ตลาดบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม

กินเที่ยว
ตลาดบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม

ตลาดบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม




เกือบๆ สุดเขตจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นที่ตั้งของตลาดน้ำเก่าแก่ที่ตายไปพร้อมกับความทรงจำของคนรุ่นเก่าก่อน ในอดีตนับแต่สมัยสงครามโลกตลาดแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทางน้ำที่ สำคัญ และคึกคักครึกครื้นมากที่สุดเพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองอันเป็นเสมือนจุด นัดพบของชาวทะเล และชาวบกที่จะนำสิ่งของจากทั้งสองแหล่งมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน จนกระทั่งการเดินทางสัญจรทางบกกลายมาเป็นสิ่งสำคัญแทนการเดินทางทางน้ำ ตลาดแห่งนี้ก็ค่อยๆ เลือนหายห่างไกลไปจากผู้คนที่ใช้รถใช้ถนนแทนเรือ


  เป็น เวลากว่าหกสิบปีที่ห้องแถวไม้ริมแม่กลองแห่งนี้ถูกทิ้งให้อยู่เคียงข้างสาย น้ำอย่างเงียบเหงา จนกระทั่งโครงการฟื้นฟูวัฒนธรรมของเมืองสมุทรสงครามถูกหยิบยกขึ้นมาลงมือ ตลาดน้ำปากคลองบางนกแขวกแห่งนี้จึงเริ่มกลับมาหายใจอีกครั้งด้วยความร่วมมือ ของชาวชุมชน บ้านเรือนถูกปัดกวาดและตกแต่งทาสีเสียใหม่


   สิ่ง ของเก่าแก่โบร่ำโบราณที่ดูไม่มีค่าก่อนหน้านี้กลับกลายมาเป็นตัวเอกของท้อง เรื่องอีกครั้งในยุคที่ผู้คนนิยมการท่องอดีตในปัจจุบัน อาหารการกินเมื่อครั้งโบราณที่ยอมพ่ายแพ้ต่ออาหารบรรจุถุงเริ่มผงาดขึ้นมา อยู่แถวหน้า ชีพจรของตลาดบางนกแขวกเริ่มเต้นอีกครั้งด้วยแรงส่งของสายลมและผืนน้ำที่ไม่ เคยหยุดนิ่งแห่งสายน้ำแม่กลอง


   บรรยากาศ ที่น่าสนใจของตลาดน้ำแห่งนี้ไม่มีทางเห็นได้เลยหากขับรถอยู่บนถนนเส้นปกติ หากไร้ซึ่งป้ายบอกทางให้แวะเข้ามาแล้ว ใครต่อใครก็คงจะเลยผ่านไปเพราะมองเข้ามาก็เห็นแต่ถนนเล็กๆ ที่มีบ้านคนไม่กี่หลัง เลยจากนั้นไปก็เป็นเรือกสวนและท้องร่องที่ปิดตลาดแห่งนี้เอาไว้เสียมิดสายตา


   จาก ที่จอดรถ เดินเข้าตรอกเล็กๆ ตามป้ายบอกทางเข้าตลาด เราก็ยังมองไม่เห็นว่ามันจะเป็นตลาดไปได้ยังไง? จนกระทั่งมาทะลุถึงริมน้ำแม่กลองความประหลาดและบรรยากาศที่แปลกไปก็จู่โจม เข้ามาแบบไม่รู้ตัว ทางเดินเลียบแม่น้ำหน้าอาคารไม้สายนั้นเรียงรายไปด้วยร้านรวงและสินค้านานา ชนิดหลากรสชาติชนิดที่ชิมร้านละนิดละหน่อยก็อาจท้องแตกตายได้ บวกกับอัธยาศัยไมตรีอย่างดีเยี่ยมของชาวบ้านร้านตลาดแห่งนี้รวมเข้ากับสายลม เย็นริมแม่น้ำตลอดเวลา เราก็เหมือนกับหลุดออกมายังอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว   “ก็เพราะเมื่อก่อนนี้ด้านติดแม่น้ำคือด้านหน้า ส่วนที่ติดถนนคือด้านหลัง เพราะเขาใช้เรือกันไงล่ะ” แม่ค้าที่นั่นอธิบายให้ฟัง แค่นี้เราก็ถึงบางอ้อเพราะนึกภาพออกว่าทำไมด้านถนนถึงหงอยเหงาผิดกับด้านแม่ น้ำแบบนี้ “ตลาดนี้คึกคักมากเลยนะเมื่อสมัยก่อนน่ะ โรงยาฝิ่นก็มี ซ่องนางโลมก็มี คิดดูเอาเองก็แล้วกัน”


   เดิน เพลินๆ อยู่ไม่นาน เราก็มาสะดุดอยู่กับร้านที่ขายอาหารชื่อแปลก “ข้าวแห้งไก่” คือชื่อที่ขอสารภาพว่าเกิดมาจนป่านนี้แล้วก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน พี่สาวใจดีของร้านจัดแจงส่งมาให้ชิม...ทำไมคุ้นกับรสชาติอร่อยแบบนี้จังแฮะ? นึกยังไงก็นึกไม่ออก...   “ข้าวต้มที่ไม่มีน้ำไงล่ะ” เสียงพี่เจ้าของร้านเฉลยมา เสร็จกัน...เล่นมุกกับชาวบ้านมานาน มาตายน้ำตื้นเอากับข้าวแห้งไก่แห่งแม่กลองนี่เอง...อือ...ข้าวต้ม ข้าวแห้ง...จำไว้เลยเรา คนจีนแถวนี้ในสมัยก่อนก็ต้องกินข้าวต้มช่วงเช้าก่อนจะออกไปทำงานใช้แรงงาน ซึ่งไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนข้าวต้มก็คือข้าวต้มที่อิ่มง่ายแต่หายเร็ว ออกไปขุดดินทำสวนได้ไม่กี่ฉึกก็หิวอีกแล้ว ข้าวต้มมื้อเช้าจึงถูกสั่งให้ใส่น้ำน้อยลงและน้อยลงเรื่อยๆ เพื่อให้หนักท้อง จนกระทั่งที่สุดแล้วก็เลยกลายเป็น “ข้าวแห้ง” ซึ่งก็คือข้าวสุกที่ไม่มีน้ำนั่นเอง...อันนี้คือประวัติที่เจ้าของร้าน “ข้าวแห้งไก่เฮียเกียรติ เจ้าเก่าดั้งเดิม” เล่าให้ฟัง


   แต่ จะบอกว่าคือข้าวสวยก็ยังไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะต้องผ่านเทคนิคในการแปลงข้าวบางอย่างก่อนจะนำมาใช้ทำเป็นข้าวแห้งได้ มีทั้งสูตรที่เป็นไก่ หมู และปลาให้ลองเทส แถมด้วยเครื่องปรุงประหลาดที่คุ้นเคยอย่าง “ปาท่องโก๋” ใส่ลงไปแจมอยู่ในนั้นด้วย อันนี้ที่อื่นไม่มี...เจ้าของร้านเขาว่าอย่างนั้น อยากรู้ว่า “ข้าวแห้งไก่” รสชาติจากอดีตกาลเป็นอย่างไรก็ต้องลองไปชิมดูเอาเอง อย่าเอาข้าวต้มไปเทน้ำทิ้งนะ ไม่เหมือนแน่ๆ ...อันนี้คอนเฟิร์ม!

 

ที่มา : tiewpakklang