ชินจิ คากาวะ

กีฬา
ชินจิ คากาวะ

นักเตะญี่ปุ่นคนแรกของสโมสร ตกลงย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2012 และได้ตกลงเซ็นสัญญาย้ายทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ค. 2012 ด้วยสัญญา 4 ปี

Man Utd

ชื่อ: ชินจิ คากาวะ 
วันเกิด: 17 มีนาคม 1989
เมิองเกิด: โกเบ
ตำแหน่ง: กลองกลาง
หมายเลข: 26
เข้าร่วมทีม: 1 กรกฎาคม 2012
ทีมชาติ: ญี่ปุ่น

ชินจิ คากาวะ ตกลงย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2012 และได้ตกลงเซ็นสัญญาย้ายทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2012 ด้วยสัญญา 4 ปี ทำให้เขากลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกของสโมสร

คากาวะ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่มีการเล่นที่โดดเด่น โดยส่วนใหญ่เขาจะได้ลงเล่นในตำแหน่งหลังศูนย์หน้าตัวกลาง และเขาก็ยังสามารถปรับตัวไปเล่นในตำแหน่งอื่นๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

คากาวะ เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ เขาร่วมเล่นกับสโมสรมาริโน่ ตั้งแต่ปี 1994 จนถึงปี 1999 จากนั้นพออายุ 10 ขวบก็ไปเล่นกับสโมสรโกเบ เอ็นเค ในปี 1999-2001 และย้ายไปร่วมทีมเอฟซี มิยากิ บาร์เซโลน่า ในเมืองเซนได ในปี 2001-2005 จากนั้นทีมเซเรโซ โอซาก้า ก็ได้เห็นถึงพรสวรรค์ของเขา และตกลงเซ็นสัญญาคว้าตัวเขาไปเล่นกับทีมในปี 2006 ซึ่งในขณะนั้นคากาวะมีอายุเพียง 17 ปี ทำให้เขากลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกที่เซ็นสัญญาเล่นฟุตบอลอาชีพตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยม

คากาวะ ช่วยทีมเซเรโซ โอซาก้า ในการเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน J ลีก และเขาสามารถทำประตูได้ 55 ประตูจากการลงเล่นให้ทีมทั้งหมด 125 นัด ในระยะเวลา 5 ปีกับทีม จากนั้นฟอร์มการเล่นของเขาก็ไปเตะตาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมแชมป์เยอรมันจึงได้ดึงตัวเขาไปร่วมทีมในฤดูกาล 2010 ด้วยค่าตัว 350,000 ยูโร

คากาวะ ทำประตูแรกในบุนเดสลีกาได้ในวันที่ 18 กันยายน 2010 ในเกมที่ดอร์ทมุนด์ พ่ายต่อ ฮันโนเวอร์ 96 ไป 2-1 จากนั้นคากาวะ ก็โชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมสม่ำเสมอ และในฤดูกาล 2010/2011 นี้เขาสามารถทำประตูได้ 8 ประตูจากการลงเล่น 18 นัด

สำหรับเกมกับทีมชาติ คากาวะเป็นคนนักเตะคนหนึ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมตลอดกาลของญี่ปุ่น เขามีชื่อติดทีมชาติญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2007 ในทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 20 ปีเพื่อไปสู้ศึกฟุตบอลโลกที่แคนาดา รวมทั้งทีมชาติชุดลงแข่งโอลิมปิกในปี 2008 เกมแรกของเขากับทีมชาติชุดใหญ่เกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ค. 2008 ในเกมคิริน คัพ ที่ญี่ปุ่นต้องพบกับไอเวอร์รี่ โคสท์ แต่หลังจากนั้นอีก 2 ปี เขากลับไม่ได้รับเลือกให้ติดทีมชาติชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ จากนั้น เขาก็มีชื่อติดทีมชาติอีกครั้งในเกมเอเชี่ยนคัพ 2011 แต่ต้องได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกในรายการนี้ ทำให้เขาต้องพักถึง 5 เดือนจึงจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในเกมสุดท้ายของฤดูกาล

ในฤดูกาล 2011/12 เขาได้กลับมาเป็นนักเตะตัวสำคัญของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อีกครั้ง และก็ช่วยให้ทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งแชมป์บุนเดสลีกา และแชมป์เดเอฟเบ โพลคา จากการทำประตู 17 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 43 นัดในทุกรายการ

จากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ได้เดินทางไปดูฟอร์มการเล่นของคากาวะด้วยตนเอง จากการลงสนามในเกมนัดชิงชนะเลิศเดเอฟเบ โพคาลระหว่างดอร์ทมุนด์ กับบาเยิร์น มิวนิค ในกรุงเบอร์ลิน และคากาวะก็เป็นผู้ทำประตูแรกในเกมนี้ และมีส่วนสำคัญในแดนกลางที่ช่วยให้ทีมเอาชนะบาเยิร์นไปได้ 5-2

จากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น และน่าตื่นตาตื่นใจ ของมิดฟิลด์ตัวรุกผู้นี้ เป็นไปได้ว่าเขาจะมาสร้างสีสันให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และดูจากสไตล์การเล่นแล้ว แน่นอนว่าเขาต้องกลายเป็นขวัญใจแฟนๆ ได้ในไม่ช้า 

ข้อมูลจาก : http://www.redarmyfc.com/