วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งประดิษฐานพระพุทธชินราชไว้ภายในวัด นับว่าเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งถ้าหากใครได้มาที่จังหวัดพิษณุโลกแล้ว ก็ต้องแวะมาสักการะขอพรจากพระพุทธชินราชกันแทบทุกคน
|
นานๆ จะได้มีโอกาสมาเที่ยวที่จังหวัดพิษณุโลกทั้งที แล้วมีหรือที่เราจะพลาดโอกาสที่มาสักการะ “พระพุทธชินราช” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทย หรืออาจเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร” พระอารามหลวงชั้นเอกที่มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเรียกกันติดปากว่า “วัดใหญ่” นั่นเอง เมื่อมาถึงวัดแล้วเราก็เขาไปสักการะขอพรกับพระพุทธชินราชเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนเลย
|
|
|
|
“พระพุทธชินราช” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ สีเหลืองทองอร่ามทั้งองค์ด้วยทองสัมฤทธิ์ ซึ่งมีพุทธลักษณะที่งดงามมากสังเกตุได้จาก เส้นรอบนอกพระวรกายอันอ่อนช้อย พระขนงโก่งได้รูป พระเนตรประดุจตากวาง พระนาสิกโด่ง พระเกตุมาลาเป็นเปลวเพลิง พระหัตถ์มีลักษณะเป็น “ทีฒงฺคุลี” คือปลายนิ้วเสมอกันทั้งสี่นิ้ว ชายผ้าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ และยังมีซุ้มเรือนแก้วทำด้วยไม้แกะสลักซึ่งสร้างเพิ่มเติมในสมัยอยุธยาถือ เป็นศิลปะที่สวยงามมาก ซึ่งเราสังเกตุได้ว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนมาชม ความงดงามและสักการะพระพุทธชินราชเป็นจำนวนมาก ยิ่งถ้าเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วยแล้ว จำนวนผู้คนก็จะมากเป็นพิเศษจนเรารู้สึกวัดแคบไปถนัดตา
|
|
|
-
|
นักท่องเที่ยวทุกคนควรแต่งกายให้เรียบร้อย ห้ามนุ่งกางเกง กระโปรงสั้นเหนือเข่า รวมถึงเสื้อกล้าม และเกาะอก
|
|
|
-
|
ภายในพระวิหารไม่อนุญาตให้จุดธูปเทียน และไม่สามารถยืนถ่ายภาพภายในวิหารได้
|
|
|
-
|
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เปิดให้เข้านมัสการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.30-18.00 น.
|
|
|
|
|
|
นอกจากพระพุทธชินราชแล้ว ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารยังมีพระพุทธรูปสำคัญให้เราได้สักการะอีกหลายองค์ เช่น พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา หลวงพ่อดำ และถ้าหากเดินไปทางด้านหลังของพระวิหารก็จะเห็น “พระอัฎฐารส” พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติสูง 18 ศอก เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารใหญ่แต่วิหารได้พังลงมาจนเหลือเพียงเสาศิลาแลง 3-4 ต้น ที่ด้านหลังพระอัฎฐารสมีพระปรางค์ประธานองค์ใหญ่สวยงามมาก และอีกวิหารหนึ่งที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามเดินผ่านไปนั่นก็คือ “วิหารพระเจ้าเข้านิพพาน” หรือ “วิหารหลวงพ่อสามพี่น้อง” ภายในประดิษฐาน “พระพุทธเจ้าเข้านิพพาน” วัตถุโบราณชิ้นสำคัญของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งคาดว่ามีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ลักษณะของพระพุทธเจ้าเข้านิพพานเป็นหีบบรรจุพระบรมศพ ที่ปลายหีบมีพระบาททั้งสองยื่นออกมา บริเวณด้านหน้าและด้านท้ายมีพระมหากัสปะเถระนั่งนมัสการพระบรมศพอยู่
|
|
|
|
หลังจากเดินเที่ยวชมส่วนต่างๆ ของวัด รวมถึงแวะสักการะพระพุทธรูปจนทั่ววัดแล้ว ก่อนกลับถ้าใครอยากจะบูชาพระเครื่อง ทั้งพระพุทธชินราชรูปหล่อองค์เล็ก องค์ใหญ่ ก็สามารถเดินไปเลือกหากันได้ที่บริเวณอาคารแถวด้านข้างของวัด ส่วนของฝากของ ของดีของเมืองพิษณุโลกก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ของดีติดไม้ติดมือกลับบ้านไป เพราะถัดออกไปอีกหน่อยก็จะเป็นโซนขายของฝาก ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายหลายร้าน ทั้งของกิน ของที่ระลึก รับรองได้ว่าต้องหิ้วกันเต็มสองมือแน่นอน
|
|
|
ที่อยู่ |
: |
92/3 ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก |
GPS |
: |
16.823333, 100.261767 |
เบอร์ติดต่อ |
: |
0 5525 9414, 0 525 9430 |
เวลาทำการ |
: |
ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.30-18.00 น. |
ช่วงเวลาแนะนำ |
: |
ตลอดทั้งปี |
ไฮไลท์ |
: |
พระพุทธชินราช พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ซึ่งมีพุทธลักษณะที่งดงามมาก จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในประเทศไทย |
กิจกรรม |
: |
สักการะขอพรพระพุทธชินราช รวมถึงพระพุทธรูปสำคัญองค์อื่นๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคล |
การเดินทางไปวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารนั้นไม่ยาก เมื่อมาถึงจังหวัดพิษณุโลกแล้ว จะเห็นป้ายบอกทางไปยังวัดเป็นระยะ ตลอดทุกเส้นทาง ซึ่งวัดตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ริมแม่น้ำน่าน ใกล้กลับศาลากลางจังหวัดนั่นเอง
ข้อมูลเเละภาพประกอบจาก