึง แล้วจะรอช้าอยู่ไย...ตามเรามาค้นหาอาหารคาวหวานรสเลิศ และของกินโบราณหายากกันเลยดีกว่า

หลังจากเดินสำรวจอยู่นานสองนาน เราก็ขอเริ่มกันที่อาหารคาวกันก่อนดีกว่า ซึ่งในตลาดนางเลิ้งก็มีอาหารจานหลักๆ ให้เราได้เลือกทานมากมาย เช่น อาหารตระกูลเส้นทั้ง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านดังอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นนางเลิ้ง” ที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ส. 2499 รับรองว่าถูกใจคนรักเนื้อเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเนื้อสด เนื้อเปื่อย เอ็นแก้ว น้ำซุปหอมอร่อยจนหลายๆ คนติดอกติดใจไปตามๆ กัน หรือจะเลือกก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าอร่อย “ร้านส.สำราญ” ที่เปิดขายมานานกว่า 15 ปี ถ้าอยากกินต้องรีบๆ ไปกันหน่อยเพราะเขาขายแค่วันละ 10 ตัวเท่านั้น ถ้าหมดแล้วก็อดกินกันไปตามระเบียบ ยังไม่หมดเมนูเส้น เพราะยังมี “ร้านบะหมี่รุ่งเรือง” ที่เลื่องชื่อด้วยบะหมี่ปูและบะหมี่ซี่โครงหมู อร่อยแค่ไหนคงไม่ต้องบรรยายให้มากความ เพราะเขามีตราสัญลักษณ์การันตีจากหลายสถาบัน อย่าเพิ่งอิ่มกันซะก่อนล่ะ เพราะยังมีก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟจาก “ร้านอิ๋วเย็นตาโฟ” ที่มีลูกชิ้นเด็ดมาก ขนาดลูกค้าต้องสั่งซื้อกลับไปอร่อยต่อที่บ้าน ผ่านเมนูเส้นไปหลายร้านแล้ว เราขอเปลี่ยนมาเป็นฟาสต์ฟู้ดแบบไทยๆ กันดูบ้าง “ร้านข้าวแกงรัตนา” ร้านข้าวแกงที่มีสารพัดกับข้าวให้เลือก เรื่องรสชาตินั้นห่างห่วง เพราะสูตรเด็ดเคล็ดลับตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ที่เคยทำงานอยู่ในห้องเครื่องในวังมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจถ้ามาตอนเที่ยงๆ แล้วจะเห็นคนมุ่งอยู่เต็มหน้าร้าน นอกจากข้าวแกงแล้วยังมีข้าวหน้าเป็ด “ร้านจิ๊บกี่”, “ร้านข้าวตังเมี่ยงลาว สาคูไส้ปลาและหมูแม่สะอิ้ง” ซึ่งเด็ดทุกรายการ โดยเฉพาะข้าวตังกรอบๆ ที่ทานคู่กับเมี่ยงลาว ทำด้วยหมูพร้อมส่วนผสมหลายอย่างแล้วห่อด้วยผักกาดดอง ขอบอกว่าอร่อย เหมาะจะเป็นของทานเล่นได้เป็นอย่างดี

ถัดจากของคาวก็ต้องไปต่อกันที่ของหวาน ซึ่งในตลาดนางเลิ้งมีร้านขนมไทยมากมายหลายร้าน และแต่ละร้านก็มีดีแตกต่างกันออกไป เริ่มกันเบาๆ ด้วย “ขนมเบื้องลุงน้อยเจ้าเก่า” โดดเด่นด้วยตัวแป้งที่ทำด้วยถั่วทอง อร่อยกรุบกรอบทั้งไส้เค็มและหวาน, ถ้าใครชอบถั่วแปบ ขนมเหนียว มันสัมปะหลังเชื่อม ต้องยกให้ “ร้านขนมไทยแม่สมจิตต์” หรือถ้าชอบขนมตาล ขนมกล้วย ขนมสอดไส้ ก็ต้องไปที่ “ร้านนันทาขนมไทย”, ส่วนขนมตระกูลทองทั้งหลาย ทั้งทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ก็ต้องไปที่ “ร้านขนมไทยแม่กวา” และสำหรับวันที่อากาศร้อนๆ แนะนำให้ไปทาน “ข้าวแช่เพชรบุรี” ข้าวเม็ดขาวๆ สวยๆ ที่แช่มาในน้ำลอยดอกมะลิอบควันเทียนหอมเย็นชื่นใจ ทานเคียงกับเครื่องข้าวแช่หลากหลายทั้ง ลูกกะปิ ปลาหวาน อร่อยชื่นใจอย่าบอกใคร ก่อนจะปิดท้ายกันด้วย “ร้านกาแฟโบราณ นางเลิ้ง Salon de café” ร้านกาแฟเก่าแก่ที่อยู่คู่ตลาดนางเลิ้งมานาน

สำหรับทีเด็ดที่จัดได้ว่าถ้ามาถึงตลาดนางเลิ้งแล้วไม่อยากให้พลาด นั่นก็คือ บรรดาของกินโบราณที่หาทานได้ยากมากๆ แล้วในปัจจุบัน เช่น ข้าวตังหน้าตั้งแบบโบราณ เมี่ยงลาว ขนมเบื้องญวน ขนมกง และของทางเล่นโบราณที่คนรุ่นใหม่น้อยคนนักจะได้รู้จัก “ไส้กรอกปลาแนม” ที่มีลูกค้าขาประจำเข้าคิวรอซื้อกันตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน เห็นแบบนี้แล้วเราก็ต้องขอลองชิมกันซักหน่อย คุณป้าเจ้าของร้านใจดีห่อไส้กรอกพร้อมปลาแนมและพริกขี้หนูเม็ดเล็กส่งมาให้ เราชิมหนึ่งคำ หลังจากได้ลิ้มรสชาติแล้วเราก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมถึงมีลูกค้าติดอกติดใจ มากมายขนาดนี้ ยิ่งเป็นอาหารที่หาทานได้ยาก และมีกรรมวิธีการทำที่ยุ่งยากใช้เวลานาน ดังนั้นของอร่อยจึงมีอย่างจำกัดปริมาณในแต่ละวัน ถ้ามาเข้าคิวช้าก็คงจะอดกินกันแน่ๆ เรื่องของอร่อยในตลาดนางเลิ้งยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ หากแต่เราคงต้องขอหยุดเอาไว้ก่อน มิเช่นนั้นแล้วท้องน้อยๆ ของเราคงจะมีจุดจบไม่ต่างจากชูชกแน่นอน

ก่อนกลับอย่าลืมเดินเล่นไปรอบๆ ย่านนี้ แวะกราบไหว้ขอพรจากศาลเสด็จเตี่ย เดินชมความงามของตึกรามบ้านช่อง ซึมซับบรรยากาศเก่าๆ และแวะสั่งทำล็อกเก็ตหินที่ “นางเลิ้งอ๊าร์ต” ร้านรับทำล็อกเก็ตหินเจ้าแรกของประเทศไทย ที่ปัจจุบันก็ยังมีคนมาสั่งทำอยู่บ้างเป็นระยะ และถ้าใครสนใจอยากจะแวะเวียนมาชิมของอร่อยบ้าง ก็อยากจะแนะนำให้รวบรวม ชักชวนเพื่อนฝูง พี่น้อง และครอบครัวมากันหลายๆ คน จะได้แบ่งกันกิน ผลัดกันชิมของอร่อยได้มากชนิดหน่อย ที่สำคัญเวลามีของอร่อยก็ต้องบอกต่อๆ กันหน่อย แล้วคุณจะหลงรักตลาดนางเลิ้งเหมือนเรา เชื่อเถอะ

ขอบคุณคลิปจากคุณ ครับ

ที่อยู่ : ถ.นครสวรรค์ ซ.6 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. 10100
GPS : 13.759683, 100.511967
เวลาทำการ : ตลาดเช้าเปิดขายตั้งแต่ 10.00– 13.30 น. ตลาดเย็นเปิดขายตั้งแต่ 17.00-23.00 น.
ช่วงเวลาแนะนำ : วันธรรมดาตั้งแต่ 10.00-13.30 น. เป็นช่วงที่มีของขายมากที่สุด
ไฮไลท์ : เดินเที่ยวเล่นและชิมของอร่อยหาทานไม่ได้ง่ายๆ
กิจกรรม : เดินเที่ยวชิมและสัมผัสกับบรรยากาศตลาดเก่าแก่

โดยรถส่วนตัว
ถ้ามาจาก ถนนเพชรบุรีให้วิ่งมุ่งหน้าสู่ ถนนพิษณุโลกจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนนครสวรรค์ พอข้ามสะพานข้ามคลองกรุงเกษมแล้วสามารถลงรถได้ที่หน้าตลาดนางเลิ้งหรือปากซอยนครสวรรค์ 6ได้เลย
หรือถ้ามาจากฝั่งธนฯเมื่อข้ามสะพานพระปิ่นเกล้าแล้วก็วิ่งมาตาม ถนนราชดำเนินกลางมาเรื่อยๆ จนมาถึงผ่านฟ้าแล้วจึงมุ่งหน้าเข้าสู่ ถนนนครสวรรค์ วิ่งไปซักระยะจะพบกับตลาดนางเลิ้งทางฝั่งขวามือ   

โดยรถประจำทาง
สาย5, 10, 53 และปอ. 171 เข้าถนนหลานหลวงสาย2, 8,ปอ. 44 และปอ. 60

ข้อมูลและภาพประกอบจาก : www.thetrippacker.com