เทพแห่งไลน์เต้น! VERIVERY ให้สัมภาษณ์สื่อไทยแบบสดๆ หวังจะได้พบแฟนไทยเร็วๆ นี้

บันเทิง
เทพแห่งไลน์เต้น! VERIVERY ให้สัมภาษณ์สื่อไทยแบบสดๆ หวังจะได้พบแฟนไทยเร็วๆ นี้

VERIVERY บอยกรุ๊ปจากค่าย Jellyfish Entertainment คือกลุ่มศิลปินเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ ทั้งในเรื่อง การร้อง การเต้น และการแต่งเพลง

โดยมีเมมเบอร์ด้วยกันทั้งหมด 7 คน ได้แก่ DONGHEON (ดงฮอน) ลีดเดอร์ของวง, HOYOUNG (โฮยอง), MINCHAN (มินชาน), GYEHYEON (กเยฮยอน), YONGSEUNG (ยงซึง), YEONHO (ยอนโฮ) และ KANGMIN (คังมิน) มักเน่ของวง
 
ในฐานะที่เป็นวงครีเอทีฟไอดอล พวกเขาเดบิวต์เมื่อช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา ด้วยเพลงไตเติ้ล “Ring Ring Ring” (ริง ริง ริง) พร้อมกับโชว์ความสามารถที่หลากหลาย ซึ่งพวกเขาไม่เพียงแค่แต่งเพลงเองเท่านั้น แต่ยังลงมือทำอัลบั้ม และมิวสิควีดีโอเองอีกด้วย
 
 
ในปี 2020 นี้ VERIVERY กลับมาพร้อมผลงานอัลบั้มซีรีย์ FACE it โดยปล่อย FACE ME เป็นมินิอัลบั้มชุดที่ 3 ออกมา ตามด้วย FACE YOU มินิอัลบั้มชุดที่ 4 และ FACE US มินิอัลบั้มชุดที่ 5 ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563 
 
และเมื่อวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา VERIVERY ได้มาพบปะและร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชนไทยโดยเฉพาะ ถึงคอนเซ็ปและความพิเศษของนินิอัลบั้มชุดนี้ ผ่านทางออนไลน์ โดยส่งสัญญาณตรงสดๆ มาจากประเทศเกาหลีใต้
 
Q : คอนเซ็ปและความความพิเศษของอัลบั้ม FACE US คืออะไร
 
DONGHEON: อัลบั้ม FACE US นี้ คือเรื่องราวที่ 3 ในซีรีส์ FACE it ของ VERIVERY ปี 2020 โดยอัลบั้มทั้งหมดใน FACE it จะสื่อถึงเรื่องราวการต่อสู้กับความรู้สึกท้อและโดดเดี่ยว ที่วัยรุ่นหลายคนๆ และพวกเราได้เผชิญในโลกแห่งความเป็นจริงนี้  รวมถึงความปราถนาที่อยากจะสร้างอนาคตใหม่ไปด้วยกันครับ
 

ดงฮอน
 
MINCHAN: FACE ME คืออัลบั้มแรกในซีรีส์ FACE it เป็นอัลบั้มที่สื่อถึงการค้นหา และการเผชิญหน้ากับตัวเองอย่างกล้าหาญ อัลบั้มที่ 2 FACE YOU ด้วยความกล้าหาญนั้น ได้แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวความสัมพันธ์และความเข้าใจกันระหว่าง ME และ YOU และในอัลบั้มที่ 3 FACE US ก็จะเป็นเรื่องราวต่อจากการที่สองอัลบั้มก่อนหน้า คือ ME และ YOU ได้พบและเชื่อมต่อกัน เป็นโลกใบใหม่ที่พวกเราร่วมสร้างขึ้นมาด้วยกัน 
 
GYEHYEON: พวกเรามั่นใจกับอัลบั้มชุดนี้มาก เพราะเป็นอัลบั้มที่พวกเราได้โชว์สเน่ห์ และความสามารถทางดนตรีที่หลากหลาย ในสไตล์ของพวกเราอย่างเต็มที่  รวมถึงการแสดงที่พวกเราอยากโชว์ให้ทุกคนได้เห็นถึงพลัง และความแข็งแกร่ง ที่พัฒนาขึ้นจากอัลบั้มก่อนๆ ฝากทุกคนติดตามชมการแสดงของพวกเราด้วยนะครับ
 
Q : Title Track ของอัลบั้มชุดนี้ คือเพลง “G.B.T.B” ซึ่งย่อมาจาก “Go Beyond The Barrier” เพลงนี้มีความหมายอย่างไร และพวกคุณต้องการสื่อสารอะไรถึงแฟนๆ
 
YEONHO: เพลงไตเติ้ล G.B.T.B ย่อมาจากคำว่า Go Beyond The Barrier เป็นเพลงที่ทำให้รู้สึกถึงความกล้าหาญและเต็มไปด้วยพลัง หลังจากที่ทุกคนได้ฟัง FACE ME, FACE YOU และ FACE US ซึ่งก็คือพวกเรา ที่เกิดจากการเชื่อมต่อกันระหว่าง ME (ฉัน) และ YOU (คุณ) ที่ไม่ว่าพวกเราจะพบเจอกับอุปสรรคอะไร พวกเราก็จะสามารถเอาชนะและผ่านมันไปได้ครับ
 
Q : หลังปล่อยมิวสิควีดีโอเพลง “G.B.T.B” ออกมา กระแสตอบรับจากแฟนเพลง เป็นอย่างไรบ้าง
 
HOYOUNG: หลังจากแฟนๆ ได้ชมมิวสิควีดีโอ “G.B.T.B” แล้ว อย่างแรกเลยคือแฟนๆ ชมว่า พวกเราเท่ห์มากๆ ครับ พวกเรารู้สึกขอบคุณ และมีความสุขมากๆ ที่ได้ยินและได้อ่านคอมเม้นท์คำชมเหล่านั้น เพราะพวกเราทำงานกันหนักมากจริงๆ และนอกจาก VERRERs แฟนคลับของพวกเราแล้ว แฟนๆ KPOP คนอื่นๆ               ยังชมว่าพวกเรามีพัฒนาการในการเต้นที่สมบูรณ์แบบมากครับ
 
YONGSEUNG: แฟนๆ หลายคนชมว่า พี่ HOYOUNG และพี่ DONGHEON ร้องแร็ปได้เร็วและเท่ห์มากๆ และผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่ทุกคนชมว่า ท่อนคอรัส Go Beyond the Barrier~ ฟังติดหูมากครับ
 

ยงซึง
 
Q : ในมินิอัลบั้มชุดก่อนๆ พวกคุณได้มีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลง รวมถึงร่วมออกแบบท่าเต้นด้วย สำหรับมินิอัลบั้มชุดนี้ พวกคุณมีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง
 
GYEHYEON: เพลงที่ 5 ที่มีชื่อว่า SO GRAVITY ผมกับ DONGHEON และ YEONHO ได่ร่วมกันแต่งและเขียนเนื้อเพลงด้วย เพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังสบายๆ และเป็นเพลงโปรดของพวกผมด้วยครับ
 
DONGHEON: So Gravity ในภาษาเกาหลีคือ 소중력 (sojunglyeog) ที่มีความหมายว่า พลังดึงดูดพิเศษของพวกเรา นั่นคือพวกเราทุกคนมีความฝันและเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้น ความฝันก็เป็นเหมือนตัวแทนพวกเรา ซึ่ง US คือ ความฝัน และความฝันก็คือ US ครับ
 
YEONHO:  และเพลงนี้พิเศษมากๆ เพราะพี่ MINCHAN เตรียมตัวกำกับและวางแผนทั้งหมด เพื่อทำมิวสิควีดีโอเพลงนี้ขึ้นมาให้ทุกคนได้ชมด้วยตัวเอง หวังว่าทุกคนจะชอบครับ 
 

ยอนโฮ
 
Q : หลังจากได้ชม มิวสิควีดีโอ “G.B.T.B” แล้ว จะเห็นว่าท่าเต้นของพวกคุณดูทรงพลังและมีสเน่ห์ที่เหลือล้นมากๆ อยากให้พวกคุณ พูดถึงความพิเศษของท่าเต้นในเพลงนี้หน่อย และช่วยเล่าถึงเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มนี้ให้ฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
 
KANGMIN: เพลงนี้จะมีท่าเต้น ที่อยากให้ทุกคนได้เห็น คือท่า Climbing Dance ในเพลงจะพูดถึงอุปสรรคที่เราต้องพบเจอ ความท้าทายที่เราต้องเผชิญ และการต่อสู้เพื่อเอาชนะ ก็เกิดเลยเป็นเต้นท่า Climbing Dance เพื่อต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ที่เราต้องพบเจอครับ 
 
MINCHAN: ทุกคนรู้จักเพลง “G.B.T.B” กันไปแล้ว ผมขอแนะนำเพลงที่ 2 ในอัลบั้มที่มีชื่อว่า MY FACE ครับ เป็นเพลงที่ทุกคนฟังแล้วอาจจะรู้สึกหรือคิดว่ามันแปลก แต่ว่ามันฟังสบายๆ มากและก็จะเป็นเพลงที่ติดหูไปเลยครับ
 
KANGMIN: HOLD ME TIGHT เพลงที่ 3 เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เรา กำลังอยู่ในความมืดมน และหลังจากได้พบเธอ ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป เป็นความรู้สึกที่ดีขึ้น เหมือนได้เดินอยู่บนท้องฟ้าครับ    
 

คังมิน
 
HOYOUNG: สำหรับเพลงที่ 4 GET OUTTA MY WAY เป็นเพลงที่มีเสียงเบสหนักหน่วงและทรงพลังมากๆ ความหมายของเพลงนี้ก็คือ ในอนาคตไม่ว่าเราจะเจอเรื่องอะไร เราก็จะไม่หนี เราจะฝ่าฟันและเอาชนะมันไปให้ได้ครับ
 
Q : หลังจากเดบิวต์มาเกือบ 2 ปี อยากทราบว่า VERIVERY ตั้งแต่ตอนเดบิวต์จนถึงตอนนี้ พวกคุณมีการเปลี่ยนแปลงหรือเติบโตขึ้นอย่างไรบ้าง
 
GYEHYEON: พวกเรารู้สึกดีมากๆ ครับ 2 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้ทำอะไรหลายอย่าง ได้สร้างความทรงจำที่ดีกับแฟนๆ ของพวกเราทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่พวกเราได้มีโอกาสเข้าร่วมรายการ Road To Kingdom ที่ทำให้พวกเราได้เรียนรู้ถึงการแสดงออกบนเวที ทั้งในเรื่องของภาพลักษ์และลักษณะท่าทาง ซึ่งหลังจากจบรายการนี้ พวกเรารู้สึกว่า พวกเรามีพัฒนาการที่ดีขึ้นและยังรู้สึกว่า พวกเรานั้นดูเท่ห์ขึ้นด้วยครับ 
 

กเยฮยอน
 
Q : พวกคุณเคยมาร่วมแสดงในงาน KCON2019 ที่ประเทศไทย เมื่อปีที่ผ่านมา อยากให้เล่าประสบการณ์ความประทับใจ เมื่อตอนมาเมืองไทยและแฟนๆ ชาวไทยให้ฟังหน่อย
 
YONGSEUNG: ในงาน KCON 2019 ที่ประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว พวกเราได้มาเมืองไทย เป็นครั้งแรก รู้สึกว่าตื่นตาตื่นใจมากๆ ครับ ได้มีโอกาสเจอ VERRERs ชาวไทยแบบเต็มๆ   และได้มีโอกาสโชว์การแสดงของพวกเราให้ทุกคนได้ดูกันสดๆ ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ พวกเรารู้สึกขอบคุณมากๆ สำหรับการต้อนรับของทุกคนครับ นอกจากนี้ พวกเรายังได้มีโอกาสทานอาหารไทยที่อร่อยมากๆ อีกด้วยครับ
 
YEONHO: อาหารไทยอร่อยมากจริงๆ ครับ อาหารที่จำได้และอร่อยมากๆ คือ ต้มยำกุ้งและผัดไทย อยากทานอีกมากๆ เลยครับ ถ้ามีโอกาสอยากรีบมาเมืองไทยอีกครั้ง เพื่อมาเที่ยวและเรียนรู้ประเทศไทยเพิ่ม ที่สำคัญอยากมาแสดงที่เมืองไทยและเจอ VERRERs ชาวไทยอีกครับ 
 
Q : VERRERs ชาวไทย จะมีโอกาสได้พบพวกคุณที่ประเทศไทยอีกเมื่อไหร่
 
MINCHAN: ตอนนี้พวกเรารู้สึกเศร้ามากๆ ครับ ที่ไปหาทุกคนไม่ได้ เพราะต้องรอให้สถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นก่อน แต่ก็หวังว่าพวกเราจะมีโอกาสได้เจอกับทุกคนในประเทศไทยเร็วๆ นี้ครับ พวกเราอยากไปหาทุกคน ไปสร้างความทรงจำดีๆ และโชว์การแสดงสดๆให้ทุกคนได้ชมด้วยครับ
 

มินชาน
 
Q : สุดท้ายนี้ ให้ VERIVERY ฝากผลงานมินิอัลบั้ม “FACE US” กันอีกครั้ง
 
DONGHEON: ก่อนอื่นผม DONGHEON ขอเป็นตัวแทน VERIVERY ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนทุกๆ ท่าน ที่ให้เกียรติมาร่วมสัมภาษณ์พวกเราในวันนี้ พวกเราสัญญาว่าจะตั้งใจทำงาน  เพื่อตอบแทนความรักของทุกๆ คน และจะเป็น VERIVERY ที่มอบความหวังและมอบแต่สิ่งดีๆ ให้กับทุกๆ คน อยากให้ทุกคนติดตามและเป็นกำลังใจให้พวกเราตลอดไปด้วยนะครับ
 
HOYOUNG: สำหรับ VERRERs ชาวไทย ถึงแม้ว่าปีนี้พวกเราจะยังไม่สามารถไปพบกับ ทุกคนได้ ขอให้อดใจรออีกนิด และหวังว่าพวกเราจะได้พบกันเร็วๆ นี้ ในระหว่างนี้ พวกเราก็จะพยายามตั้งใจและทำงานให้หนักขึ้น เพื่อทำการแสดงให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป แล้วเจอกันนะครับ ขอบคุณครับ
 

โฮยอง
 
เเท็กที่เกี่ยวข้อง : VERIVERY FACE US